เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม นายถวิล ไพรสณฑ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำงานครบ 3 ปีของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าที่ผ่านมา การปฏิรูประบบราชการ นับตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามา มีการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ระบบราชการทั้งหมด ตรงนี้เป็นที่มาของการคอร์รัปชั่น เพราะรัฐบาลทำการลดอำนาจของประชาชน โดยที่ไม่มีการปฏิรูปแก้ไขในส่วนนี้อย่างจริงจัง ในยุคโลกาภิวัฒน์
นายถวิลกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องทำกับระบบราชการคือ ลดอำนาจข้าราชการ และข้าราชการการเมือง แล้วไปเพิ่มอำนาจให้กับประชาชน ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา การแก้ไขกฎหมายสำคัญๆ ต่างๆ รัฐบาลให้อำนาจข้าราชการการเมืองเป็นผู้แก้ปัญหา โดยไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมแต่อย่างใด การกระทำเช่นนี้แก้ไขปัญหาไม่ได้ในระยะยาว เนื่องจากประชานในแต่ละภูมิภาคมีความต้องการหลากหลายแตกต่างกันไป แม้กระทั่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ แทนที่จะให้อำนาจประชาชน เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือ สร้างพลังประชาชนให้เข้มแข็ง ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบอำนาจรัฐ
“ยุคการเมืองที่มีอำนาจพิเศษ การทุจริตคงมีพอๆกับยุครัฐบาลปกติ เพราะมีจุดอ่อนที่ถือเป็นจุดใหญ่มาก คือ ไม่มีอำนาจใดที่สามารถตรวจสอบรัฐบาล คสช. ได้ แม้รัฐบาล คสช. ชอบพูดว่า มีการวางนโยบาย หรือการบูรณาการอยู่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แต่ในความเป็นจริงนั้น การบูรณาการที่เขาว่า เป็นการให้อำนาจข้าราชการและข้าราชการการเมืองทั้งสิ้น นอกจากนี้ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต รัฐบาลได้มีการวางกฎหมายที่มีบทลงโทษรุนแรงขึ้น เช่น การตั้งศาลทุจริตคอร์รัปชั่น แต่การบังคับใช้กฎหมายเราไม่เห็นภาพที่ชัดเจนเลย ดังนั้นตราบใดที่ไม่ให้อำนาจประชาชนตรวจสอบอำนาจรัฐและข้าราชการ เราก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นได้” นายถวิล กล่าว
