กองทัพพม่าเสนอชื่อ‘มินต์ ส่วย’ อดีตสมาชิกสายเหยี่ยวในรบ.ทหารเป็นรองประธานาธิบดี

ภาพไฟล์ มินต์ ส่วย (คนซ้าย) /AFP PHOTO / ROMEO GACAD

สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มีนาคม สภาผู้แทนราษฎรพม่าลงมติรับรองการส่งนายติน จ่อ คนสนิทของนางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ขณะที่วันเดียวกันนี้ในกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของพม่า แหล่งข่าวรายหนึ่งที่เป็น 1 ในสมาชิกรัฐสภา 166 คนที่มาจากกองทัพเปิดเผยว่า สมาชิกรัฐสภาในส่วนของกองทัพ ประชุมแบบปิดลับและลงมติเสนอชื่อนายพลเกษียณอายุ มินต์ ส่วย อดีตสมาชิกสายเหยี่ยวในรัฐบาลทหาร ที่ยังคงมีรายชื่ออยู่ในบัญชีการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา เป็นตัวแทนของกองทัพในการรับตำแหน่งรองประธานาธิบดีโดยไม่มีใครคัดค้านการเสนอชื่อครั้งนี้ เป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่านางซูจี และนายติน จ่อ ว่าที่ประธานาธิบดีพม่าที่เป็นตัวแทนของเธอยังคงต้องเผชิญกับศึกหนักที่รออยู่ข้างหน้า

รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบมากกว่า 50 ปีของพม่า ต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากในการจะนำมาซึ่งการปฏิรูปและผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตตามความต้องการของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องทำงานร่วมกับกองทัพที่ยังคงยึดกุมอำนาจทางการเมืองบางส่วนไว้ด้วย

ข่าวระบุว่า เมื่อครั้งที่พลเอกอาวุโส ตาน ฉ่วย ผู้นำรัฐบาลทหารพม่าในขณะนั้น สั่งให้มีการปราบปรามการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลของพระสงฆ์จำนวนมากเมื่อปี 2550 หรือที่รู้จักกันในชื่อการปฏิวัติสีหญ้าฝรั่น หรือ “แซฟฟรอน เรฟโวลูชั่น” นั้น มินต์ ส่วยได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษในนครย่างกุ้ง

สมาชิกพรรคเอ็นแอลดีส่วนหนึ่งแสดงปฏิกิริยาต่อการเสนอชื่อครั้งนี้โดยระบุว่าการเลือกมินต์ ส่วย ถือว่าสวนทางกับบรรยากาศที่ต้องการความปรองดอง

Advertisement

สมาชิกระดับสูงในพรรคเอ็นแอลดีรายหนึ่งกล่าวว่า “นางซูจีพยายามอย่างหนักที่จะเจรจากับทหารเพื่อให้เกิดการปรองดองภายในชาติขึ้น แต่พวกเขาไม่เชื่อถือเรา และนี่เป็นความพยายามสุดท้ายที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง”

ยาน เมียว เต็ง นักวิเคราะห์การเมืองพม่าระบุว่า “มินต์ ส่วย มีความใกล้ชิดกับอดีตเจ้าหน้าที่กองทัพระดับสูงหลายรายโดยเฉพาะพล.อ.อาสุโสตาน ฉ่วย การเสนอชื่อมินต์ ส่วยอาจหมายความว่าพล.อ.อาสุโสตาน ฉ่วยยังคงทรงอิทธิพลอยู่หลังฉาก”

ทั้งนี้ มินต์ ส่วย ยังคงอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ที่ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐคว่ำบาตร จากบทบาทเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งในรัฐบาลทหาร ก่อนหน้านี้ เขาเคยได้รับการเสนอชื่อให้เป็นรองประธานาธิบดีในรัฐบาลกึ่งพลเรือนเมื่อปี 2554 แต่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเนื่องจากลูกเขยของเขามีสัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งขัดกับข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยกองทัพระบุว่า ห้ามบุคคลที่มีพ่อแม่ คู่สมรส บุตร หรือคู่สมรสของบุตรเป็นชาวต่างชาติขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ที่เป็นข้อห้ามเดียวกันกับที่ขัดขวางนางซูจี

Advertisement

อย่างไรก็ตามรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวระบุว่า ลูกเขยของมินต์ ส่วยได้สละสัญชาติออสเตรเลียเรียบร้อยแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image