รอยร้าว ร้าวลึก ฟ้อง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค บ้านป่า รอยต่อ

คอลัมน์หน้า 3 : รอยร้าว ร้าวลึก ฟ้อง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค บ้านป่า รอยต่อ

ประหนึ่งว่าคำบัญชาให้มีการฟ้อง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จะเป็นป้องกันตัว

ป้องกันตัวผ่านกระบวนการ “ปฏิเสธ”

โดยพื้นฐานแล้วก็คือ ปฏิเสธต่อ “การวิเคราะห์” ในลักษณะอันเป็น “การกล่าวหา” จากบุคคลทั้ง 2 ที่จะอยู่ในฐานะ “จำเลย”

คำถามก็คือ 2 คนนี้ “กล่าวหา” อะไร และอย่างไร

Advertisement

คำตอบก็คือ เป็นการกล่าวหาถึง “เงื่อนงำ” อันนำไปสู่สถานการณ์ “สภาล่ม” ซึ่งส่งผลสะเทือนเป็นอย่างสูงในทางการเมือง

คว่ำสูตร 500 หาร นำไปสู่สูตร 100 หาร

คำถามก็คือ อุบัติแห่งสูตร 500 หารซึ่งสวนความต้องการเดิมของร่าง พ.ร.ป.ที่ผ่านวาระหนึ่ง ผ่านวาระกรรมาธิการเกิดขึ้นได้อย่างไร

Advertisement

ตรงนี้แหละที่ “สำคัญ” และ “ยอกย้อน” ซ่อนเงื่อน

ความยอกย้อนซ่อนเงื่อนซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวาระแรกกับวาระของคณะกรรมาธิการมิได้อยู่นอกเหนือความรับรู้ของสังคม

โดยเฉพาะ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร

ไม่ว่าจะมองจากการเป็น “กรรมาธิการ” ไม่ว่าจะมองจากการเป็นอดีต “กกต.” ไม่ว่าจะมองจากการเป็นประธาน “ยุทธศาสตร์” พรรคเสรีรวมไทย

ไม่ว่าจะมองจากการเคยเป็น “ผู้สมัคร” ของพรรคประชาธิปัตย์

การออกโรงของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เมื่อมองทะลุไปยังเงาของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

จึงมากด้วย “คำถาม”

กระนั้น คำถามที่ร้อนแรงและสร้างความหงุดหงิดให้ “บ้านป่ารอยต่อ” มากกว่ากลับเป็นของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

นี่คือ ความละเอียดอ่อนและอ่อนไหวยิ่ง

ละเอียดอ่อนเพราะว่า 1 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เคยเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และอยู่ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคจึงถือได้ว่า คลุกอยู่ใน “วงใน” อย่างลึก

ยิ่งกว่านั้น เมื่อพ้นจากสมาชิกภาพแห่งพรรคพลังประชารัฐมาแล้วก็ยังดำรงอยู่ในสถานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

ได้รับความวางใจจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ไม่เพียงแต่มอบหมายงานทางการเมืองให้อย่างต่อเนื่อง หากแต่ยังสร้างความเชื่อว่าเป็น “มือ” หนึ่งในการเดินทาง “การเมือง”

รูปธรรมสำคัญคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ

การออกโรงวิพากษ์สถานการณ์ “สภาล่ม” การตอบโต้ด้วยการฟ้องร้องจาก “บ้านป่ารอยต่อ” จึงดำเนินไปอย่างมีปฏิสัมพันธ์

เข้าทำนอง “หยิกเล็บ เจ็บเนื้อ”

การฟ้องร้องต่อ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค คือ ตัวอย่างสดๆร้อนๆ สะท้อนความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ “ภายใน” ของ “กลุ่ม 3 ป.”

ดำเนินไปในลักษณะ “สงครามตัวแทน”

เมื่อนำเอาปมและประเด็นแห่งความขัดแย้ง ความไม่พอใจจากทั้ง 2 ฝ่ายประมวลมาดำเนินการสังเคราะห์ก็จะประจักษ์

ประจักษ์ในสภาวะ “เบียดขบ” ในทาง “การเมือง”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image