จาก หมวก 2 ใบ 4 รัฐมนตรี พลังประชารัฐ นำสู่‘ทุกขลาภ’

ไม่ว่ากรณีโต๊ะจีน 650 ล้านบาท อันปรากฏขึ้นที่อิมแพค เมืองทอง ไม่ว่ากรณีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอันปรากฏขึ้นที่ขอนแก่น ยโสธร

สะท้อนลักษณะ “นัวเนีย” ของ “เครือข่าย”

1 สัมพันธ์กับรัฐมนตรี สัมพันธ์กับโครงการของรัฐ 1 สัมพันธ์กับพรรคพลังประชารัฐอย่างยากที่จะแยกออกได้

นั่นคือ การโยงระหว่าง “ประชารัฐ” กับ “พลังประชารัฐ”

Advertisement

หากไม่มี 4 รัฐมนตรีดำรงอยู่ในฐานะหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรค จะสามารถระดมทุน 650 ล้านบาท ได้ภายในชั่วข้ามคืนหรือ

หากไม่มี “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” เข้าไปหนุนเสริม “ประชารัฐ” จะมีพลังระดับนี้ได้หรือ

ความสัมพันธ์ระหว่าง “ประชารัฐ” กับ “4 รัฐมนตรี” และ “พรรคพลังประชารัฐ” จึงเป็นความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อน

Advertisement

เหมือนจะเป็น “คุณ” แต่ก็อาจกลายกลับเป็น “โทษ”

ปรากฏการณ์ที่ยโสธร ปรากฏการณ์ที่ขอนแก่น ก็อีหรอบเดียวกับที่เคยมีการโวยขึ้นมาที่สุโขทัย ที่พัทลุง และรวมถึงนครราชสีมา

นั่นก็คือ ใช้บัตร “อสม.” เป็นตัวล่อ

ล่อ 1 คือ ผลประโยชน์ที่ได้จากการช่วยเหลือผ่านอาสาสมัครสาธารณสุข

ล่อ 1 คือ การนำไปบรรจุอยู่ในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

จาก “บัตรประชาชน” เป็น “บัตรคนจน” เป็น “สมาชิก” พรรคพลังประชารัฐ

เช่นเดียวกับกรณีการระดมทุนผ่านโต๊ะจีน 200 โต๊ะ ราคาโต๊ะละ 3 ล้านบาท รวมแล้วเป้าหมายคือ 600 ล้านบาท

แต่สามารถทำเป้าได้กว่า 650 ล้านบาท

เมื่อปรากฏว่าบัตรขายผ่านกระทรวงบางกระทรวง ผ่านรัฐวิสาหกิจบางรัฐวิสาหกิจ ซึ่งสัมพันธ์กับ 4 ยอดกุมาร ก็สะท้อนให้เห็นท่อแห่งผลประโยชน์ที่ดำรงอยู่ของการไม่ลาออกจากตำแหน่ง

นี่ย่อมเป็น “ผลดี” ย่อมเป็น “รายรับ” ในทางการเมือง

คําถามอันตามมาก็คือ แล้วทำไมการจัดเลี้ยงโต๊ะจีน 650 ล้านบาท จึงกลายเป็นความอื้อฉาว เกิดการนินทาจากตอนค่ำวันที่ 19 กระทั่งวันที่ 25 ธันวาคม ก็ยังไม่จบ

จากที่คิดว่าเป็น “เรื่องสั้น” กลับเป็น “นวนิยาย”

คำถามที่ตามมาก็คือ บทบาทของนายอำเภอ บทบาทของผู้ว่าราชการ ทุกจังหวัดซึ่งระบุในเรื่องการทำบัตร อสม. บัตรคนจน ประสานกับบัตรประชาชนและสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

เริ่มปรากฏจากเพียง “ข่าวลือ” พัฒนาเป็น “คลิปวิดีโอ”

เจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ว่านายอำเภอ ตกเป็นเป้าแห่งการวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน

แต่ที่สุดก็ไปรวมศูนย์อยู่ที่ “4 ยอดกุมาร”

นั่นคือ รัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้าพรรค รัฐมนตรีที่เป็นรองหัวหน้าพรรค รัฐมนตรีที่เป็นเลขาธิการพรรค รัฐมนตรีที่เป็นโฆษกพรรค

จากที่คิดว่าเป็น “รายรับ” กลับพลิกเป็น “รายจ่าย”

เดิมคิดว่าที่สวมหมวก 2 ใบ ระหว่างรัฐมนตรีกับการเป็นหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรค เป็นผลดี

เปิดเกม “รุก” ทางการเมืองได้อย่างสะดวกโยธิน

แต่ความอื้อฉาวอันเนื่องจากโต๊ะจีน 650 กว่าล้านบาท ความอื้อฉาวอันเนื่องจากการประสานระหว่าง บัตรประชาชน บัตร อสม. บัตรคนจน กับการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

ก็สะท้อนลักษณะ “รับ” อย่างเด่นชัด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image