ดุลยภาพดุลยพินิจ : ปัญญาสร้างสันติภาพ

สงครามและสันติภาพระหว่างรัฐมีผู้นำทางการปกครองเป็นผู้ตัดสินใจ ไม่ว่าการปกครองนั้นจะเป็นแบบเสรีประชาธิปไตย สังคมนิยม หรือนีโอนาซี และไม่ว่าระบอบนั้นจะมีเศรษฐกิจแบบทุนนิยมโดยเอกชนหรือทุนนิยมโดยรัฐ

ความรุนแรงของสงครามจึงอยู่ในมือของผู้ปกครองและมาจากจิตใจของผู้ปกครอง สันติภาพก็เป็นเช่นเดียวกัน

ความเป็นมิตรนำไปสู่ความร่วมมือในขณะที่ความเป็นศัตรูนำไปสู่รอยแผลและศึกสงคราม

เมื่อสงครามมีความรุนแรงการประนีประนอมก็อาจแทรกขึ้นมาได้ ฝ่ายที่ได้ประโยชน์อาจยุแหย่ส่งเสริมแต่ฝ่ายที่ได้รับผลเสียหายมักร้องให้มีการประนีประนอมในขณะที่คู่สงครามเองก็อาจต้องการประนีประนอม ถ้ากังวลว่ากำลังเกิดความเสียหายที่รุนแรงเกินคาด หรือถ้าต้องการใช้การเจรจาไปในเชิงกลยุทธ

Advertisement

การสงครามจึงมักมีช่วงพักรบ หรือเจรจาเป็นระยะๆ ถ้าช่วงเวลาเหล่านี้มีความยาวนาน สงครามก็อาจลดความเข้มข้นลง คู่สงครามจะมีเวลาแก้ไขให้การตอบโต้พอเหมาะแก่ตน

ประธานาธิบดีเคนเนดี้ และประธานาธิบดีครุสชอฟเคยถอยหลังคนละก้าวเมื่อความขัดแย้งของสองประเทศถึงจุดที่ใกล้ความหายนะ แม้ว่าความตึงเครียดระหว่างกันจะยังคงดำเนินต่อไป

การที่คู่ศัตรูต่างยังหวังเพียงชัยชนะจะทำให้การเจรจาสันติภาพขาดความจริงใจ ผู้นำที่รอบคอบอาจมีอุเบกขาในการตอบโต้แต่อุเบกขาดังกล่าวก็ยากที่จะคงอยู่ได้นาน หากผู้นำขาดปัญญาที่ศรัทธาในสันติภาพ

Advertisement

ปัญญามาจากการตระหนักว่าความขัดแย้งและความเป็นศัตรูเปลี่ยนแปลงได้เสมอ มีการก่อตัวและมีการสลายไปตามเหตุของมัน ปัญญาจะหาทางออกให้กับความขัดแย้งและความไม่รู้จักพอ

ปัญญาให้อุบายที่หายากในหมู่ผู้มีอำนาจรัฐมิฉะนั้นการก่อสงครามและการลุแก่อำนาจก็ไม่อาจอุบัติตั้งแต่เริ่มต้น สิ่งที่หาได้ง่ายกลับเป็นความฉลาดในการวางแผนและการดำเนินกลยุทธ์ให้ตนมีชัยในสงคราม

ความฉลาดในการสงครามไม่นับเป็นปัญญาเพราะเป็นอุบายที่สร้างแรงแค้นให้เกิดขึ้นกับฝ่ายที่ถูกทำลายและสร้างความหลงให้แก่ตน การประหัตประหารกันกลับไปกลับมาจะสืบทอดต่อไปอีก

ในคัมภีร์โบราณมหาภารตยุทธและเทวาสุรสงครามเป็นตัวอย่างของสงครามล้างแผ่นดินและสวรรค์

ในยุคสมัยใหม่สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 เป็นตัวอย่างของสงครามที่รุนแรงจนเป็นมหากาพย์เช่นเดียวกัน

เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 การแย่งชิงอาณานิคมในรูปแบบใหม่ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งดุลอำนาจของเจ้าอาณานิคมสมัยใหม่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปและไม่ลงตัวครั้งใหญ่อีกครั้ง

ความเจริญและวิทยาการทางวัตถุอาจมีส่วนทำให้มนุษย์ฉลาดล้ำในการแย่งชิง ครอบครองและทำลายล้างกันง่ายมากขึ้น อุบายอธรรมถูกใช้ไปเพื่อแสนยานุภาพและการเอาชนะในขณะที่แสนยานุภาพและชัยชนะที่ได้ก็ผลักดันให้ใช้อุบายอธรรมในการครอบครองให้แน่นหนายิ่งขึ้น

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองสหรัฐอเมริกาเข้าครอบครองอำนาจโลกเป็นส่วนใหญ่แต่โลกแห่งอำนาจก็ถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ โลกเสรีของสหรัฐอเมริกา โลกสังคมนิยมแบบส่งออกของสหภาพโซเวียตและโลกสังคมนิยมที่มุ่งรักษาบูรณภาพภายในของจีน

ในสมัยครุสชอฟ จีนระหองระแหงกับโซเวียตเรื่องชายแดน ประธานาธิบดีนิกสันได้ริเริ่มสร้างความเป็นมิตรกับจีนอย่างชาญฉลาด ความสัมพันธ์กับจีนฟื้นฟูจนถึงสมัยประธานาธิบดีคาร์เตอร์ซึ่งในสมัยนั้นจีนได้ตัดสินใจทำสงครามสกัดเวียดนามที่กำลังคุกคามกัมพูชาและไทย

ประธานาธิบดีเรแกนประสบความสำเร็จในการแยกฝ่ายพลเรือนออกจากฝ่ายทหารในโซเวียตและแยกฝ่ายที่ต้องการความอยู่ดีกินดีออกจากฝ่ายความมั่นคง การสัญญากับประธานาธิบดีกอร์บาชอฟทำให้โซเวียตขาดเอกภาพจากภายในและล่มสลายในที่สุด

ประธานาธิบดีบุชให้สัญญาว่านาโต้จะไม่กดดันทางการทหารต่อรัสเซียแต่ประธานาธิบดีคลินตันได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์มาขยายอิทธิพลของนาโต้เข้าประชิดรัสเซียที่กำลังอ่อนแอจนเกิดความตึงเครียดที่จอร์เจียและทะเลดำในสมัยประธานาธิบดีจีดับบลิวบุชผู้ลูก

บุชผู้ลูกใช้มาตรการอย่างอ่อนต่อรัสเซียแต่พุ่งเป้าไปที่ “อักษะปีศาจ” อันได้แก่ เกาหลีเหนือ อิหร่าน และอิรักแทน เหตุการณ์ 911 มีส่วนส่งเสริมให้สหรัฐญาติดีต่อจีน

ในสมัยประธานาธิบดีโอบามา ซึ่งนางฮิลลารีคลินตันเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศเป้าหมายยังอยู่ที่ตะวันออกกลางแต่ใช้แนวทางบูรณาการทั้งอ่อนและแข็งในการสร้างค่านิยมแบบอเมริกันให้แพร่ขยายไปทั่วโลก

มีการใช้มาตรการแซงก์ชั่นรัสเซียอย่างหนัก มีการโค่นรัฐบาลยูเครนที่นิยมรัสเซีย ซึ่งจากนั้นรัสเซียก็โต้กลับด้วยการผนวกไครเมียและต่อด้วยการเข้าโจมตียูเครนในปัจจุบัน

รัฐบาลโอบามาริเริ่มนโยบายปิดล้อมจีนแต่ในขณะนั้นนางคลินตันยังประเมินว่าจีนจะแตกสลายจากภายในด้วยพลังเสรีนิยม สหรัฐหันมายอมรับรัฐบาลสลอร์กของเมียนมาและเปิดฉากอย่างเป็นทางการด้วยการเยือนเมียนมาของโอบามาและ
ฮิลลารี คลินตัน

ทรัมป์ริเริ่มแนวทางสงครามการค้าเพื่อกำราบจีน มีการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซียในขณะที่เกิดความยุ่งเหยิงในฮ่องกง

ไบเดนสานต่อแนวทางของโอบามาเปิดศึกทั้งกับจีนและรัสเซีย เพราะเชื่อมั่นในความเหนือกว่าและไม่ต้องการทอดเวลาให้นานเกินไป จีน ไต้หวันและญี่ปุ่นเร่งสะสมกำลังอาวุธ รัสเซียบุกยึดยูเครนต่อจากไครเมียตามคาด สหรัฐใช้มาตรการทางการทหารกับรัสเซียในยูเครนและพร้อมใช้มาตรการแบบเดียวกันกับจีนในไต้หวัน

คำมั่นสัญญาต่างๆ ตั้งแต่สมัยนิกสันจนถึงบุชจึงค่อยๆ สลายไปอย่างสิ้นเชิง

ประธานาธิบดีของสหรัฐล้วนฉลาดอย่างจักรพรรดิราชทว่าความฉลาดเหล่านี้มิใช่ปัญญา ปฏิกิริยาของความเป็นศัตรูกลับสะท้อนกลับเพิ่มขึ้นและทำให้โลกก้าวเข้าสู่สงครามที่ใช้ขีปนาวุธและการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์อย่างรวดเร็ว

ในพระพุทธศาสนาความฉลาดในทางโลกและทางธรรมนั้นแยกห่างจากกัน ความฉลาดในทางโลกเป็นเล่ห์กลในทางมืด ความฉลาดในทางธรรมมีคำทางบาลีว่าโกศลและเป็นไปในทางสว่าง

โกศลมี 3 ลักษณะ ได้แก่ ปายโกศล ซึ่งรู้ความเจริญ อปายโกศล ซึ่งรู้ความถดถอย และอุปายโกศลซึ่งรู้ทางออก

ปัญญาในพระพุทธศาสนาเป็นความฉลาดที่ครบถ้วนเพราะต้องรู้ทางออกอันเป็นทางสายกลางระหว่างความเจริญและความถดถอยด้วย

ปัญญาเป็นแสงสว่างที่ทำให้เข้าใจสงคราม เข้าใจมูลเหตุของสงครามและรู้หนทางของปัญญา ปัญญาจึงสามารถสร้างสันติสุขได้

มโหสถชาดกมีคำสอนเกี่ยวกับปัญญาท่ามกลางสงครามซึ่งเกิดจากความกระหายและเล่ห์กลทางโลก

อรรถกถากล่าวว่า มโหสถชาดกเป็นชาดกที่พระพุทธองค์ทรงตรัสที่พระเชตวันมหาวิหารถึงการใช้ปัญญาของพระพุทธองค์ในอดีตชาติครั้งทรงเป็นพระโพธิสัตว์ที่ถือกำเนิดในอาณาจักรวิเทหะ

ก่อนพุทธกาลราว 500 ปี วิเทหะเริ่มเป็นอาณาจักรที่สำคัญรองลงมาจากกุรุ และปัญจาละจากนั้นกาสี โกศลและมคธจึงค่อยรุ่งเรืองขึ้นมาแทนที่และวิเทหะก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นวัชชี

ในมโหสถชาดกอาณาจักรปัญจาละมีกองทัพอันเกรียงไกรและต้องการยึดครองวิเทหะซึ่งอ่อนแอกว่า พระเจ้าจุลนีพรหมทัตแห่งปัญจาละมีเกวัฏพราหมณ์เป็นปุโรหิต พระเจ้าวิเทหะมีที่ปรึกษาที่สำคัญสูงสุดคือมโหสถมหาบัณฑิต

มโหสถบัณฑิตคืออดีตพระพุทธเจ้า ในอรรถกถาบอกอีกว่า เกวัฏพราหมณ์คืออดีตพระเทวทัต พระเจ้าจุลนีคืออดีตพระสารีบุตรและพระเจ้าวิเทหราชคืออดีตกาฬุทายีภิกษุ

ครั้งเริ่มต้นกองทัพปัญจาละซึ่งนำโดยเกวัฏพราหมณ์ได้เข้าโจมตีกรุงมิถิลาของวิเทหะแต่ไม่สำเร็จ ครั้งนั้นมโหสถบัณฑิตประลองปัญญาให้เกวัฏพราหมณ์ก้มลงคล้ายคำนับต่อมโหสถบัณฑิต มิถิลาได้รับชัยในศึกครั้งนั้น เพราะมโหสถบัณฑิตสามารถรู้ถึงโลภจริตของเกวัฏพราหมณ์จึงใช้อุบายปัญญา หรืออุปายโกศลทำให้เกวัฏพราหมณ์ต้องพ่ายแพ้แม้มีกำลังกองทัพที่เหนือกว่ามาก

สันติภาพจากอุบายปัญญาของมโหสถบัณฑิตสามารถเว้นศึกสงครามได้ระยะหนึ่ง

ต่อมาศึกสงครามจากความฉลาดทางโลกก็กลับมาอีก เกวัฏพราหมณ์แนะนำให้พระเจ้าจุลนีใช้เล่ห์เพทุบายเอาชนะศึกด้วยการลวงให้พระเจ้าวิเทหราชมาอภิเษกกับพระราชธิดาของพระองค์แล้วค่อยจับพระเจ้าวิเทหราชปลงพระชนม์ที่กรุงอุตรปัญจาละนั้น

พระเจ้าวิเทหราชทรงหลงในโอกาสจึงไม่เชื่อคำทัดทานของมโหสถผู้ซึ่งเข้าใจกิเลสของเกวัฏพราหมณ์ดี

เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกยึดเมืองและการนองเลือดที่จะตามมา มโหสถบัณฑิตจึงได้ออกอุบายให้สร้างวังที่เป็น “อุปการนคร” ของพระเจ้าวิเทหราช อุปการนครนี้อยู่นอกกรุงอุตรปัญจาละและมโหสถบัณฑิตได้ตระเตรียมอย่างดีในการชักพาครอบครัวของพระเจ้าจุลนีไปที่มิถิลา การล้อมโจมตีของพระเจ้าจุลนีจึงพ่ายแพ้โดยง่ายดาย

พระเจ้าจุลนีล่อพระเจ้าวิเทหราชมาที่อุตรปัญจาละ มโหสถล่อพระเจ้าจุลนีมาที่อุปการนคร อุบายของมโหสถสร้างคุณอย่างยิ่ง เพราะทำให้เกิดสันติภาพอันสงบ

ในพระพุทธศาสนาปัญญาเป็นปัจจัยที่ทำให้บุคคลมีความคิดในทางที่ดีและก่อประโยชน์อันเกื้อกูลทั้งในปัจจุบันและอนาคต จึงเป็นความสว่างที่ไม่เป็นไปเพื่อการทำลายล้าง

โจทย์คือถ้าสหรัฐล่อจีนมาที่อุปการสมรภูมิไต้หวัน จีนจะมีอุบายเอาชนะสหรัฐพร้อมสันติภาพได้อย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image