สถานีคิดเลขที่ 12 : อัศวินขี่ม้าตัวเดียว

สถานีคิดเลขที่ 12 : อัศวินขี่ม้าตัวเดียว

สถานีคิดเลขที่ 12 : อัศวินขี่ม้าตัวเดียว

ความอลหม่านของสถานการณ์โควิดและปัญหาการจัดหาวัคซีน ทำให้ระยะนี้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงต้นทางความเป็นมาของรัฐบาล ซึ่งเชื่อมโยงกับการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม เมื่อปี 2557 จึงเป็นไปอย่างดุเดือดอย่างยิ่ง

จุดสำคัญคือ ผู้นำการเมืองปัจจุบัน เข้าสู่อำนาจด้วยภารกิจอย่างอื่น แต่เพลิดเพลินจนอยู่ยาวเกินไป แล้วมาเจอวิกฤตโรคระบาดระดับโลกเข้าให้ ซึ่งต้องใช้ความสามารถในอีกแบบ ต้องอาศัยความกว้างไกล คิดไวทำไว ออกนอกกรอบราชการปกติ ต้องมีไอเดียพุ่งกระฉูด จึงจะคลายวิกฤตระดับใหญ่เช่นนี้ได้

แต่เมื่อไม่เป็นเช่นนั้น เลยเกิดสภาพดังที่เห็นๆ กันอยู่

Advertisement

ความจริงในบรรยากาศการชำแหละคณะรัฐประหารเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องดีที่สังคมไทยจะได้สรุปบทเรียนว่า เมื่อเบื่อหน่ายความขัดแย้ง เบื่อนักการเมือง แล้วไปเรียกหาทหารมาจัดการนั้น เป็นความคิดที่ผิดถนัด และแก้ปัญหาไม่ได้จริง แถมจะสร้างปัญหาใหม่เพิ่มเข้ามา

ลัทธิอัศวินขี่ม้าขาว เข้ามาช่วยนางเอก เข้ามากู้วิกฤต เป็นแค่นิยายยุคเก่าๆ หรือเป็นตอนจบในภาพยนตร์ยุค 16 มม.เท่านั้น

ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นยุคก่อนหน้านี้ หรือยุคปัจจุบัน ปัญหาต่างๆ ของบ้านเมืองนั้น สลับซับซ้อนเกิดกว่าจะใช้ฮีโร่ใช้วีรบุรุษเข้ามาแก้ไข

Advertisement

ยิ่งโลกยุคดิจิทัล เป็นสังคมสุดก้าวล้ำ จะเอาใครขี่ม้ากรุ๊บๆ กรับๆ หรือขับรถถังออกมา ต้องถือว่าตกยุคตกสมัยอย่างยิ่ง

ลัทธิอัศวินขี่ม้าขาว ดูดีแค่ในนิยายเก่าๆ แต่ไม่ใช่ในสังคมที่เป็นจริง

แต่คนไทยบางส่วน ยังยึดติดแนวคิดหวังพึ่งฮีโร่เข้ามายุติปัญหาบ้านเมืองอยู่บ่อยๆ จึงทำให้นักรัฐประหารยังเป็นอาชีพที่มีงานทำในบ้านเรา

ยังมีคนส่วนหนึ่งที่ดีอกดีใจเมื่อเห็นอัศวินขี่รถถัง โดยไม่คิดทบทวนสักนิดเลยว่า เกิดการล้มประชาธิปไตยเมื่อไร คนไทยทั้งหมดจะเสียอำนาจการเมืองในมือไปหมดสิ้น

อย่างเหตุการณ์รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 นั้น เริ่มจากม็อบนกหวีด
ชัตดาวน์ พอรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รู้ตัวว่าไปลำบาก จึงตัดสินใจยุบสภา ซึ่งเป็นการคืนอำนาจให้ประชาชนกลับไปตัดสินใจกันใหม่แท้ๆ

แต่ผู้นำม็อบบอกว่าไม่เอา ต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง คนไปร่วมม็อบก็ไม่เอะใจเลยว่า นี่นำไปสู่เงื่อนไขการรัฐประหาร แล้วหมายถึงเราๆ ท่านๆ จะสูญเสียการมีอำนาจการเมืองไป

รัฐบาลยิ่งลักษณ์คืนกลับมาให้ประชาชนแล้ว แต่ประชาชนเป่านกหวีด กลับเอาไปยกให้ทหารเสียอีก

ดังนั้น ถึงเวลาที่ต้องเรียนรู้บทเรียนจาก 7 ปีก่อนที่ยังต่อเนื่องถึงวันนี้ แล้วจะรู้ดีว่า การแก้ปัญหาการเมือง ต้องแก้อย่างอดทน ช่วยกันสร้างคุณภาพทางการเมือง ยกระดับการเมืองให้การเลือกตั้งแต่ละครั้งคือ การพัฒนาก้าวหน้าของทั่วทั้งสังคมไปพร้อมๆ กัน

ไม่ใช่หงุดหงิดทะเลาะเบาะแว้ง ไปเรียกอัศวินม้าขาวมาจัดการดีกว่า จะได้จบเร็วๆ

แล้วยิ่งปัญหาความยากลำบากในวันนี้ โควิดก็หนัก วัคซีนก็มาน้อย มาแบบแทงม้าตัวเดียว ก็จะยิ่งเข้าใจว่า เราต้องมีการเมืองที่เสรี มีคนคิดใหม่ๆ ทันสมัย เข้ามาร่วมบริหารบ้านเมือง ไม่ใช่ผูกขาดอยู่กับพวกคนในรั้วกรมกองกลุ่มเดียว

โควิดนี่แหละทำให้คนไทยกระจ่างชัดที่สุด

ไม่ควรสนับสนุนอัศวินขี่ม้าขาว แถมยังขี่ม้าตัวเดียวจนได้วัคซีนไม่พอเสียอีก

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image