| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : ร่อแร่-ริบหรี่
ข่าวคราวทางการเมืองสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐบาล รวมถึงรัฐสภามีแต่ข่าวร้ายๆ
เป็นข่าวช่วงเวลาอัสดง ทั้งร่อแร่ และริบหรี่
อาการของรัฐบาลและรัฐสภาสะท้อนออกมาจากรัฐบาลและรัฐสภานั่นแหละ
อาการของรัฐสภาสะท้อนออกมาจากความห่วงใยของ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่ส่งสารถึง พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านไปทาง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ
เหตุการณ์สภาล่มที่เกิดขึ้นแม้จะถือว่าเป็นเรื่องปกติของรัฐบาลผสม แต่สำหรับเหตุการณ์ในระยะหลังต้องถือว่าผิดปกติ เพราะดูเหมือนว่าสภาพร้อมจะล่ม คำขู่เรื่องเปิดเผยชื่อคนทำองค์ประชุมล่มไม่ศักดิ์สิทธิ์
นายชวนแนะนำหัวหน้ารัฐบาลว่าควรหารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อรักษาองค์ประชุมให้งานสภาขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้
ขณะเดียวกันได้แสดงความเห็นถึงสถานการณ์ในปัจจุบันว่าอย่าประมาท มีโอกาสยุบสภาได้ทุกเวลา
และเมื่อมองดูวาระการประชุม สภายังมีแนวปะทะเดือดทั้ง พ.ร.บ.เข้าชื่อถอดถอนฯ ที่เป็นเหตุที่ทำให้สภาล่มแล้วล่มเล่า
แล้วยังมี ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่พรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ เผชิญหน้ากันรุนแรงทั้งนอกและในสภา
ผสมกับเดือนธันวาคม มีปัจจัยเอื้อให้ ส.ส.ทิ้งเก้าอี้หลายคน
ยิ่งทำให้อาการของรัฐสภาร่อแร่
จังหวะที่สภาร่อแร่ บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ได้เดินหน้าหาเสียง เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร เปิดนโยบายหาเสียง นับตั้งแต่พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาชาติ เป็นต้น
รวมไปถึงพรรคการเมืองใหม่ อย่างพรรคไทยสร้างไทย พรรคสร้างอนาคตไทย และอื่นๆ
เหลือแต่เพียงพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหว นอกจากข่าวคราวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าสังกัด
ขณะที่พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ภาคใต้ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ฝากเนื้อฝากตัวกับชาวใต้ ประกาศนโยบายพัฒนาพื้นที่ใต้ เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ นายนิพนธ์ บุญญามณี ยังนำทีมเดินหน้าหาเสียงเรียกศรัทธากลับคืน
ส่วนพรรคประชาชาติ โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ขอเป็นพรรคชาวใต้ หวังโกย ส.ส. 20 ที่นั่ง เพื่อเสนอใช้สิทธิเสนอกฎหมาย
แต่พรรครวมไทยสร้างชาติที่ชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และมีนักการเมืองจากหลายพรรคสมัครขอเข้าไปสังกัดยังเงียบ
ทีแรกนึกว่าเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ส่งสัญญาณว่าจะยังอยู่ในวงการเมืองอีก 2 ปี แล้วมีสัญญาณว่าจะไปพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว จะมีการขยับขับเคลื่อนเพื่อตอบรับสัญญาณดังกล่าว
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกอย่างยังเงียบเหมือนเดิม
ไม่มีการหาเสียง ไม่เปิดนโยบาย ไม่มีความเคลื่อนไหวจากพรรค มีแต่ความเคลื่อนไหวของว่าที่ผู้สมัคร ขณะที่กาลเวลาค่อยๆ เดินเข้าสู่วันเวลาที่รัฐสภาจะครบเทอม วันที่ 23 มีนาคม 2566
ถ้าปล่อยให้ครบเทอม จะมีการเลือกตั้งวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ตามที่ กกต.คาดการณ์ แต่ถ้ายุบสภา ก็จะมีการเลือกตั้งก่อนหน้านั้น
และด้วยสถานภาพของพรรคการเมืองในหลายปีที่ผ่านมา มีจุดแข็งและจุดอ่อนที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ ส.ส.หลายคนต้องการหาที่สังกัดใหม่ ซึ่งตามกติกาได้กำหนดระยะเวลาการสังกัดพรรคใหม่เอาไว้ จึงมีโอกาสที่ ส.ส.จะโยกย้ายเปลี่ยนพรรคกันสูงในช่วงนี้
การเคลื่อนไหวตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไปย่อมส่งผลกระทบต่ออาการรัฐสภา
การอพยพของ ส.ส.กระทบต่อการวางแผนส่งว่าที่ผู้สมัคร โดยเฉพาะแผนของพรรคใหม่อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติ
ความไม่แน่นอนต่างๆ ทางการเมือง กลายเป็นโจทย์ยากของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะตัดสินใจ
ตอนนี้ดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ
หรือว่าแสงสว่างที่เคยมองเห็นเจิดจ้า จะเริ่มริบหรี่ลงเรื่อยๆ
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในสถานะเสียเปรียบ การเมืองไทยยิ่งน่าจับตามอง เพราะ พล.อ.ประยุทธ์มีภารกิจเป็นนายกฯต่อไป
ดังนั้น เกมสืบทอดอำนาจจะยังคงเดิม หรือจะพลิกสู้เช่นไร ต้องติดตาม
นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]
