งานหนังสือวันสุดท้ายคึก! ผู้อ่านวิเคราะห์ลึก ‘อุปถัมภ์ค้ำใคร’ ทหารมาเอง เล็ง ‘เครื่องแบบฯ’
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่มิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ในงาน SUMMER BOOK FEST 2022 เทศกาลหนังสือฤดูร้อน ครั้งที่ 2 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในวันสุดท้ายของงาน บริเวณบูธสำนักพิมพ์มติชน E3 มีผู้เดินทางเข้าเลือกซื้อหนังสืออย่างต่อเนื่อง โดยหนังสือที่ได้รับความนิยมในวันนี้คือหนังสือในหมวดประวัติศาสตร์ การเมือง และหนังสืออินดี้
นายสวรรค์สกุล วุฒิสรรพ์ อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพ กล่าวว่า ตนชื่นชอบการอ่านหนังสือ ชอบอ่านหมดทุกแนวไม่จำกัดประเภท วันนี้มาที่บูธมติชนก็ได้หนังสือกลับไปหลายเล่ม หลายแนว มีทั้งนวนิยาย ประวัติศาสตร์ และการเมือง แต่เล่มที่เห็นว่าน่าสนใจคือ เครื่องแบบ ทรงผม หน้าเสาธง ไม้เรียว : ประวัติศาสตร์วินัยและการลงทัณฑ์ในโรงเรียน โดย ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์ และ อุปถัมภ์ค้ำใคร : การเลือกตั้งไทยกับประชาธิปไตยก้าวถอยหลัง โดย เวียงรัฐ เนติโพธิ์ ซึ่งเป็นหนังสือที่กำลังได้รับความนิยมและเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้
“ในปัจจุบันเรื่องเครื่องแบบ ทรงผม แทบไม่จำเป็นแล้ว มันสามารถผ่อนปรนได้ ไม่ต้องมาบังคับกัน เครื่องแบบอาจจะยังพอมองเห็นประโยชน์ได้อยู่บ้าง แต่เรื่องทรงผมมันไม่จำเป็นแล้ว ผมเลยเลือกซื้อเล่มนี้มา เพราะอยากรู้ให้ลึกขึ้น ได้เห็นมุมมองของคนอื่นๆ” นายสวรรค์สกุลกล่าว
นายนครินทร์ มูลบัณฑิตย์ วัย 24 ปี กล่าวว่า ตนเรียนจบการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในช่วงที่เรียนปี 3 ก็ได้อ่านงานของ รศ.เวียงรัฐมาก่อนบ้างแล้ว เช่น เรื่องเจ้าพ่อ วันนี้จึงมาซื้อผลงานเล่มใหม่ อุปถัมภ์ค้ำใคร : การเลือกตั้งไทยกับประชาธิปไตยก้าวถอยหลัง
“หนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับเรื่องระบบอุปถัมภ์ และการเลือกตั้งในยุค คสช.ว่ามันสร้างความสัมพันธ์เชิงเครือข่ายอย่างไรบ้าง คิดว่ามันน่าสนใจมาก จะรีบกลับไปตามอ่านให้จบ” นายนครินทร์กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เวียงรัฐ เนติโพธิ์ ไฮด์ปาร์ก ‘อุปถัมภ์ค้ำใคร’ บนเวทีการเมืองไทยที่ประชาธิปไตยก้าวถอยหลัง
- บก.นิตยสารดัง นอนไม่หลับ หลังอ่าน ‘เครื่องแบบฯ’ คิดหนักบอกลูกหลาน เราจะอยู่กันอย่างไร
น.ส.พัชราภรณ์ ปานเกิด วัย 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาจากนครราชสีมา ต้องมางานรับปริญญาอยู่แล้ว เลยแวะมาเดินงานนี้เพื่อเลือกซื้อหนังสือที่สนใจ โดยตนเองชอบหนังสือแนวประวัติศาสตร์ หนังสือที่ซื้อวันนี้คือเรื่อง เล่นแร่แปลภาพ ผลงาน นักรบ มูลมานัส
“หนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับช่างภาพ แนวๆ ประวัติศาสตร์ภาพถ่าย พาไปดูเบื้องหลังภาพถ่าย ความสัมพันธ์ของสยามกับโลกตะวันตก นัยยะแฝงต่างๆ และด้วยความที่ได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องภาพถ่าย ก็มีอาจารย์แนะนำหนังสือเล่มนี้ให้ว่ามีความน่าสนใจอย่างไร วันนี้ก็เลยไม่พลาดที่จะซื้อกลับไปด้วย” น.ส.พัชราภรณ์กล่าว
นายพิรัช (สงวนนามสกุล) กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจเดินทางมางานหนังสือในวันสุดท้าย เพื่อซื้อหนังสือเล่มที่สนใจจากหลายบูธ และเล่มที่ซื้อจากสำนักพิมพ์มติชนคือเรื่อง อุปถัมภ์ค้ำใคร ผลงาน รศ.เวียงรัฐ เนติโพธิ์
“เรื่องระบบอุปถัมถ์เป็นอะไรที่ค่อนข้างเก่าและโบราณ ที่นักวิชาการด้านไทยศึกษา หรือพวกสายสังคมศาสตร์ศึกษากันเยอะมาก เช่น งานที่เป็นหนังสือเก่าๆ ทั้งปรีชา คุวินทร์พันธุ์, อมรา พงศาพิชญ์ เขาก็บอกว่า Patron-client relationship (ระบบความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์) มันเป็นเรื่องที่ล้าสมัยแล้ว ไม่ควรจะต้องมาศึกษาแล้ว แต่เวียงรัฐที่เขียนเล่มนี้มา ผมก็อยากรู้ว่าประเด็น Patron-client relationship มันยังคงมีพลังที่จะอธิบายสังคมไทยในปัจจุบันนี้อยู่หรือไม่
“หมายความว่า ความจริงแล้วเวียงรัฐพยายามที่จะสื่อว่า Patron-client relationship มันไม่ได้ล้าสมัยอย่างที่คนบอกว่าเรื่องระบบอุปถัมภ์เป็นเรื่องที่คนบอกว่าเก่าแล้ว ไม่น่าสนใจอีกต่อไปแล้ว มันยังน่าสนใจอยู่ หรือมองในอีกแง่หนึ่ง เรื่องที่มันเก่าๆ โบราณ แต่เวียงรัฐยังเขียนหนังสือขายได้ มันแสดงให้เห็นว่าความจริงสังคมไทยมันอาจจะยังไม่ได้ไปไหนเลย ย่ำอยู่กับที่ ดักดาน คอนเซ็ปต์เก่าๆ อย่างระบบอุปถัมภ์มันเลยยังมีความสามารถในการอธิบายปรากฏการณ์ทางสังคม เรื่องความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่กับผู้น้อยได้อยู่” นายพิรัชกล่าว
นายธเนศ (สงวนนามสกุล) กล่าวว่า วันนี้ตนมาเดินเล่นงานหนังสือกับครอบครัว เห็นหนังสือเรื่อง เครื่องแบบ ทรงผม หน้าเสาธง ไม้เรียว : ประวัติศาสตร์วินัยและการลงทัณฑ์ในโรงเรียน ก็สนใจ เพราะตนเองก็เป็นคุณพ่อคนหนึ่งที่มีลูกกำลังเรียน อีกทั้งยังเป็นคนที่สนใจในทฤษฎีการควบคุมร่างกายของฟูโกต์ ด้วย
“ตัวผมเองก็เป็นทหารที่ต้องใส่เครื่องแบบเหมือนกัน เลยจะเข้าใจความรู้สึก ผมว่าเครื่องแบบมันค่อนข้างกดทับความคิดสร้างสรรค์ของคน มันทำให้คนต้องสยบอยู่ใต้วัฒนธรรมของมันเอง” นายธเนศกล่าว
นายประภาส อยู่เย็น วัย 31 ปี อาชีพฟรีแลนซ์ กล่าวว่า วันนี้มีหนังสือที่ตั้งใจมาซื้อสองเล่มด้วยกัน คือ The Godfather ผลงาน Mario Puzo และ Thai Culture and Behavior : วัฒนธรรมและพฤติกรรมของไทย ผลงาน Ruth Benedict
“ผมซื้อ The Godfather เพราะชอบมาจากภาพยนตร์ แล้วเราก็อยากรู้ว่าในหนังสือจะมีรายละเอียดที่แปลก แตกต่างไปจากตัวหนังบ้าง ส่วนเล่ม Thai Culture and Behavior ก็จะเป็นมุมมองของชาวตะวันตกว่าเขามองคนไทย มองสังคมไทยว่าเป็นยังไง แล้วก็เขียนวิเคราะห์ออกมา” นายประภาสกล่าว
