เริ่มแล้ว Knowledge Book Fair 2024 เทศกาลอ่านเต็มอิ่ม ครั้งที่ 2 ต่อยอดความรู้สู่ความคิด

เริ่มแล้ว Knowledge Book Fair 2024 เทศกาลอ่านเต็มอิ่ม ครั้งที่ 2 ต่อยอดความรู้สู่ความคิด แปรเป็นซอฟต์พาวเวอร์

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ห้องนิทรรศการ มิวเซียมสยาม สำนักพิมพ์มติชน ผนึกกำลังพันธมิตร จัดงานใหญ่ “Knowledge Book Fair 2024 เทศกาลอ่านเต็มอิ่ม” ครั้งที่ 2 มหกรรมความรู้ระดับประเทศ ที่รวม 7 ความเต็มอิ่มที่สุด ครบทั้งความรู้และความสนุก

โดยภายในงานเต็มไปด้วยคาราวานหนังสือจากกว่า 16 สำนักพิมพ์ ฟังทอล์กความรู้จากกว่า 40 วิทยากรชั้นแนวหน้าของไทย วอล์กทัวร์กับผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ ไปจนถึงเวิร์กช็อปฮาวทูสุดสร้างสรรค์ พบกับ Book Healing ครั้งแรกของการพูดคุยเพื่อฮีลใจ พลาดไม่ได้กับคอลเล็กชั่นสุดพิเศษช่วง พ.ศ.2475 เต็มอิ่มกับ 50 ร้านอร่อย พร้อมฟังดนตรีในสวนกันให้ใจฟู 16-18 ก.พ.นี้ เวลา 12.00-21.00 น. ที่มิวเซียมสยาม

บรรยากาศเวลา 12.35 น. นายจรัญ หอมเทียนทอง กรรมการยุทธศาสตร์พัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สาขาหนังสือ, อดีตนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย และเจ้าของสำนักพิมพ์แสงดาว กล่าวเปิดงาน Knowledge Book Fair เทศกาลอ่านเต็มอิ่ม ครั้งที่ 2

Advertisement

นายจรัญกล่าวว่า ขอหยุดคิดสักหน่อย เพราะไม่เคยกล่าวในงานใหญ่ขนาดนี้ ท่ามกลางคนที่มีความรู้มากกว่าผมเยอะ พิธีกรบอกว่าครั้งนี้เป็นงานส่งต่อความรักด้วยความรู้ แต่ผมคิดว่างานนี้ส่งต่อความรู้ไปสู่ความคิด สังคมไทยเป็นสังคมที่ใช้ความคิดน้อย เพราะเราคิดน้อย ปัญหาสังคมไทยมันเยอะ ความคิดเกิดจากอะไร เกิดจากความรู้ พอเรามีความรู้เราก็มีความคิด แต่ความรู้เกิดจากอะไร ความรู้เกิดจากการอ่าน การอ่าน 70 เปอร์เซ็นต์ มาจากหนังสือ ดังนั้น งานครั้งนี้จึงเป็นงานความรู้ เป็นงานหนังสือ

นายจรัญกล่าวต่อว่า เมื่อเราอ่านจะเกิดความรู้ ความรู้จะกลายเป็นความคิด และเมื่อเรามีความคิดแล้ว ความคิดนั้นจะสามารถแปรเป็นซอฟพาวเวอร์ได้ ดังนั้น งานในวันนี้จึงเป็นงานที่รวมทุกอย่างไว้ แต่ว่างานมติชนไม่ใช่แค่ความรู้อย่างเดียว แต่มีความบันเทิงด้วย

Advertisement

“สุดสัปดาห์นี้จึงกลายเป็นสัปดาห์ที่มีความสุข มีทั้งควkมรู้ ความสุข สุดสัปดาห์นี้จะอวลไปด้วยความรู้ ความสุข และอาหาร ดังนั้น ผมต้องขอบคุณ ผอ.ราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) ที่เอาสถานที่ให้เราจัด ขอบคุณมติชนที่จัดงานแบบนี้ขึ้นมา ประเทศเราจะผ่านทุกอย่างไปได้ถ้าทุกคนมีความคิด ดังนั้น ขอให้ 3 วันนี้เป็น 3 วันที่เราสามารถมาอ่านหนังสือเพื่อเป็นความรู้และกลายเป็นความคิด แล้วในอนาคตเราจะมีซอฟต์พาวเวอร์เองโดยที่รัฐไม่ต้องโฆษณามาก” นายจรัญกล่าว

นายจรัญกล่าวเพิ่มเติมว่า งาน Knowledge book เทศกาลอ่านเต็มเต็ม ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญกับความรู้ ซึ่งจะส่งผลให้เราเกิดความคิด เนื่องด้วยสถานการณ์ตอนสังคมไทยเรายังคิดกันน้อย เพราะเรายังขาดความรู้จากการอ่าน ซึ่งกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ความรู้จะเกิดจากหนังสือ

“Knowledge book จึงเป็นเทศกาลการอ่านหนังสือเพื่อให้เกิดความรู้ แล้วไปต่อยอดเป็นความคิด และความคิดนี้สุดท้ายจะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ในอนาคต ดังนั้น จึงพูดได้ว่าหนังสือเป็นต้นธารของซอฟต์เพาเวอร์ งานครั้งนี้ของมติชนจึงเป็นการยิงตรงเข้าเป้าเลยว่าการส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างความรู้ และความรู้จะพัฒนาเป็นความคิด ซึ่งจะแปลงเป็นซอฟต์พาวเวอร์มาสร้างรายได้เข้าประเทศได้” นายจรัญระบุ

นายจรัญกล่าวว่า ในฐานะเจ้าของสำนักพิมพ์แสงดาว 1 ใน 16 สำนักพิมพ์ ที่จะเอาหนังสือไปร่วมในงาน จะมีการเปิดตัวหนังสือที่เข้ากับสถานการณ์ คือหนังสือกว่าจะเป็นนักข่าวในลิสต์ IO โดยพูดถึงนักข่าวที่ถูกคุกคามโดยรัฐ เขียนโดย น.ส.หทัยรัตน์ พหลทัพ ซึ่งเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ที่นักข่าวถูกจับกุม

“นักเขียนเขาจะไปพูดในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 5 โมงเย็น โดยมีคุณฐปณีย์ เอียดศรีชัย เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งคุณฐปณีย์เองก็โดนขึ้นเป็นลิสต์ IO ด้วย เราก็เตรียมหนังสือของเราไป ก็เป็นหนังสือชุดความรู้ทั้งนั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นสำนักพิมพ์แสงดาว หรืออีก 15 สำนักพิมพ์นั้นทุกคนก็เอาความรู้ไป อย่างเช่น สำนักพิมพ์มติชน ก็เอาเซ็ตหนังสือ 2475 ไปด้วย” นายจรัญเผย

นายจรัญกล่าวต่อว่า หากมองเทรนด์หนังสือในปีนี้อยู่ที่ว่ากลุ่มนักอ่านเป็นคนกลุ่มไหน อย่างกลุ่มวัยรุ่นก็อ่านหนังสือนิยายวาย หรือกลุ่มผู้ใหญ่ก็อ่านหนังสือความรู้ก็ยังเป็นกระแสอยู่ ซึ่งคนที่สร้างกระแสให้คนอ่านหนังสือประวัติศาสตร์มากที่สุด คือสำนักพิมพ์มติชนที่ทำออกมามากมายซึ่งเป็นเรื่องที่ดี

“เราเองก็ควรศึกษาประวัติศาสตร์บ้านเราและก็ไม่ต้องศึกษาระยะไกล แต่มุ่งศึกษาประวัติศาสตร์ระยะใกล้ เช่น หลังยุค 2745 ลงมา ในทรรศนะผมเองก็ยังมองว่าหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ก็ยังคงเป็นหนังสือกระแสหลักอยู่ แต่หนังสือวายก็ก่อให้เกิดคนรักการอ่านจนเป็นนิสัย วันหนึ่งเขาก็จะมาอ่านหนังสือที่เขาชอบ เพิ่มพูนความรู้ไปเอง” นายจรัญชี้

นายจรัญกล่าวว่า สำหรับมิวเซียมสยาม สถานที่ในการจัดงานที่เหมาะสมที่สุด เพราะว่าขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) แล้วลงที่สถานีสนามไชยก็เจอเลย และมิวเซียมสยามมีบรรยากาศโล่งสบาย เหมาะสมกับการจัดงาน ซึ่งไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป รวมถึงเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของไทย

“มิวเซียมสยามเป็นวงแหวนชั้นในของเมือง เป็นจุดศูนย์กลางของกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เราสามารถเดินได้สบาย ซึ่งถือว่าเป็นหมุดหมายที่ดีมาก และมันมีสนามหญ้าให้เราทำกิจกรรมอะไรตั้งเยอะเยอะ มีบรรยากาศที่ดี น่าไปมากกว่าไปห้าง ต้องขอบคุณเจ้าของสถานที่ ที่เขาอนุญาตให้คนไปจัดงานบ่อยๆ” นายจรัญเผย

นายจรัญกล่าวด้วยว่า สุดท้ายแล้วเมื่อคุณมางานหนังสือ คุณจะได้หนังสือกลับไปแน่นอน ซึ่งสิ่งที่คุณได้ไม่ใช่เพียงหนังสือ แต่คุณจะได้ความรู้กลับไป เมื่อคุณซื้อหนังสือกลับไปอ่านแล้ว คุณก็จะมีความคิดของคุณเอง ดังนั้นเราพลาดไม่ได้ ควรต้องไปงานหนังสือกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีสถานที่จัดงานที่สวยงามแบบนี้

“ผมขอยืนยันว่าถ้ามาแล้วหนึ่งครั้งจะอยากมาบ่อยๆ และการเดินทางมันสะดวกมาก รถไฟฟ้าใต้ดินถึง ซึ่งมีการตกแต่งอย่างสวยงามอยู่แล้ว ก็อยากให้มาดื่มด่ำกับเทศกาลหนังสืออ่านเต็มอิ่มในครั้งนี้กัน” นายจรัญกล่างทิ้งท้าย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image