ผู้เขียน | สุชาติ ศรีสุวรรณ |
---|
อาจจะฟังดูตลก กับความคิดในการแก้ปัญหาของประเทศครั้งแล้วครั้งเล่าของ “ผู้นำประเทศ-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่ล่าสุดเสนอให้เอา “รถบรรทุกทหาร” มาขนส่งสินค้าแทน หลังจากผู้ประกอบการรถบรรทุกสินค้าเคลื่อนขบวนเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาราคาน้ำมันที่แพงจนเป็นภาระค่าขนส่ง
หรืออาจจะหัวเราะด้วยความขื่นใจว่าอะไรดลบันดาลให้ผู้นำคนเดียวกันนี้เกิดความคิดประกาศจะใช้พื้นที่ในค่ายทหารปลูกผักชี เพื่อแก้ไขปัญหาผักชีราคาแพง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
แต่มองอย่างทำใจให้นิ่งๆ สักนิด จะรับรู้ว่านั่นไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไรเลย
ไม่ควรจะให้เรื่องแบบนี้ทำให้เกิดความรู้สึกว่าเกินความคาดหมาย
เพราะหากย้อนดู ความคิดแบบไม่รู้ว่า “ประชาชนเรียกร้องให้แก้ไขราคาน้ำมัน สะท้อนการบริหารจัดการที่ก่อให้เกิดสภาวะข้าวยากหมากแพง” ที่การแก้ไขจะต้องอาศัยการคิดอ่าน ด้วยความรู้รอบด้าน เพื่อหาทางจัดการอย่างเป็นระบบ
เอาแต่คิดว่าจะใช้อำนาจเข้าแทรกแซงจัดการ คิดใช้ “กองทัพเป็นยาครอบจักรวาล” เอามาใช้แก้ปัญหา รักษาทุกความเดือดร้อนไม่ได้
ที่ว่าไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดเพราะ “พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เข้ามาครอบครองอำนาจบงการความเป็นไปของประเทศก็ด้วยใช้กำลังของ “กองทัพ” เข้ายึดอำนาจ และอาศัยออกแบบกลไกสืบทอดอำนาจมาจนทุกวันนี้
เมื่อความสำเร็จในชีวิตทางการเมืองเกิดขึ้นและอยู่ต่อเนื่องมาด้วย “อำนาจกองทัพ” จะไปแปลกอะไรกับการที่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไร นายกรัฐมนตรีในยุคสมัยเช่นนี้จะคิดว่า ใช้ “กองทัพ” แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง
เมื่อมีความเคยชินแบบนี้ จะมองเห็นเหตุที่ทำให้ “ผักชีแพง-น้ำมันแพง” แล้วแก้ปัญหาให้ตรงกับเหตุได้อย่างไร
การประกาศใช้ “กองทัพ” เข้าจัดการเป็นเรื่องที่ถนัดกว่า
เป็นเรื่องปกติมาก สำหรับผู้ถนัดใช้อำนาจในการจัดการ
ที่ควรจะเห็นว่าเป็นเรื่องแปลกคือ “พรรค การเมือง” ที่สนับสนุนผู้นำที่มีแต่ความคิดแบบนี้ในการแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ ดูแลความเดือดร้อนของประชาชน
ย่างเข้าปีที่ 8 แล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงยืนเด่นโดยท้าทายเป็นผู้นำประเทศด้วยวิธีคิดและการจัดการแบบใช้อำนาจนำ
แปลกที่นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนยังส่งเสียงเชียร์กันอยู่ได้
ถึงวันนี้ พรรคการเมืองที่มีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่จะเสนอชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องอีกสมัยอย่างมั่นอกมั่นใจ ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะสร้างคะแนนนำนักการเมืองกลุ่มนี้กลับมายิ่งใหญ่ เป็นรัฐบาลบริหารประเทศต่อไปได้
ในสถานการณ์ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ถูกโจมตีอย่างหนักในทุกเรื่อง แทบจะเรียกได้ว่าถูกปฏิเสธในทุกบทบาท ไม่ว่าจะทำอะไร เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ตามมาล้วนแล้วแต่ไม่เป็นในทางที่ทำให้ความยอมรับนับถือในความรู้ความสามารถ และชาญฉลาดขึ้นมาเลยในหมู่ประชาชน
แต่ถึงที่สุดแล้ว พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำที่สามารถเดินส่ายอาดๆ อย่างมั่นใจในความเป็นผู้ประสบความสำเร็จ
เพราะถึงที่สุดแล้ว ระบบการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หากตีค่าความสำเร็จว่าคือโอกาสในการได้ครอบครองอยู่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีอะไรเพลี้ยงพล้ำ ยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพรรคการเมืองที่ประกาศความเชื่อมั่นว่าจะเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล โดยการสนับสนุนของพรรคร่วมรับาล
ไม่ประหลาดหรอกที่ พล.อ.ประยุทธ์คิดได้แค่ใช้อำนาจกองทัพเข้าแก้ทุกปัญหาของประเทศ
และหากคิดให้ดี พรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ประหลาดเช่นกัน เพราะนักการเมืองเหล่านี้เลือกโอกาสที่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอำนาจ เมื่อกลไกที่ดีไซน์ไว้ทั้งหมด ยังเอื้อให้ พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสสืบทอดอำนาจต่อไปได้มากกว่าใคร
จะแปลกอะไรสำหรับคนที่กำหนดความสำเร็จของตัวเองไว้ที่การได้ร่วมในอำนาจ จะเลือกสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เพราะหากเห็นว่านักการเมืองเหล่านี้แปลกประหลาด
ประชาชนที่เลือกคนเหล่านี้เข้ามาน่าจะประหลาดกว่า เพราะย่อมรู้อยู่แล้วนักการเมืองที่ตัวเองเลือกนั้นเป็นอย่างไร แต่ยังเลือก
เลือกทั้งที่รู้อยู่ว่าเมื่อเข้าไปทำหน้าที่แล้ว ไม่ได้มีความคิดเรื่อง “อำนาจเป็นของประชาชน” อยู่ในสำนึกเลย
สุชาติ ศรีสุวรรณ