ดุลยภาพดุลยพินิจ : พระพุทธเจ้าสอนพราหมณ์

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนผู้ที่สอนได้ แต่ผู้ที่สอนได้ทั้งหลายมีความคิดความอ่านความเชื่อที่ฝังรากลึกและพฤติกรรมความเคยชินที่แตกต่างกัน

คำสอนของพระพุทธเจ้าชี้ทางให้บุคคลสามารถปฏิบัติเพื่อละอกุศลกรรม เพิ่มกุศลกรรมและพัฒนาตนไปจนถึงสภาวะแห่งความหลุดพ้น ความศรัทธาและความสามารถในการรับคำสอนของแต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกัน

ในสมัยก่อนพุทธกาลซึ่งถือว่าเป็นยุคพระเวท พราหมณ์ที่จบไตรเพทและคัมภีร์ต่างๆ มีอิทธิพลมาก เมื่อเข้าใกล้สมัยพุทธกาลพราหมณ์เหล่านี้มีบทบาทลดลงตามความสนใจเรื่องวิถีชีวิตและความรู้ใหม่ๆ ที่มีมากขึ้น แต่ความเชื่อเรื่องระบบวรรณะและพิธีกรรมก็ยังคงเหนียวแน่น

พราหมณ์ที่เชื่อพระเวทมีฐานะเป็นผู้ครองเรือนที่เน้นพิธีกรรมและการท่องบ่นคัมภีร์ ผู้ที่เป็นครูอาจารย์ก็จะสอนคัมภีร์ พิธีกรรมและศาสตร์ต่างๆ จึงอาจถือว่าเป็นสายพราหมณ์โบราณที่แยกมาในทางปริยัติก็ได้ ส่วนพราหมณ์ที่ปรารถนาพรหมจรรย์และโมกขธรรมจะบวชเป็นดาบส เช่น ฤๅษีและชฎิล

Advertisement

พราหมณ์พระเวทมีความเชื่อในวรรณะและพึ่งเทพเจ้าสูงสุดของตน จำนวนหนึ่งเชื่อว่ามีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นได้ ดังนั้น จึงสนใจที่จะได้รับรู้คำสอนพระพุทธเจ้า

ครูอาจารย์ของพราหมณ์พระเวทเป็นฤๅษี ต้นวงศ์เหล่านี้ไม่ผ่านสมาธิขั้นฌานจึงหันเหไปทางงานคัมภีร์และมนตรา ความรู้ด้านการปฏิบัติได้เสื่อมไป ความรู้ทางคัมภีร์และพิธีกรรมทำให้พราหมณ์พระเวทเป็นวรรณะที่สูงที่สุดและมีศิษย์มากมาย

โสณทันตพราหมณ์ผู้ครองนครจัมปาของแคว้นอังคะ กล่าวว่า พราหมณ์มีคุณสมบัติ 5 ประการในทางชาติกำเนิด ผิวพรรณ ความรู้ ศีลและปัญญา ในคุณสมบัติทั้งห้านี้ศีลและปัญญาเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ทว่าไม่ทราบแล้วว่าศีลและปัญญาเป็นอย่างไร นี้สะท้อนว่าพราหมณ์มิได้ให้น้ำหนักแก่ฌานและไม่เห็นว่าฌานเกี่ยวข้องกับญาณหรือปัญญาอย่างไร

Advertisement

ในสมัยพุทธกาลพราหมณ์พระเวทจึงเป็นฆราวาสที่ยึดถือคัมภีร์ไตรเพทรวมทั้งคัมภีร์อื่นๆ มีความลุ่มหลงในพิธีกรรมของการบูชายัญอันเป็นการบูชาความขลังความศักดิ์สิทธิ์ที่มีการฆ่าสังเวย จำนวนมากเชื่อเรื่องชาติกำเนิดและศรัทธาในมหาปุริสลักษณะ

ในอัมพัฏฐสูตรฤๅษีที่เป็นบูรพาจารย์ของพราหมณ์พระเวท ได้แก่ ฤๅษีอัฏฐกะ ฤๅษีวามกะ ฤๅษีวามเทวะ ฤๅษีเวสสามิตร ฤๅษียมตัคคี ฤๅษีอังคีรส ฤๅษีภารทวาชะ ฤๅษีวาเสฎฐะ ฤๅษีกัสสปะ
และฤๅษีภคุ ฤๅษีเหล่านี้สอนมนต์แต่ดำรงชีพอย่างบรรพชิต

พระพุทธองค์ทรงสอนอัมพัฏฐมานพผู้เป็นศิษย์ของโปกขรสาติพราหมณ์ว่าการท่องขับมนต์สืบตามกันมาถึงแม้จะตรงตามบทสวดก็ไม่สามารถทำให้พราหมณ์เป็นฤๅษีดาบสขึ้นมาได้ พราหมณ์ก็ใช้ชีวิตแตกต่างไปจากบูรพาจารย์ของพวกตนอย่างสิ้นเชิง มีการแต่งกาย ทาตัว สวมดอกไม้และบำเรอตนด้วยสิ่งบริโภครวมทั้งเหล่านารี

การขาดการปฏิบัติภาวนาและการดำรงชีพแบบฆราวาสเป็นลักษณะของพราหมณ์พระเวท ในทางธรรมพระพุทธองค์ทรงสอนให้อัมพัฏฐมานพให้เข้าใจความแตกต่างระหว่างทางของฆราวาสและทางของบรรพชิตว่าทางหนึ่งคับแคบส่วนอีกทางหนึ่งนั้นปลอดโปร่ง สิกขาบทเป็นการอยู่ในกุศลกรรมทั้งทางด้านกายและวาจา ศีลช่วยคุ้มครองอินทรีย์หรือทวารการรับรู้ทั้งหลาย

จิตรกรรมฝาผนังพระอุโบสถวัดม่วง อำเภอบ้านโป่ง ราชบุรี พ.ศ.2427
โสตถิยพราหมณ์ถวายหญ้ากุสะ 8 กำมือแด่พระบรมโพธิสัตว์ช่วงสายวันตรัสรู้
หญ้าเป็นสิ่งที่ข้ามพ้นจากผืนดิน
หญ้ากุสะเป็นหญ้ามงคลสำหรับพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของพราหมณ์
ท่าน ว.วชิรเมธี ชี้ข้อปริศนาว่าหญ้ากุสะ 8 กำ หมายถึงโลกธรรม 8

พระพุทธองค์ทรงสอนเรื่องความเป็นพระภิกษุซึ่งต้องมีศีลตั้งแต่จุลศีล มัชฌิมศีลและมหาศีล พระภิกษุย่อมไม่เลี้ยงชีพด้วยดิรัจฉานวิชา

พระพุทธองค์ทรงสอนเรื่องการปฏิบัติภาวนาในพระพุทธศาสนาว่ามีรูปฌานทั้งสี่ มีวิปัสสนาญาณ มโนมยิทธิญาณ อิทธวิธญาณ ทิพยโสตญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ จุตูปปาตญาณและอาสวักขยญาณซึ่งถือเป็นวิชชาและจรณะที่สูงที่สุดซึ่งการปฏิบัติในคัมภีร์อื่นไม่มีหรือมีก็ไม่ถึงขั้นสูงสุด ถ้าหากไม่สามารถบรรลุถึงขั้นสูงสุดทางเสื่อมจักยังเกิดขึ้นได้

การเป็นพราหมณ์ที่เชื่อว่าสูงสุดนั้นมิได้สูงสุด โปกขรสาติพราหมณ์ยังไม่สามารถเข้าเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศลได้เอง การให้คำปรึกษาต้องอยู่นอกนอกพระวิสูตร พระเจ้าปเสนทิโกศลกลับทรงยกย่องความเป็นโสดาบันบุคคลของอนาถบิณฑิกเศรษฐีซึ่งอยู่ในวรรณะศูทร

วาเสฏฐะและภารทวาชะเป็นพราหมณ์พระเวทในแคว้นโกศล (วาเสฏฐะและภารทวาชะน่าจะเป็นชื่อโคตร) ท่านแรกเป็นศิษย์ของโปกขรสาติพราหมณ์ ท่านหลังเป็นศิษย์ของตารุกขพราหมณ์ ทั้งสองเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าและปรากฏคำสอนของพระพุทธองค์ในวาเสฏฐสูตร เตวิชชสูตรและอัคคัญญสูตร

ในวาเสฏฐสูตรทั้งสองท่านเริ่มเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ที่ราวป่าอิจฉานังคลคามและทูลถามเรื่องความเป็นพราหมณ์ว่าเป็นเพราะชาติ หรือเพราะกรรม พระพุทธองค์ทรงไขข้อข้องใจโดยสรุปว่าสิ่งมีชีวิตย่อมมีชาติกำเนิดแตกต่างกัน มนุษย์เลี้ยงชีวิตแตกต่างกัน จึงทำให้มีชื่อเรียกแตกต่างกันตามไปด้วย เช่น เป็นชาวนา ศิลปิน พ่อค้า คนรับใช้ โจร ทหารและพระราชา เหล่านี้ล้วนไม่เรียกว่าพราหมณ์ บุคคลเป็นพราหมณ์ไม่ใช่เพราะชาติกำเนิด ที่จริงพราหมณ์เป็นผู้ที่ไม่มีเครื่องกังวล ตัดตัณหาและทิฏฐิ มีองค์ธรรมและศีล ไม่ติดในกามหรือสิ้นอาสวะ ฯลฯ ชื่อและโคตรเป็นเพียงโวหารของชาวโลก คนชั่วหรือดี หรือเป็นพราหมณ์ล้วนเป็นเพราะกรรม

พระพุทธองค์ตรัสว่าพราหมณ์มีกรรมอันประเสริฐ 4 ประการ ได้แก่ ตบะ (การบำเพ็ญเพียร) พรหมจรรย์ (ศีล) สัญญมะ (ความสำรวมอย่างสมาธิ) และทมะ (การระงับกิเลสอย่างปัญญา)

ในเตวิชชสูตรที่มนสาเกตะวาเสฏฐะและภารทวาชะมีข้อสงสัยว่าคำสอนของอาจารย์ตนเป็นมรรคาแห่งพรหมหรือไม่ พระพุทธองค์ตรัสว่าผู้สำเร็จไตรเพทมิได้รู้จักพรหมและไม่เคยเห็นพรหมจึงไม่สามารถสอนทางแห่งพรหมได้ ฤๅษีที่เป็นบูรพจารย์ของพวกพราหมณ์พระเวทก็ไม่เคยเช่นกัน พระพุทธองค์ตรัสถึงเส้นทางสู่พรหมโลก ทรงสอนจุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล อินทรีย์สังวร สติสัมปชัญญะ สันโดษ นิวรณ์ 5 และอัปปมัญญาพรหมวิหาร 4

วาเสฏฐสูตรและเตวิชชสูตรลงท้ายว่าพราหมณ์ทั้งสองได้ประกาศตนเป็นอุบาสกหลังจากนั้น ในวาเสฏฐสูตรอีกพระสูตรหนึ่งเป็นตอนที่วาเสฏฐะติดตามพระพุทธองค์ไปที่กูฏาคารศาลา ป่ามหาวันใกล้กรุงเวสาลี พระพุทธองค์ทรงแนะว่าอุโบสถศีลมีความสำคัญและให้ผลเช่นเดียวกันไม่ว่าผู้รักษาศีลจะเป็นบุคคลในวรรณะใด ประเด็นนี้ก็สำคัญเพราะพราหมณ์เชื่อว่าตนมาจากพระผู้เป็นเจ้า และดังนั้นวรรณะต่ำ เช่น พวกศูทร ซึ่งมาจากเท้าของท้าวมหาพรหมไม่สามารถรับธรรมได้

ในอัคคัญญสูตรเมื่อทั้งสองท่านบรรพชาเป็นสามเณรที่พระวิหารบุพพารามได้มีโอกาสถามพระพุทธเจ้าเรื่องระบบวรรณะ พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงที่มาของระบบวรรณะที่พราหมณ์ไม่รู้และทรงชี้ว่าบุคคลไม่ว่าในวรรณะใดเมื่อมีศีลและธรรมเหมือนกันย่อมได้ผลเช่นเดียวกัน ผลของการปฏิบัติมิได้แยกสูงต่ำมากน้อยตามวรรณะ ธรรมเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด มิใช่วรรณะ

สำหรับโปกขรสาติพราหมณ์เมื่อพบว่าพระพุทธองค์ทรงมีมหาปุริสลักษณะครบ 32 ประการ ก็เชื่อมั่นว่าทรงเป็นสัพพัญญูและสามารถสอนอมตธรรมแก่มนุษย์ได้ พระพุทธองค์ทรงสอนอนุบุพพิกกถา 5 ก่อนและตามด้วยอริยสัจ 4 จนพราหมณ์ท่านนี้เกิดดวงตาเห็นธรรม

อนุบุพพิกกถา 5 มีเรื่องการให้ทาน (ทานกถา) คุณของศีล (ศีลกถา) สวรรค์หรือความงดงามของใจอย่างเทวดา (สัคคกถา) โทษของกาม (กามาทีนวกถา) และอานิสงส์ของการออกจากกามซึ่งไม่ข้องเกี่ยวกับกามคุณ (เนกขัมมานิสงส์)

อริยสัจ 4 เป็นธรรมที่พระพุทธองค์ทรงประกาศซึ่งให้การปฏิบัติเห็นการเบียดเบียนพร้อมสาเหตุและทางออก อันได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค (มัชฌิมาปฏิปทา) การเกิดดวงตาเห็นธรรมของผู้ที่พร้อมในสติ สมาธิและปัญญาปกติอาศัยธรรมบทนี้ โปกขรสาติพราหมณ์ได้บรรลุถึงโสดาปัตติผลและประกาศตนเป็นอุบาสกในพระพุทธศาสนา

สำหรับกูฏทันตพราหมณ์ซึ่งสงสัยในยัญสมบัติและยัญบริขารพระพุทธองค์ตรัสธรรมเรื่องจุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล วิปัสสนาญาณจนถึงอาสวักขยญาณ ตรัสให้รู้ถึงอริยสัจ 4 เช่นเดียวกัน จากนั้นพระพุทธองค์ตรัสเพิ่มเรื่องอาสวะ อาสวสมุทัย อาสวนิโรธ และอาสวนิโรธคามินีปฏิปทา ว่าเมื่อถึงจุดนี้จิตจะหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายซึ่งรวมถึงอวิชชาสวะอันเป็นยัญที่มีอานิสงส์สูงสุด

พระพุทธองค์ทรงสอนอนุบุพพิกกถาจนกระทั่งจิตของกูฏทันตพราหมณ์เหมาะแล้วจึงทรงสอนอริยสัจซึ่งทำให้กูฏทันตพราหมณ์บรรลุโสดาปัตติผลเช่นเดียวกับโปกขรสาติพราหมณ์

จุลศีล-มัชฌิมศีล-มหาศีลและการปฏิบัติภาวนาตั้งแต่ฌานสี่ วิปัสสนาญาณจนถึงอาสวักขยญาณก็คือศีลและปัญญาที่พราหมณ์ไม่รู้

ในสมัยต้นปฐมโพธิกาลเสลพราหมณ์ซึ่งเป็นพราหมณ์พระเวทที่อาปณนิคมในอังคุตราปชนบทซึ่งอยู่ใต้มคธได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขณะเสด็จไปถึงอาปณนิคม ท่านเคยได้ยินกิตติศัพท์เช่นเดียวกันว่าพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว

เสลพราหมณ์มีความรู้ในไตรเพทและอักขรวิธีอย่างมาก มีความศรัทธาในมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ เช่นเดียวกับกูฎทันตพราหมณ์เนื่องจากถือว่าผู้ที่มีมหาปุริสลักษณะครบถ้วนย่อมต้องเป็นพระจักรพรรดิราชหรือไม่ก็เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ความศรัทธาในมหาปุริสลักษณะมีผลต่อเสลพราหมณ์มากแต่ก็มิใช่เพียงเท่านั้น พระพุทธองค์ทรงตอบข้อสงสัยให้เห็นว่าพระพุทธเจ้ามีลักษณะเฉพาะอย่างไร เป็นธรรมราชาอย่างไรและการประกาศธรรมจักรจักเคลื่อนไปอย่างไร เหล่านี้เป็นความรู้ที่เปิดโลกสำหรับพราหมณ์ เสลพราหมณ์พร้อมคณะอีก 300 คนจึงได้บวชจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์

ความเชื่อที่สืบทอดมาอย่างผิดๆ ในเรื่องความสูงต่ำแห่งวรรณะตลอดจนเส้นทางของบุญ สวรรค์ พรหมและการหลุดพ้นเป็นความรู้ที่พราหมณ์ต้องปรับแก้ให้ถูกต้องเสียก่อน

พระพุทธองค์ทรงสอนศีล สมาธิและปัญญาอันเป็นความเป็นพราหมณ์ที่พราหมณ์ไม่รู้ ทรงสอนอนุบุพพิกถาและอริยสัจ 4 รวมทั้งอัปปมัญญาซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือโพธิปักขิยธรรม 7 หมวด

พราหมณ์จึงมีโอกาสถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะและปฏิบัติตนจนเห็นและบรรลุธรรมได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image