ฉันทามติใหม่ในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์? โดย พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์

อาจจะพอเรียกกันได้ว่า ตอนนี้การมีบ่อนถูกกฎหมาย กลายเป็นฉันทามติใหม่ของสังคม หรือภาวะปกติใหม่ของสังคมไทยไปแล้ว

ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และสื่อดูเหมือนจะเป็นไปในทางเดียวกัน

ตอนนี้เหมือนกับไม่มีใครเห็นฝ่ายที่ออกมาต้านอย่างเป็นระบบ หรือในระดับสื่อคือ ไม่เห็นมีใครที่จำได้ว่าใครคือคนหลักที่จะออกสื่อเพื่อเป็นตัวแทนของฝ่ายไม่เห็นด้วย

ฝ่ายค้านเองยังไปเน้นที่รายละเอียดของรายงานมากกว่าภาพรวม

Advertisement

แต่ก่อนจะพูดต่อ เรื่องนี้ไม่ได้เริ่มที่รัฐบาลนี้ แนวคิดเรื่องการเปลี่ยนแนวคิดเรื่องของการทำบ่อนให้ถูกกฎหมาย ในปัจจุบันถูกเปลี่ยนไปอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมาหลายปีแล้วจากรัฐบาลที่แล้ว

ถ้ามองความสำเร็จแบบผิวเผิน สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ทำให้เห็นว่าการทำบ่อนให้ถูกกฎหมายสำเร็จไปแล้ว

ในแง่ของการที่คนทำไม่พูดถึงบ่อนถูกกฎหมาย แล้วมาพูดเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แทน แล้ว (พยายาม) บอกว่ามันมีอะไรที่กว้างกว่ามาก อย่าไปพูดว่าเรื่องนี้เป็นแต่เรื่องการพนัน

Advertisement

และเงื่อนไขสำคัญที่ต่างไปจากเดิมก็คือความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด (ทั้งที่ไม่ได้ตั้งคำถามกันเท่าไหร่ว่า ที่ต้องหันมาจำนนต่อการหาเงินแบบใหม่นี้เพราะผลงานการบริหารเศรษฐกิจมีปัญหาตั้งแต่ก่อนโควิดมาแล้วไม่ใช่เหรอ)

ดังนั้น การเชื่อมโยงกันว่า ถ้าทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แล้วจะได้เงินเข้ามาเพื่อสร้างรายได้จึงเหมือนคำตอบที่ “ต้องยอมรับ” ไม่ว่าจะยอมรับโดยพึงใจว่าเข้าทาง หรือหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือว่าต้องยอมรับแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ลึกๆ ผมยังไม่เชื่อว่าเรื่องที่นำเสนอกันนั้นจะสำเร็จ แต่อย่างน้อยผมก็เชื่อว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว แล้วตอนนี้อาจจะมาถึงขั้นที่เสี่ยงกว่าเดิม

เพราะจากเดิมมันง่ายว่าจะเอา หรือไม่เอา

แต่ตอนนี้คือ จะไปกันจริงๆ ทางไหนกันแน่

สุดท้ายต่อให้ไม่สำเร็จ ก็มีการขยับกันไปได้อีกสักนิด

แต่สิ่งที่ยังต้องตั้งคำถาม ก็คือยังมีกี่เรื่องที่ต้องตั้งคำถามกัน

1.เราจะเอาตัวแบบที่ไหนมาพิจารณา

2.การเข้าใจสเกล

3.การเข้าใจกิจกรรม และทางเลือกอื่น

4.การเข้าใจการกำกับดูแล และบริหารจัดการที่ประชาชนต้องมีส่วนร่วม

เรื่องทั้งสามนี้ผมคิดว่าน่าสนใจไม่น้อยกว่า หรืออาจจะมากกว่าเน้นไปที่พูดเรื่องกองทุนบำบัด

กล่าวคือ เมื่อพูดถึงเรื่องตัวแบบของสิ่งที่จะเกิดขึ้น หลายคนอ้างถึงสิงคโปร์ แต่ต้องพิจารณาก่อนว่า ในกรณีของสิงคโปร์ไม่ได้ให้ประชากรในประเทศเล่นในส่วนของบ่อน

แต่ที่อเมริกานั้นประชาชนเขาเข้าได้ แต่มีระบบการบริหารจัดการในหลายระดับ

ดังนั้น เรื่องของตัวแบบ จึงสำคัญ ไม่ใช่แค่อธิบายแค่ว่าเรื่องของเงินว่าจะได้เม็ดเงินมาาก แล้วก็หาทางบำบัด

เพราะมันจะเชื่อมโยงกับพื้นที่ ว่าจะให้พื้นที่ใหญ่หรือเล็ก เมืองหลัก เมืองรอง หรือเมือง “หลุด” ที่เป็นพื้นที่ไม่มีอะไรพัฒนา

สิงคโปร์ มาเก๊าคงเป็นเรื่องของเมืองหลวง

แต่ลาสเวกัสเป็นพื้นที่ที่ไม่มีอะไรเลย แต่อาศัยโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาอย่างเขื่อนผลิตไฟฟ้า

หรือในแคลิฟอร์เนีย อนุญาตให้ทำได้ แต่เป็นพื้นที่เล็กระดับชุมชนคนอินเดียนแดง และจะทำได้เมื่อผ่านกฎหมายในระดับมลรัฐให้อนุญาตให้ทำ ผ่านการทำประชามติ

ดังนั้น การจุดพลุเรื่องของการทำสเกลขนาดใหญ่ เป็นแบบสิงคโปร์ที่มีมากกว่าบ่อนแต่มีห้างและพื้นที่อื่นๆ ด้วยก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจว่าจะสำเร็จไหม แล้วใครจะลงทุน แล้วเงินไปที่ไหน

อย่าลืมว่าสิงคโปร์และมาเก๊าเป็นพื้นที่เล็ก

กรณีของไทยนั้นจะไปที่เมืองไหน จะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเมืองหลุดไหม จะเป็นเครื่องมือพัฒนาเมืองรอง หรือเป็นเครื่องมือพัฒนาเมืองหลัก

อย่างตอนนี้ในบ้านเราคงต้องถามว่าใครจะกำกับดูแลเรื่องนี้ เป็นเรื่องของรัฐบาลกลาง เรื่องของภูมิภาค เรื่องจังหวัด หรือเรื่องของท้องถิ่น

รวมไปถึงการแบ่งรายได้กันภายในท้องถิ่น ส่วนจังหวัด ภูมิภาค และส่วนกลาง

คำถามต่อมาก็คือเรื่องของกิจกรรมว่าการเปลี่ยนการคิดว่านี่คือกิจกรรมที่ว่าด้วยการพนัน และเถียงกันเรื่องถูกหรือผิดกฎหมาย มาสู่เรื่องของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นี่คือทางออกเดียวไหม?

หมายถึงว่าจะพูดเรื่องการพนันโดยไม่พูดเรื่องการพนันเพราะต้องการเงินในการแก้ปัญหา

คำตอบก็คือ มันอาจจะมีกิจกรรมอื่นได้ด้วย เช่น กิจกรรมครอบครัว (ย้ำว่าสิงคโปร์มีห้าง แต่ส่วนพนันมีแต่นักท่องเที่ยวที่เข้าได้)

ดังนั้น คำถามคือสามารถทำอย่างอื่นได้ไหม สิ่งที่เรียกว่า integrated resort ยังมีตัวอย่างอื่นเช่น ดิสนีย์แลนด์ ยูนิเวอร์เซลสตูดิโอ ที่ก็ประสบความสำเร็จเหมือนกัน

คำถามที่สำคัญในเรื่องการพนันอาจไม่ใช่แค่เรื่องของผิดศีลธรรม หรือไม่ผิดศีลธรรม

หรือการบำบัด

แต่อาจจะต้องมองหลายด้าน เช่น มองเหมือนโรงไฟฟ้าที่มีผลกระทบ มีแบบแผนกระบวนการตัดสินใจ การประเมินการตัดสินใจว่าควรจะเอาไว้ที่ไหน ตั้งที่ไหน

และต้องทำการประเมินผลกระทบอย่างไร ใช้มาตรฐานอะไรบ้าง ชุมชนมีส่วนแค่ไหน

ใครเข้าได้บ้าง (ข้าราชการเข้าได้ไหม)

แล้วจะจัดความสัมพันธ์กับบ่อนระดับย่อยอย่างไร และจะพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างไร จากเงินที่จะได้มา หรือจากการที่ไม่มีเงินจากการพนันและการท่องเที่ยวแบบที่คาดหวังไหม

โดยส่วนตัวของผม เรื่องของการพนันถูกกฎหมายควรเป็นเรื่องของระดับท้องถิ่น ไม่ใช่มองแบบสเกลใหญ่เท่านั้น และต้องมีมาตรการที่ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนในการกำหนดทิศทางในการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ด้วย ไม่ใช่แค่ไปมีส่วนร่วมแบบรับรู้เท่านั้น

ที่กล่าวมาทั้งหมดคือเรื่องของการถกเถียงที่มากกว่ามองว่าต้องทำแล้ว ไม่ทำไม่ได้ ไม่มีทางเลือก และคิดได้แค่จะบำบัดหรือลดทอนผลกระทบอย่างไรเท่านั้น

ผมคิดว่าประชาชนในท้องถิ่นต้องร่างกฎและทิศทางของการพัฒนาพื้นที่ เป็นหลัก องค์กรส่วนกลางไม่ใช่แค่ทำดีลใหญ่เท่านั้น การประสานกันในพื้นที่สำคัญ เหมือนเรื่องขั้นตอนการกระจายอำนาจ มันต้องมีเรื่องหลายเรื่องไม่ใช่เรื่องเดียว มุมเดียว

ไม่มีคำตอบสำเร็จรูปในทุกเรื่อง ควรมีตัวแบบหลายแบบ ภายใต้ความพร้อมของพื้นที่ที่มากกว่าเรื่องการบำบัด

นี่คือข้อคิดเห็นในส่วนนี้ที่น่าจะช่วยกันคิดและส่งเสียงเพื่อไปกำหนดทิศทางในการศึกษาและหาทางออกและความเป็นไปได้ในเรื่องเหล่านี้ มากกว่ามาบลั๊ฟกัน หรือแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนภาษา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image