เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (116) 成语故事 (一百十六)

(ที่มาภาพ : https://image.baidu.com/search)

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 刮目相看 Guā mù xiānɡ kàn (กฺวา มู่ เซียง คั่น) คำว่า 刮 ɡuā (กฺวา) แปลว่า กรีด ขีด ข่วน 目 mù (มู่ ) แปลว่า ตา สายตา 相看xiānɡ kàn (เซียง คั่น) ดู เมื่อนำมารวมกันแปลว่า มองแบบแว่บเดียว กะพริบตาเดียว เป็นสุภาษิตที่ใช้เปรียบเปรยการชื่นชมคนคนหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นในเวลาอันสั้น หรือจากกันไม่กี่วัน มีความก้าวหน้าไปมากมาย หรือไม่เจอกันเดี๋ยวเดียว เก่งขึ้นเป็นกอง ตัวอย่างจากนิทานสุภาษิตนี้

จีนในยุคสมัยสามก๊ก(ซานกั๋ว) 三国/三國 Sān Guó เป็นยุคที่มีคนเก่ง คนดี คนมีความสามารถ คนที่สร้างชื่อเสียงจารึกไว้ในประวัติศาสตร์มากมาย ที่เรารู้จักกันดีก็มี เฉาเชา(โจโฉ) หลิวเป้ย์(เล่าปี่) ซุนกวน ข่งหมิง(ขงเบ้ง) เป็นต้น ที่รัฐอู๋(อู๋กั๋ว) 吴国/吳國 Wú Guó มีขุนพลหนุ่มนามว่า ลหวี่ เหมิง 呂蒙 Lǚ Ménɡ ตั้งแต่เด็กแต่เล็ก ลหวี่ เหมิงก็ชอบการต่อสู้ เมื่อโตขึ้นเป็นหนุ่ม ก็ได้เป็นขุนพลที่มีฝีมือในการสู้รบ กลายเป็นที่รักและเป็นที่พึ่งของรัฐอู๋ เจ้าผู้ครองรัฐอู๋ในขณะนั้นคือซุนกวน ทั้งรักทั้งเอ็นดูขุนพลลหวี่ เหมิง วันหนึ่งซุนกวนก็พูดกับขุนพลลหวี่ เหมิงว่า ท่านยังหนุ่มแน่น เป็นคนที่มีฝีมือ มีความสามารถในการนำทัพยิ่งนัก ข้อนี้ชาวรัฐอู๋รู้ดี และขอบคุณท่านที่ทำเพื่อชาติ แต่ท่านก็มีข้อด้อยก็คือ ความรู้ ท่านอ่านหนังสือน้อยไป เมื่อเป็นเช่นนี้ หากไม่ศึกษาอ่านเพิ่มเติมความรู้ สักวันความสามารถของท่านก็จะเข้าสู่ทางตันได้ ขุนพลลหวี่ เหมิง ได้ฟังเช่นนั้น แทนที่จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กลับครุ่นคิดในใจสักครู่ก็รู้ว่าตนเองเป็นเช่นนั้นจริง จึงตอบรับคำแนะนำของเจ้านาย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ยามว่างจากงานศึกสงคราม ขุนพลลหวี่เหมิงก็ตั้งหน้าตั้งศึกษาหาความรู้จากตำราต่างๆ ไหว้วานอาจารย์ดีมาถ่ายทอดความรู้ให้ตนอย่างสม่ำเสมอ นานวันเข้าความรู้ของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย มีวันหนึ่ง หลู่ซู่(ลูซก)กับขุนพลลหวี่ เหมิงได้นัดสนทนาเกี่ยวกับการทหารและยุทธศาสตร์การรบขึ้นมา ปรากฏว่าขุนพลลหวี่ เหมิงสามารถพูดได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง แจกแจงกลยุทธ์การศึกได้เป็นขั้นเป็นตอน จนเป็นที่แปลกใจของหลู่ซู่ และพูดขึ้นว่า ไม่เจอกันนาน ท่านขุนพลก้าวหน้าขึ้นมากมายเช่นนี้ เมื่อก่อนข้าพเจ้ามองท่านเก่งแต่เพียงการใช้กำลังเพียงด้านเดียว วันนี้ได้ฟังท่านบรรยายแล้ว ข้าพเจ้าต้องมองท่านใหม่เสียแล้ว บัดนี้ท่านกลายเป็นขุนพลที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊อย่างเต็มตัว 文武双全/文武雙全Wén wǔ shuānɡ quán (เหวิน อู่ ฌวาง เฉวียน) จากบทสนทนานี้ได้เป็นที่มาของคำว่า ไม่เจอกันเพียงชั่วข้ามคืน เก่งขึ้นได้มากมายเช่นนี้

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

成语比喻:以新的眼光来看待人。

Advertisement

成語比喻:以新的眼光來看待人。

Chénɡyǔ bǐyù:Yǐ xīn de yǎnɡuānɡ lái kàn dài rén.

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: อี่ ซิน เตอะ เหยี่ยนกฺวาง ไหล คั่น ไต้ เหริน

Advertisement

สุภาษิตเปรียบว่า ดูคนอื่นจากมุมมองที่ใหม่ๆ

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

不要瞧不起他,人人都会有进步,我们要以新的目光看待别人。

不要瞧不起他,人人都会有进步,我们要以新的目光看待别人。

Bùyào qiáobùqǐ tā, rén rén dōu huì yǒu jìnbù, wǒmen yào yǐ xīn de mùɡuānɡ kàn dài biérén.

ปู๋เหย้า เฉียวปู้ฉี่ ทา, เหริน เหริน โตว ฮุ่ย โหย่ว จิ้นปู้, หวั่วเหมิน เหย้า อี่ ซิน เตอะ มู่กฺวาง คั่น ไต้ เปี๋ยเหริน

อย่าดูถูกคนเขา คนทุกคนมีโอกาสก้าวหน้าทั้งนั้น เราควรมองคนอื่นจากมุมมองที่ใหม่ๆ

ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image