‘อนุทิน’ เผย มท.1 สั่งผู้ว่าฯ ปิดด่านทางบกตามแนวชายแดน วอนคนไทยกักตัวเอง หลังกลับจากพื้นที่เสี่ยง

รมว.สธ.เผย มท.1 สั่งเข้ม ผวจ.ปิดด่านทางบก ตามแนวชายแดน หวังสกัด ‘โควิด-19’ วอนคนไทย งดเดินทาง งดรวมกลุ่ม กักตัวเองหลัง กลับจากพื้นที่เสี่ยง

เมื่อเวลา 18.25 น. วันที่ 19 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี และบรรดาคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า นายกรัฐมนตรีได้เชิญคณบดีโรงเรียนแพทย์จากสถาบันต่างๆ และกระทรวงสาธารณสุขร่วมหารือกันเพื่อทำความเข้าใจระหว่างกัน เนื่องจากโรงเรียนแพทย์เป็นสถานพยาบาลที่เราดูแลรักษาประชาชนอยู่ด้วยในเรื่องโรคโควิด-19 จึงต้องทำความเข้าใจทุกฝ่ายให้ตรงกัน เพราะต้องมีการสนับสนุนระหว่างกันตลอดเวลา และทุกวันนี้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้สั่งซื้อยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงหน้ากากอนามัย เวชภัณฑ์ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้มอบให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อแล้วแจกไปยังหน่วยบริการทั้งหลาย ทั้งที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุขและสังกัดโรงเรียนแพทย์ ดังนั้น จึงต้องพูดคุยทำความเข้าใจเพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกัน การรักษาพยาบาลและการจำแนกคนไข้ ในแต่ละอาการว่าต้องดำเนินการอย่างไร การเฝ้าระวัง การควบคุมเมื่อเกิดความจำเป็นที่ต้องกักกันโรคที่บ้าน ที่จะต้องทำให้เหมือนกัน

นายอนุทินกล่าวว่า ยืนยันว่าวันนี้เรามีความพร้อมในเรื่องการรักษาพยาบาล รวมถึงการป้องกันและการเฝ้าระวังโรค ตอนนี้เหลืออยู่อย่างเดียวคือเรื่องความร่วมมือจากประชาชน ที่ไม่มีใครบังคับได้ ไม่ต้องขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันให้ความร่วมมือเท่านั้น โดยงดการเดินทางให้ได้มากที่สุด งดการไปรวมกลุ่มกันเป็นหมู่คณะ และต้องเฝ้าระวังตัวเอง ถ้าใครกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงก็ต้องเข้าสู่การกักกันตัว 14 วัน ถ้าทุกคนร่วมมือทำสิ่งเหล่านี้ เราจะสามารถผ่านวิกฤตไปได้แน่นอน ขอให้ทุกคนมีความมั่นใจในการให้บริการพี่น้องประชาชน ยืนยันว่าบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขทุกคนเต็มใจในการดูแลประชาชนทุกคนอยู่แล้ว

“ตอนนี้เรียกได้ว่าเราพร้อมรบทุกสถานการณ์ ถ้าเหตุการณ์เป็นแบบนี้เรารับได้ เพียงแต่จะต้องขอความร่วมมือจากประชาชนเท่านั้น ยืนยันว่าโรคนี้รักษาได้ ไม่ใช่ว่าเป็นแล้วต้องมีอาการหนักทุกคน โรคนี้เดินทางไปกับคน มันอยู่ในลำคอเรา มันไม่ได้เดินทางเอง มันเป็นสิ่งที่ลอยไปในอากาศเองไม่ได้ ไม่ได้ติดต่อจากการหายใจ แต่ติดต่อจากการสัมผัสเชื้อโดยตรง ดังนั้น การห้ามไม่ให้เชื้อนี้แพร่กระจายออกไปอีกคือต้องหยุดการเดินทาง หยุดการอยู่ใกล้ชิดกันให้มากที่สุด จะทำให้โอกาสติดเชื้อลดน้อยลง

Advertisement

“โรคนี้คือโรคระบาด ถึงอย่างไรก็มีคนต้องติดเชื้อ และสามารถรักษาหายได้ทุกคน ทั้งนี้ 80% ของคนที่ติดเชื้อ ไม่ปรากฏอาการ และใช้เวลา 5-7 วัน ร่างกายเขาสามารถสร้างภูมิต้านทานถึงกับไม่ต้องใช้ยา เพราะคนเหล่านั้นมีสุขภาพพื้นฐานที่แข็งแรง ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ข่าวร้าย แต่ต้องการความร่วมมือและเข้าใจจากทุกคนและเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้” นายอนุทินกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากประชาชนยังไม่ให้ความร่วมมือจะต้องนำกฎหมายมาบังคับหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ดีที่สุดคือทุกคนต้องให้ความร่วมมือ เพราะนี่คือชีวิตของแต่ละคน ทุกคนต้องรักตัวเอง

เมื่อถามว่า ภายหลังการหารือในวันเดียวกันนี้แล้ว จะมีมาตรการเพิ่มเติมออกมาหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า คือมาตรการที่จะไม่ให้คนต่างชาติเข้าประเทศไทย ซึ่งเราใส่เงื่อนไขเข้มข้นมาก เพื่อให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามายากมากขึ้น โดยจะมีการออกมาตรการปิดด่านทางบกของประเทศ บริเวณชายแดนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินการของ รมว.มหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเริ่มดำเนินการแล้วเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา สำหรับคนไทยที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศไทย เราประสานให้เอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศจัดหาแพทย์มาตรวจอาการคนไทยก่อนจะเดินทางมาว่า เป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นไข้ ก่อนจะขึ้นเครื่องเดินทางกลับมา และเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วพบว่ามีอาการป่วย เราก็จะนำตัวไปรักษาทันที

Advertisement

“เราพยายามทำทุกทางเพื่อให้เกิดความสบายใจแก่คนไทยทุกคนที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ แต่ขอย้ำว่ากรณีของคนต่างชาติหรือไม่ได้ถือสัญชาติไทย ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางไทย เราก็ต้องขออภัย จำเป็นต้องใช้มาตรการที่แรงมาก โดยต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าไม่เป็นโควิด-19 ต้องมีกรมธรรม์ประกันชีวิตตัวเอง วงเงินคุ้มครอง 100,000 เหรียญสหรัฐ และเมื่อเดินทางเข้ามาถึงไทยได้ก็ต้องถูกกักตัว 14 วัน ดังนั้น คิดว่าหากไม่มีความจำเป็นคงไม่มีใครอยากเดินทางเข้ามา” นายอนุทินกล่าว

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image