เปิดตัว CPS AGRI ระบบฐานข้อมูลเกษตรอัจฉริยะ ลดต้นทุนให้เกษตรกร 10 ล้านคน

ดีป้า จับมือ ซีพีเอส เวเธอร์ เปิดตัว CPS AGRI ระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อเกษตรอัจฉริยะ ตั้งเป้าช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรทั่วประเทศ ได้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ดีป้า มีภารกิจหลักในการส่งเสริมและสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมที่เป็นอาชีพหลักของคนไทย ซึ่งคิดเป็น 28% ของประเทศ โดยการพัฒนาเกษตรกรรมให้มีประสิทธิภาพจึงเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

อ่านข่าว “ดีป้า” ดันต่อกว่า 2,600 โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลรอบด้าน คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทะลุ 1,700 ล้าน

ด้วยเหตุนี้ ดีป้า จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท ซีพีเอส เวเธอร์ จำกัด และ บริษัท ซีพีเอส อะกริ จำกัด จัดทำโครงการ “CPS AGRI: ระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อเกษตรอัจฉริยะของประเทศไทย” ที่จะช่วยเตือนภัยธรรมชาติ เพื่อให้เกษตรกรทราบถึงข้อมูลสภาพอากาศและปริมาณน้ำฝนล่วงหน้าในพื้นที่ของตนเองได้อย่างแม่นยำ ทำให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการทรัพยากร วางแผนการเพาะปลูกและการจัดจำหน่ายได้ อีกทั้งยังเป็นการให้บริการในลักษณะของข้อมูลด้านบริการ (Data as a Service) ให้กับดิจิทัลสตาร์ทอัพสามารถเชื่อมโยงข้อมูล API จนนำไปสู่การพัฒนารูปแบบการให้บริการแบบใหม่สำหรับเกษตรกร

Advertisement

ด้าน ผศ.ดร.ชินวัชร์ สุรัสวดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอส เวเธอร์ จำกัด และ บริษัท ซีพีเอส อะกริ จำกัด กล่าวว่า โครงการ CPS AGRI: ระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อเกษตรอัจฉริยะของประเทศไทย จะเปิดให้บริการแก่ประชาชน เกษตรกร หน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มากถึง 10 ประเภท ได้แก่ ข้อมูลฝนจากดาวเทียมประมาณ 9 ดวง ผลการพยากรณ์อากาศความละเอียดสูง การสังเกตและผลการพยากรณ์พายุหมุนเขตร้อน พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาแหล่งน้ำผิวดิน ผลการพยากรณ์ภูมิอากาศความละเอียดสูงล่วงหน้า 10 ปี ข้อมูลสภาพอากาศจากอุปกรณ์ตรวจวัดสภาพอากาศ ข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกของพืชเศรษฐกิจ (ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา) ผลการพยากรณ์ผลผลิตอ้อย ข้อมูลพื้นที่น้ำท่วมจากดาวเทียม และสถานภาพความสมบูรณ์ของพืชจากดาวเทียม

และพัฒนาแพลตฟอร์มแอพพลิเคชัน ฟ้าฝน (FAHFON) เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยคาดว่าจะเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนี้ อันจะเกิดประโยชน์ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การบริหารจัดการน้ำ และประกันภัยพืชผล ลดความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และการพัฒนาศักยภาพด้านเกษตรอัจฉริยะของประเทศ โดยตั้งเป้าติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดสภาพอากาศ 500 จุดทั่วประเทศ และมีเกษตรกร รวมถึงประชาชนทั่วไปเข้าใช้บริการมากกว่า 10 ล้านคนภายในระยะเวลา 3 ปี หวังช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรและสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐศาสตร์ในภาพรวมของประเทศมากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี

พร้อมกันนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า และ ผศ.ดร.ชินวัชร์ ยังได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “เกษตรอัจฉริยะ กับการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล” พร้อมด้วย นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายกันตพงษ์ แก้วกมล รองประธานเครือข่าย Young Smart Farmer อุปนายกสมาคมเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับนโยบายและทิศทางในการขับเคลื่อนโครงการ CPS AGRI รวมถึงการแก้ปัญหาภัยธรรมชาติต่าง ๆ และวิธีที่เกษตรกรจะสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลของโครงการ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image