กกร.จี้รัฐเร่งประชุมศบศ.ฟื้นเศรษฐกิจหลังเว้นนาน ขอพื้นที่ชงวาระทำวัคซีนพาสปอร์ตเปิดต่างชาติเข้าไทย – กิโยตินกม. แนะประชุมทุกเดือน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลเร่งประชุมศูนย์บริการสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบศ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานภายในเดือนมีนาคมนี้ และให้บรรจุวาระที่นำเสนอโดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ประกอบด้วยส.อ.ท. หอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย เนื่องจากที่ผ่านมาศบศ. ให้ภาคเอกชนเข้าร่วม แต่ไม่เปิดให้มีวาระเฉพาะของภาคเอกชน ที่ต้องการนำเสนอรัฐบาลโดยตรง โดยปัจจุบันภาคเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว มาตรการกกระตุ้นเศรษฐกิจจึงมีส่วนสำคัญอย่างมาก ซึ่งภาครัฐมีข้อเสนอหลายส่วน
อ่านข่าว กกร. ถกมาตรการอุ้มธุรกิจ เสนอรัฐ ‘ปรับปรุง ฟื้นฟู เปลี่ยนแปลง’ นำทรัพย์ตึ๊งแบงก์
“อยากให้การประชุมศบศ.มีวาระเฉพาะของกกร.ที่ต้องการเสนอภาครัฐ เพื่อผลักดันมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการตรงจุด ครบถ้วน ไม่ใช่เพียงวาระที่นำเสนอโดยภาครัฐ และให้เอกชนแสดงความเห็น อยากให้ประชุมเดือนนี้ เพราะการประชุมศบศ.รอบล่าสุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ตอนนี้สถานการณ์โควิด-19 เปลี่ยนไปแล้ว ภาคเอกชนมีหลายอย่างที่ต้องการให้รัฐเร่งดำเนินการ อยากให้ประชุมทุกเดือน เพื่ออัพเดตสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง”นายสุพันธุ์กล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า มาตรการที่เอกชนต้องการนำเสนอ อาทิ แผนการออกวัคซีนพาสปอร์ต เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย โดยไม่ต้องกักตัว เชื่อว่า วัคซีนพาสปอร์ต จะจำเป็นใช้กันทั่วโลกในอนาคตเพื่อความเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาด นอกจากนี้จะเสนอความคืบหน้าในการยกเลิการใช้กฎหมายที่ไม่จำเป็น (กิโยตินกฎหมาย) ซึ่งที่ผ่านมามีนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เป็นประธานอนุกรรมการปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพหรือการดำเนินธุรกิจของประชาชน แต่ปัจจุบันยังไม่มีประธานที่ชัดเจน ซึ่งภาคเอกชนเกรงว่า จะยิ่งล่าช้า
“ที่ผ่านมามีข้อเสนอโละกฎหมายที่ไม่จำเป็นออกเป็นจำนวนมาก ถ้ายิ่งทำได้เร็ว จะช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับภาคเอกชนอย่างมาก ตอนนี้โลกเปลี่ยนไปมากแล้ว มีกฎหมายต่างๆ ที่ไม่จำเป็นจำนวนมาก สร้างภาระต้นทุนให้ประชาชน และภาคธุรกิจนับแสนล้านล้านต่อปี ทั้งค่าใช้จ่ายจริง และต้นทุนการเสียโอกาสในการทำธุรกิจ จึงเสนอให้โละกฎหมายที่ไม่จำเป็นเร็วที่สุด ถือเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องสูญเสียงบประมาณอีกด้วย”นายสุพันธุ์กล่าว
