ชี้แผนอีวี100%ดึงลงทุนทั่วโลก เร่งรถสาธารณะ-ราชการใช้อีวีนำร่อง

อดีตนายกส.ยานยนต์ไฟฟ้าไทยชี้แผนอีวี100%ดึงลงทุนทั่วโลก เร่งรถสาธารณะ-ราชการใช้อีวีนำร่อง ด้านกลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท.ค้านจำกัดตัวเองเกินไป

นายยศพงษ์ ลออนวล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ(บอร์ดอีวี) และอดีตนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ อยู่ระหว่างความเป็นไปได้ให้ปี 2578 ประเทศไทยจะกำหนดให้รถยนต์ทุกคันที่ขายภายในประเทศไทย เป็นรถยนต์ไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่100%(บีอีวี) และรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงหรือฟูล เซลล์ ว่า เป็นเรื่องที่ดีมาก การประกาศให้ทั่วโลกเห็นว่าอนาคตตลาดรถยนต์ในไทยจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า จะทำให้มีแรงดึงดูดการลงทุนสูง ช่วงเวลาที่ประกาศเกาะกลุ่มประเทศชั้นนำ อาทิ ญี่ปุ่น ประกาศปี 2578 อังกฤษปี 2573 ฝรั่งเศสปี 2583

อ่านข่าว ‘สุพันธุ์’รอคำตอบรัฐซื้อวัคซีนฉีดเอง แนะใช้แพลตฟอร์มลงทะเบียนสมัครใจฉีด

“ปัจจุบันไทยผลิตรถยนต์ปีละ 2 ล้านคัน ขายภายในประเทศ 1 ล้านคัน ส่งออก 1 ล้านคัน ขณะที่อินโดนีเซียผลิตเพียง 1 ล้านคัน และเวียดนามไม่กี่แสนคัน ยังห่างไทยอีกมาก นโยบายบีอีวีและฟูลเซลล์จะพิ่มแรงดึงดูดการลงทุนในไทย ทั้งการขยายสายการผลิตและลงทุนใหม่ เพราะปัจจุบันไทยเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ใหญ่ที่สุดในอาเซียน”นายยศพงษ์กล่าว

ประเมินว่าไทยมีโอกาสปรับสู่บีอีวีและฟูลเซลล์เร็วกว่าเป้าหมายปี 2578 เพราะกระแสโลกเปลี่ยนสู่รถยนต์ไฟฟ้าเร็วมาก คาดว่าในช่วงปี 2573-78 ทั่วโลกจะมีรถยนต์ไฟฟ้าออกมาใช้อย่างแพร่หลาย ราคาที่จับต้องได้ โดยไทยน่าจะใช้เวลาปรับตัวเพียง 10 ปีในการผลิตชิ้นส่วนรองรับรถยนต์ไฟฟ้า จากระยะเวลาปรับตัว 15 ปี

Advertisement

อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะมีความได้เปรียบหลายด้าน แต่อย่าประมาท รัฐบาลต้องผลักดันให้ทุกอย่างเดินหน้าตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการเร่งผลักดันให้รถราชการและรัฐวิสาหกิจ รถจักรยานยนต์ รถบัส รถเมล์ขสมก. รถแท็กซี่ และรถสาธารณะอื่น ปรับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าให้หมดโดยเร็ว จะทำให้เกิดตลาดขนาดใหญ่ คุ้มค่าต่อการลงทุนผลิตแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด โดยเร็วๆนี้ จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อวางแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนในการผลักดัน ตามมติบอร์ดอีวี หากทุกฝ่ายร่วมมือ มั่นใจว่าไทยจะยังคงเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคนี้

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า ไทยไม่ควรกำหนดระยะเวลาให้รถยนต์ที่ขายในประเทศเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่ผลิตรถยนต์ที่ส่งออกด้วย ไม่ได้ผลิตเพื่อใช้ในประเทศอย่างเดียว อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งในอนาคตประเทศต่างๆ ยังมีความต้องการรถยนต์หลากหลายเชื้อเพลิง ไม่ใช่อีวีอย่างเดียว จึงไม่ควรจำกัดตัวเองมากเกินไป เพราะจะทำให้เสียโอกาสได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image