ดีแทค-ทรู ตั้งเป้าเป็นฮับเทคโนโลยีระดับภูมิภาค รับเอไอเอสยังคงเป็นผู้นำตลาด

ดีแทค-ทรู ตั้งเป้าเป็นฮับเทคโนโลยีระดับภูมิภาค รับเอไอเอสยังคงเป็นผู้นำตลาด

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน ที่งานแถลงข่าวออนไลน์ระหว่างกลุ่มเทเลนอร์ และเครือเจริญโภคภัณฑ์ หลังจากการประกาศจัดตั้งตั้งบริษัทใหม่ร่วมกันในช่วงเช้า นายซิคเว่ เบรกเก้ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเทเลนอร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการแข่งขันตอนนี้เป็นการแข่งขันในระดับโลก จึงมีความจำเป็นในการร่วมเป็นพันธมิตรกัน ประกอบกับเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การแข่งขันต้องเปลี่ยนแปลงไป บริษัทใหม่ตั้งอยู่ในหลักความเท่าเทียมกัน โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งสองฝ่ายในสัดส่วนเท่ากัน นำส่วนที่ดีที่สุดของทั้งฝั่งดีแทคและทรู เพื่อรองรับความท้าทายทางดิจิทัลในอนาคต พร้อมเดินหน้าลงทุนในนวัตกรรมระดับโลก เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคในประเทศไทย

“บริษัทใหม่นี้จะมีรายได้ 2 แสนล้านบาท พร้อมทั้งมีส่วนแบ่งทางการตลาด 40% เมื่อเทียบกับทางเอไอเอส เรามองในส่วนของรายได้มากกว่าสัดส่วนจำนวนผู้ใช้งาน เพราะคนไทยส่วนใหญ่มีซิมการ์ดมากกว่า 1 ตัว เอไอเอสยังคงเป็นผู้นำในตลาด เราจะเรียนรู้จากเอไอเอสด้วย” นายซิคเว่ กล่าว

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมจะมีบทบาทน้อยลง จนเรียกได้ว่าเป็น “dump pipe” หรือท่อที่ไม่ฉลาด ประเทศไทยต้องการทรานฟอร์มเมชั่น โดยทั้งสองบริษัทไม่สามารถเพิ่มมูลค่าต่อได้ เพราะยังเป็นผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมเป็นหลัก ทั้งนี้ได้มีการเห็นถึงบทบาทใหม่เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศในการสร้างเทคโนโลยีให้กับประเทศไทย การดึงบริษัทระดับโลกอย่างกลุ่มเทเลนอร์ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญให้ประเทศไทยเข้าสู่ยุค 4.0 และ 5.0 ทั้งทรูและดีแทคพร้อมสร้างมูลค่าให้กับประเทศชาติ การผนึกกำลังในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเฉพาะแค่ 2 บริษัท แต่ยังนำไปสู่การร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP)

“สิ่งที่มองไปข้างหน้า ต้องการโฟกัสไปที่เทคโนโลยีเอไอ ดิจิทัลมีเดียแพลตฟอร์ม คลาวด์ สเปซเทคโนโลยี รวมไปถึงการเป็นเวนเจอร์แคปิทัล ที่จะช่วยระดมทุนจำนวน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีสตาร์ทอัพในประเทศไทย ได้มีโอกาสเจริญเติบโต ให้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทย พร้อมเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับภูมิภาคหรือในระดับโลกต่อไป” นายศุภชัย กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image