เช็กราคาน้ำมันทุกปั๊มบ่ายวันนี้ (5 ส.ค.65) หลังตลาดโลกร่วงต่ำสุดตั้งแต่เกิดสงคราม

เช็กราคาน้ำมันทุกปั๊มบ่ายวันนี้ (5 ส.ค.65) หลังตลาดโลกร่วงต่ำสุดตั้งแต่เกิดสงคราม

ผู้สื่อข่าวเกาะติดราคาน้ำมันขายปลีกในไทย ช่วงบ่ายวันนี้ (5 ส.ค. 65) พบว่าสถานีบริการ (ปั๊ม) ทุกอย่างขายในราคาเท่ากัน ยังไม่ปรับลดลงตามตลาดโลก นับตั้งแต่ลดราคาเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา อัตรา 40 สตางค์ต่อลิตร (เฉพาะพีทีที สเตชั่น และบางจาก) โดยราคาขายปลีกดังนี้

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามสถานการณ์ช่วงเย็นวันนี้ (17.00 น.) ว่า พีทีทีฯ และบางจาก จะนำร่องปรับลดราคาหรือไม่ เนื่องจากค่าการตลาดกลุ่มเบนซินล่าสุดค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอี 20 อยู่ที่ 4.53 บาทต่อลิตร

ข่าวเกี่ยวข้อง

ADVERTISMENT

สาเหตุการปรับลดราคาดังกล่าวมาจาก ราคาตลาดโลกปิดตลาดเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ลดลงมาก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง จากคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ โดยเฉพาะในสหรัฐ และในทวีปยุโรป รวมถึงภาวะหนี้สินของประเทศตลาดเกิดใหม่ต่างๆ และการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการนำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงาน ปริมาณน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันที่ชะลอตัวลง

ADVERTISMENT

และซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นประเทศผู้นำในกลุ่มโอเปคมีความพร้อมที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตหากเกิดวิกฤตในกรณีที่อุปทานน้ำมันดิบไม่เพียงพอในช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและประเทศพันธมิตร (OPEC+) มีมติเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 100,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ส่งผลให้น้ำมันเวสต์เท็กซัส เหลือ 88.54 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือลดลง 2.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล, น้ำมันเบรนท์ เหลือ 94.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือลดลง 2.66 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล, ดูไบ เหลือ 95.56 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือลดลง 2.62 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และตลาดสิงคโปร์ชนิดเบนซินออกเทน 95 เหลือ 108.85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือลดลง 4.30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ยกเว้นดีเซลเพิ่มขึ้น 3.26 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็น 128.40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image