บ้านหรูขายดีจัด ‘บิ๊กอสังหา’ แห่ลงทุนกระหึ่ม 4 หมื่นล้าน ‘กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่’

บิ๊กอสังหาทุ่มลงทุน 4 หมื่นล้าน ผุดบ้านหรู กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ราคา 8-100 ล้าน “แสนสิริ”ขายเกลี้ยงวันแรก “เมเจอร์-แลนด์ฯ” เปิดตัวก.ย.นี้ “โนเบิล” ซุ่มสร้างบ้านพร้อมอยู่ “A5” ลุยโปรเจ็กต์ที่ 2 อินเด็กซ์ส่ง ‘เดอะวอล์ค’ ชิมลาง ที่ดินพุ่งไร่ละ 56 ล้าน

วันที่ 3 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้เข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการบนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่(ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า) ปัจจุบันทยอยเปิดขาย ในวันที่ 10-11 กันยายนนี้ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน)เปิดพรีเซลโครงการ “นันทวัน พระราม9 -กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่” เนื้อที่กว่า 69 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 136 แปลง พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 302 ตารางเมตร (ตร.ม.) ขนาดที่ดินตั้งแต่ 100 ตารางวา(ตร.ว.) ขึ้นไป ราคา 40 – 80 ล้านบาท รวมมูลค่า 5,500 ล้านบาท

ขณะที่บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) จะเปิดให้เยี่ยมชมบ้านตัวอย่างโครงการ “มอลตัน เกทส์ กรุงเทพกรีฑา” มูลค่า 2,100 ล้านบาท เนื้อที่ 21 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาด ตั้งแต่ 71-137 ตร.ว. จำนวน 49 ยูนิต ราคา 38 – 80 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายสะสมแล้วกว่า 40%

นันทวัน จากแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ปิดการขายเฟสแรกโครงการ “บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา” บ้านเดี่ยวระดับราคา 14.99 – 40 ล้านบาทแล้วในวันพรีเซลล์ มียอดขายรวม 2,000 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรวมโครงการแนวราบล่าสุดเกิน 23,000 ล้านบาท โตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 71%และคิดเป็นกว่า 96% จากเป้ายอดขายแนวราบ 24,000 ล้านบาท และ 66% จากเป้ายอดขายรวมของบริษัท 35,000 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าโซนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ แสนสิริเข้าไปพัฒนาเป็นเจ้าแรกตั้งแต่ยังไม่มีถนนตัดใหม่ ซื้อที่ดินไว้ 300 ไร่ และเริ่มพัฒนาเมื่อปี 2557 และทยอยซื้อที่ดินเพิ่ม 200 ไร่ ถึงปัจจุบันมี 500 ไร่ จะพัฒนา 8-9 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวแบรนด์พรีเมียม

Advertisement

โดยปิดการขายแล้ว 2 โครงการ คือ เศรษฐสิริ 1 และเศรษฐสิริ 2 พื้นที่ 155 ไร่ รวม 483 ยูนิต มูลค่า 7,500 ล้านบาท และจะเปิดขาย 3 โครงการ มูลค่ารวม 9,300 ล้านบาท ระดับราคา 12-100 ล้านบาท ได้แก่ นาราสิริ พื้นที่ 57 ไร่ 86 ยูนิต มูลค่า 4,000 ล้านบาท บุราสิริ พื้นที่ 85 ไร่ 276 ยูนิต มูลค่า 4,000 ล้านบาท และบูก้าน พื้นที่ 19 ไร่ 48 ยูนิต มูลค่า 1,300 ล้านบาท ส่วนพื้นที่ยังเหลือกว่า 180 ไร่ จะพัฒนาในปี 2566-2568

“สำหรับราคาที่ดินปรับขึ้นตามศักยภาพของทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย มอเตอร์เวย์และทางด่วน ส่งผลราคาที่ดินปรับขึ้น 150% ในเวลา 10 ปี ล่าสุดราคาอยู่ที่ตารางวาละ 140,000 บาท และมีความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่เติบโตปีละ 10%” นายอุทัยกล่าว

นายอุทัยกล่าวว่า เนื่องจากทำเลนี้จะรายล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติและคอมมูนิตี้มอลล์ เช่น มาร์เก็ตเพลส โรงพยาบาล และสามารถเข้า-ออกได้ทั้งถนนรามคำแหงและถนนศรีนครินทร์ตัดใหม่ ซึ่งลูกค้าที่อยู่ในเศรษฐสิริมีทั้งซื้ออยู่เองและให้เช่า ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจและครูสอนหนังสือจากประเทศจีนและยุโรป เพราะใกล้โรงเรียนนานาชาติ สนามบินสุวรรณภูมิและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี

Advertisement
บุราสิริ จากแสนสิริ

นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือA5 กล่าวว่า ครึ่งปีหลังจะเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 4,500 ล้านบาทที่จ.อุดรธานี 2 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ราคา 2.5-4 ล้านบาทและโครงการ “แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา” แบรนด์ใหม่ บนเนื้อที่ 29 ไร่ มูลค่า 2,700 ล้านบาท เป็นบ้านหรู 3 ชั้น ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ จำนวน 48 ยูนิต ขนาด 117.5-222.3 ตร.ว. มีลิฟต์ทุกหลัง จอดรถได้ 12 คัน ราคา 50-100 ล้านบาท เป็นโครงการที่ 2 บนทำเลนี้ ต่อจาก “วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9-ศรีนครินทร์” ที่ปิดการขายแล้ว ขณะนี้กำลังก่อสร้างจะเปิดขายเฟสแรก 7 ยูนิตในไตรมาส4/2565 และปิดการขายทั้งโครงการในปี 2567 ซึ่งโครงการนี้เป็นแฟลกชิพของบริษัท

“ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เป็นทำเลทองแห่งใหม่ถนนบ้านหรู และจะเป็นถนนเบเวอรี่ฮิลล์เมืองไทย เราเข้าไปซื้อที่ดินตั้งแต่ปี2559 ปัจจุบันราคาที่ดินปรับขึ้นทุกปีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ตารางวาละกว่า 1 แสนบาท” นายศุภโชคกล่าว

แซงค์ รอยัล จาก แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป

นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวล ลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกของบริษัทที่ลงทุนพัฒนาโครงการแนวราบบนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ภายใต้แบรนด์ “นิว เวิร์ส” มีเนื้อที่ 50-60 ไร่ แยกเป็น 2 โครงการมีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ระดับบน มูลค่า 2,600 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างเฟสแรก เป็นบ้านพร้อมอยู่จะเปิดจองในปี2566 ซึ่งบริษัทมองว่ามีศักยภาพ มีจุดเชื่อมต่อที่น่าสนใจจากถนนตัดใหม่ และเมืองเริ่มขยายมาโซนตะวันออกของกรุงเทพฯมากขึ้น เมื่อเปิดจองแล้วคาดว่าจะได้รับการตอบรีบจากลูกค้า

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ได้เช่าที่ดิน 7 ไร่ครึ่ง ก่อสร้าง “เดอะวอล์ค” บนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท เป็นอาคารชั้นเดียว มีเฉพาะร้านค้าและร้านอาหารรองรับกำลังซื้อย่านนี้ จะเริ่มก่อสร้างเร็วๆนี้พร้อมเปิดบริการไตรมาส3/2566

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ในปี2565 บนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เข้าไปเปิดโครงการบ้านหรูมากเป็นประวัติการณ์ในพื้นที่เดียวร่วม 10-11 โครงการ จำนวน 1,220 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 8-100 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการไม่น้อยกว่า 3-4 หมื่นล้านบาท ด้านความเคลื่อนไหวราคาที่ดินตามแนวถนนสูงขึ้นต่อเนื่องจากที่พื้นที่นี้เคยเป็นที่ดินตาบอด การเดินทางเข้าถึงทำได้ยาก กลายเป็นพื้นที่ที่ราคาที่ดินล่าสุดอยู่ระหว่าง 120,000 – 140,000 บาท/ตร.ว.หรือไร่ละ 48 – 56 ล้านบาทสูงขึ้นกว่า 2 – 3 เท่า แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีที่ดินในมือมาก่อนหน้านี้แล้ว

มอลตัน เกทส์ จากเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image