ธ.ก.ส.กางบัญชีครึ่งปี พบหนี้เสียเกษตรกรพุ่ง 12.5%

ธ.ก.ส.กางบัญชีครึ่งปี พบหนี้เสียเกษตรกรพุ่ง 12.5%

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงสถานการณ์หนี้ของเกษตรกรว่า ผลจากโควิด สงครามรัสเซีย-ยูเครน กระทบต้นทุนการผลิต และเงินเฟ้อ รวมทั้งสถานการณ์น้ำท่วม ส่งผลให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ช่วงครึ่งปีแรกของปีบัญชี 2565/66 (เดือนเมษายน – กันยายน 2565) อยู่ที่ระดับ 12.5% จากปกติธนาคารจะมีเอ็นพีแอลไม่เกิน 10% ดังนั้นธนาคารจะให้ความสำคัญกับการเข้าไปดูแลปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อทำให้สิ้นปีบัญชี 2565 (31 มีนาคม 2566) สัดส่วนเอ็นพีแอลลดลงเหลือระดับ 7% โดยช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2565 เกษตรกรจะมีรายได้จากการเก็บเกี่ยวผลผลิต คาดว่าจะทำให้เกษตรกรกลับมามีความสามารถในการชำระหนี้อีกครั้ง ขณะที่ผลการดำเนินงานธ.ก.ส. ครึ่งแรกของปีบัญชี 2565/66 ปล่อยสินเชื่อกว่า 368,745 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีบัญชี 2565 จะปล่อยสินเชื่อได้กว่า 7 แสนล้านบาท

โดย ณ 30 กันยายน 2565 ธนาคารมีสินเชื่อสะสมกว่า 1.6 ล้านล้านบาท และเงินฝากอยู่ที่ 1.77 ล้านล้านบาท และมีสินทรัพย์มากกว่า 2.12 ล้านล้านบาท หนี้สินอยู่ที่ระดับ 1.974 ล้านล้านบาท สำหรับรายได้จากดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมอื่นๆ อยู่ที่ระดับ 4.2 หมื่นล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินงานของแบงก์อยู่ที่ประมาณ 4.1 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 2565 อยู่ที่ 1,388 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ประมาณ 50 ล้านบาท

สำหรับภาวะแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น สถาบันการเงินของรัฐยังยืนยันตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 2 ครั้งที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ยังตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ช่วยเหลือลูกหนี้เกษตรกรอยู่ และจะรอติดตามสถานการณ์การประชุมกนง. อีกครั้งในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 หากกนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ประเมินแล้วไม่กระทบแบงก์ ธนาคารจะยังตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ให้นานที่สุด

อ่านข่าวอื่น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image