ธุรกิจโรงแรม ฟื้น! แย่งซื้อตัวแรงงานคึก ‘กลุ่มออนิกซ์’ ทุ่มนำเข้าจากอาเซียน-อินเดีย

“ธุรกิจโรงแรม” ฟื้น! แย่งซื้อตัวแรงงานคึก “กลุ่มออนิกซ์” ทุ่มนำเข้าจากอาเซียน-อินเดีย

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ แบรนด์อมารี, โอโซ่และซามา เปิดเผยว่า หลังโควิด-19 คลี่คลาย แต่ละประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทาง มีนักท่องเที่ยวเข้ามายังประเทศไทยมากขึ้น ทั้งนักท่องเที่ยวยุโรป ตะวันออกลาง อินเดียสิงคโปร์ มาเลเซีย คาดว่าถึงสิ้นปีจะอยู่ที่กว่า 10 ล้านคน และในปี 2566 จะเพิ่มมากขึ้นอีก ทำให้ปัจจุบันเริ่มเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม มีอัตราเข้าพักและค่าห้องเริ่มไต่ระดับสูงขึ้น แต่ยังไม่เท่ากับช่วงก่อนมีโควิด ซึ่งเห็นได้จากโรงแรมในเครือที่จ.ภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวยุโรปกลับมา 90-100% ส่วนราคาค่าห้องกลับมาอยู่ที่ 70-80% มีแนวโน้มราคาจะกระชากอีก 25-30% ในปี 2566 เพราะต้นทุนสูงขึ้น จะไม่มีของถูกอีกต่อไป

“เรามีโรงแรมทั้งหมด 50 แห่ง ครอบคลุมในประเทศไทย มาเลเซีย จีน ฮ่องกง มัลดัฟส์ บังคลาเทศ สปป.ลาว ในนี้มีประมาณ 15% ที่เป็นเจ้าของเอง ส่วนที่เหลือเป็นการรับบริหาร ในช่วงโควิดระบาด 2 ปี เราแย่มาก จนไม่รู้จะแย่ยังไง เพิ่งเริ่มดีขึ้นในปีนี้ ขณะนี้โรงแรมโอเรียลเต็ล เป็นระดับลักชัวรี่อัตราเข้าพักและราคาห้องรีโคฟเวอร์ตั้งแต่กรกฎาคมที่ผ่านมา ค่าห้องอยู่ที่ 20,000 บาทต่อคืน โรงแรมอมารีได้วอลุ่มกลับมาแล้ว 70-80% แต่ราคายังอยู่ที่ 70% โรงแรมโอโซ่เป็นระดับ 3-4 ดาว ยังกลับมาช้า ส่วนชามาเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ทั้ง 6 แห่ง ที่เราขายรายวันด้วยเป็นแบรนด์เดียวที่รอดจากโควิด เพราะมีลูกค้ากลุ่มต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทยอยู่แล้ว ทำให้รายได้กลุ่มโรงแรมปีนี้เราเริ่มไต่ระดับสูงขึ้นจากช่วงโควิด คาดว่าจะอยู่ทึ่ 3,000 ล้านบาทและในปี 2566 จะเพิ่มอีกเท่าตัวอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับก่อนมีโควิด”นายยุทธชัยกล่าว

นายยุทธชัยกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการจะเริ่มฟื้นตัว แต่ในยังเจอปัญหาเรื่องปริมาณเที่ยวบินยังน้อย ทำให้ราคาตั๋วโดยสารแพง รวมถึงค่าแรงที่สูงขึ้นและแรงงานขาดแคลน หลังหลายธุรกิจเริ่มฟื้นทำให้มีความต้องการแรงงานมากขึ้น

โดยธุรกิจโรงแรมขาดแคลนทั้งแรงงานไม่มีทักษะ เช่น แม่บ้าน คนล้างจาน รวมถึงมีทักษะสูง จนเริ่มเห็นการแย่งซื้อตัวเกิดขึ้นในระบบ ซึ่งในส่วนของโรงแรมในเครือขณะนี้มีพนักงานกลับเข้ามาในระบบ 3,000 คน ยังขาดอยู่กว่า 1,000 คน ได้แก้ปัญหาโดยนำเข้าแรงงานจากประเทศในอาเซียนและอินเดีย เพราะเราพัฒนาคนไม่ทัน ขณะเดียวกันก็พยายามคุมกำเนิดไม่เพิ่มคนจำนวนมาก เพื่อบริหารต้นทุนที่สูงขึ้นจากค่าแรงและค่าใช้จ่ายต่างๆ

Advertisement

“ช่วงโควิด ธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทำให้มีเจ้าของโรงแรมระดับ 3-4 ดาวทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดมาเสนอขายให้เราอย่างต่อเนื่องจนถึงตอนนี้ ราคาอยู่ที่แห่งละหลัก 100 ล้านบาท แต่เราก็ปฎิเสธไป เพราะราคาที่เสนอขายยังค่อนข้างแพง และเราเองก็ยังแย่อยู่ ขอโฟกัสเฉพาะโรงแรมในเครือก่อน รอให้ธุรกิจและเศรษฐกิจฟื้นตัวเต็มที่ถึงจะมาพิจารณากันใหม่”นายยุทธชัยกล่าว

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image