จิบน้ำชา สนทนา ‘ชิม ชินวิริยกุล’ นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ‘จีนคือโรงงานของโลก ถ้าไม่ไปตามเขา เราตกขบวน’

“ในฐานะคนจีนโพ้นทะเลคนหนึ่ง ก็ดีใจว่าเราผูกมิตรกับประเทศจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่แน่นอนแล้วว่า อย่างไรจีนก็ต้องมา กระแสโลกมันขัดไม่ได้ ถ้าเราไม่ไปตามเขา เราตกขบวนนะŽ”

คือส่วนหนึ่งของบทสนทนาระหว่างจิบน้ำชาร่วมกับ ชิม ชินวิริยกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทยคนปัจจุบัน ผู้นำเสนอวิสัยทัศน์เดินหน้าความสัมพันธ์ไทย จีน และอาเซียน เล็งพัฒนาพื้นที่ 138 ไร่ ของสมาคมให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ได้รับการลงคะแนนเสียงท่วมท้นให้รับไม้ต่อจาก ดร.แสงชัย โสตถีวรกุล โดยมีบุคคลสำคัญให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยานมากมาย รวมถึง ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เมื่อ 29 พฤษภาคม 2565 พร้อมคณะกรรมการสมัยที่ 41

ด้วยบทบาทนายกสมาคมที่ต้องดูแลชาวแต้จิ๋วบนแผ่นดินไทยซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในบรรดาชาวจีนทุกกลุ่ม ชิม วัย 78 ปี ยังคงคล่องแคล่วในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ของสมาคม ซึ่งกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 85 หากนับจากปีที่จดทะเบียน ทว่า แท้จริงแล้วก่อตั้งมานานกว่า 100 ปี ปรากฏหลักฐานคือสุสาน ศาลเจ้า โรงเรียนที่บรรพบุรุษชาวแต้จิ๋วสร้างไว้ ตั้งแต่โรงเรียนอนุบาล อย่างโรงเรียนเผยอิง ถนนทรงวาด โรงเรียนโกศลวิทยา และโรงเรียนนิพัทธ์วิทยา เป็นต้น

Advertisement

ตลอดระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีที่ดำรงตำแหน่ง ชิม ชินวิริยกุล ในฐานะนายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย สานต่อเจตนารมณ์บรรพชนผ่านกิจกรรมต่างๆ หลากหลาย โดยสมาคมเพิ่งมอบเงิน 5 ล้านบาท แก่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เพื่อร่วมทำบุญก่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง สาทร เมื่อ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา

ชื้อ หุย ชิม หรือ สวี ฮุ่ย เซิน ในสำเนียงจีนกลาง คือชื่อที่นายกสมาคมแต้จิ๋วท่านนี้เล่าว่าเป็นที่มาของชื่อจริงพยางค์เดียวว่า ชิมž โดยเปลี่ยนจากนามเดิมว่า สุชาติž ส่วนนามสกุล ชินวิริยกุลž นั้น ลงมือตั้งขึ้นเอง โดยสื่อความหมายถึง ตระกูลที่มีความวิริยอุตสาหะ ซึ่งไม่ผิดไปจากเส้นทางชีวิตที่ต่อสู้มาจากพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวž แถวตรอกเต๊า เสือป่า กระทั่งหาเงินลงทุนให้น้องซื้อขาย ’เครื่องเก่า’ž ก่อนได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมส่งเสริมผู้ค้าเครื่องยนต์และอะไหล่เก่าซึ่งมีสมาชิกกว่า 200 บริษัท

Advertisement

เคยพุ่งชนค้านแนวคิดห้ามนำเข้าเครื่องเก่าที่กำลังจะถูกเสนอเข้า ครม.ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีที่ ชิม ชื่นชมมาจนถึงวันนี้ สุดท้ายโต้ชนะนักวิชาการที่มีคำนำหน้าว่า ดอกเตอร์ž ถึง 2 ราย กลางที่ประชุมจนต้องเงียบเสียง กลายเป็นประวัติชีวิตที่เจ้าตัวบอกว่า ’ภาคภูมิใจ’ž

“ผมก็บอกว่าเครื่องเก่านี้ ญี่ปุ่นพัฒนาเรื่องอุตสาหกรรม ยานยนต์มาก่อน แม้กระทั่งสหรัฐอเมริกาประเทศที่พัฒนาแล้วยังจะต้องใช้ของญี่ปุ่น เพราะถ้าเครื่องเสียแล้วไปซื้อของใหม่ แพงกว่าเป็น 1,000% ถ้ามันใช้ได้ ถูกกว่า อเมริกายังต้องซื้อเลย ดอกเตอร์ 2 คนขึ้นมาโต้ผม บอกอยู่อเมริกามา 10 ปี ถ้าอเมริกาเอาของขยะพวกนี้เข้าไป จะให้ตัดหัว ผมเลยเอาใบรายการที่เราส่งไปอเมริกาเป็นตั้งยกขึ้นมาให้ประธานดู ดอกเตอร์เงียบเลย”Ž นายกสมาคม ’เครื่องเก่า’ž ในวันนั้น นายกสมาคมแต้จิ๋วในวันนี้ ย้อนเล่าความทรงจำที่ยังคงแจ่มชัด

ตัดภาพกลับมายังห้องทำงานในอาคารสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ซอยเย็นจิตร ตรอกจันทน์ สาทร ใจกลางกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร อันเป็นที่ทำการแห่งที่ 3 ของสมาคมมานานถึง 6 ทศวรรษ หลังเคยโยกย้ายมาแล้ว 2 ครั้ง โครงสร้างได้รับการออกแบบอย่างแน่นหนา ภายในงดงามตระการตา

ว่าแล้ว มาจิบน้ำชาร้อนๆ พูดคุยเรื่องไม่ร้อน แต่ห้ามหลุดโฟกัส ทั้งสัมพันธ์จีน-ไทย-โลก และการกระตุ้นเศรษฐกิจในมุมมองของนายกสมาคมแต้จิ๋ว ผู้ผ่านชีวิตมาแล้ว 78 ฤดูใบไม้ผลิ

-หนึ่งในวิสัยทัศน์ของท่านคือการพัฒนาที่ดินของสมาคมแต้จิ๋วซึ่งมีจำนวนมากให้เป็นสวนสาธารณะเพื่อประชาชน เบื้องต้นมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง

สมาคมแต้จิ๋วโชคดี เพราะเป็นสมาคมใหญ่ เรามีโอกาส มีทรัพย์สินพอสมควร จึงวางแผนพัฒนาเพิ่มเติม โดยเริ่มทำไปแล้วบางส่วนเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คือการจัดพิธีฌาปนกิจที่สุสาน ส่งดวงวิญญาณ ทำแล้วรู้สึกสบายใจ เพราะเก็บไว้ในโกดัง 10 กว่าปีแล้ว

ส่วนที่เหลือก็จะค่อยๆ ทำต่อไป เราประกาศว่ามีที่ดินสุสานอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ถ้าลูกหลานคนไหนต้องการย้ายโครงกระดูกจากที่นี่ เราจะดำเนินการย้ายให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หรือจะให้เก็บขึ้นมาบรรจุในช่องเหมือนอย่างในวัดก็ได้ ถ้าย้ายได้หมดก็อยากพัฒนาที่ดินตรงนี้ให้เป็นสวน หรืออาจสร้างเป็นหอที่ระลึก ก็เป็นสิ่งที่ต้องค่อยๆ คิดในอนาคต

-ความรู้สึกเมื่อครั้งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เยือนไทยเพื่อร่วมการประชุมเอเปค ซึ่งท่านได้ต้อนรับอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน

ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับสมาคมแต้จิ๋ว และหอการค้าไทย-จีน ซึ่งหอการค้าถือเป็นสมาคมที่ทำการค้า แต่สมาคมแต้จิ๋วเป็นสมาคมที่ผูกมิตรสัมพันธ์ระหว่างตำบลกับชาวแซ่ต่างๆ ช่วงที่ท่านสี จิ้นผิง มาเยือนประเทศไทย หอการค้าและสมาคมแต้จิ๋วมีโอกาสไปรับที่สนามบินถึงหน้าเครื่องเลย กระผมก็มีโอกาสนั้น ท่านนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไป (อ่าน ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน ทำนายเศรษฐกิจ 66 เมื่อจีนเปิดประเทศ)

การที่ประเทศไทยให้ความสำคัญ กระผมในฐานะคนจีนโพ้นทะเลคนหนึ่ง ก็ดีใจว่าเราผูกมิตรกับประเทศจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่แน่นอนแล้วว่า อย่างไรจีนก็ต้องมา กระแสโลกมันขัดไม่ได้ ถ้าเราไม่ไปตามเขา เราตกขบวนนะ เราทำการค้าเป็นหลัก ไม่ทะเลาะกับใครอยู่แล้ว

ณ วันนี้ ไม่มีทางกดดันจีนให้ถอย เพราะจีนเป็นโรงงานโลก สี จิ้นผิง เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่มาก เคลื่อนไหวอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็สะเทือนทั่วโลก เป็นผู้นำของโลกคนหนึ่งแล้ว

-มองภาพรวมบรรยากาศการค้า การลงทุนและปากท้องคนไทยในขณะนี้ อย่างไร

ทุกวันนี้รถติดมาก แต่ดีใจ โควิดไปแล้ว เศรษฐกิจจะวิ่งขึ้นมาแล้ว ที่ไหนก็คึกคักไปหมด นั่นคือสิ่งที่เรายินดี รถติดเราบ่น แต่ผมว่ารถติด ดีกว่าไม่ติด

ประเทศไทยของเรา ดิน ฟ้า อากาศ และภูมิประเทศเหมาะสมที่สุด ดีที่สุด ทุกครั้งที่มีคนจีนมาเยือนผมจะพูดเสมอว่า คนจีนโพ้นทะเลที่มาอาศัยผืนแผ่นดินไทยรู้สึกเป็นบุญนักบุญหนา เราไม่มีการแก่งแย่ง แตกแยกเรื่องเชื้อชาติ ใครๆ ก็อยากมาอยู่ที่นี่

ถ้าให้ผมแนะนำภาครัฐ คิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือเราควรผ่อนคลายข้อบังคับต่างๆ สำหรับชาวต่างชาติ ไม่เฉพาะคนจีน แต่ใครก็ตามที่อยากมาอยู่ประเทศไทย ควรจะให้กรีนการ์ด อนุญาตให้คนที่อยากมาอยู่ประเทศไทย ผู้มีฐานะ ผู้ที่เราอยากให้เขาฝากเงินในคลังของเราเท่าไหร่ก็ได้แล้วแต่ทางรัฐกำหนด ให้เขามีถิ่นที่อยู่ คนเหล่านี้จะมาสร้างงาน มาจับจ่าย สิงคโปร์ยังผ่อนคลายเลย

นอกจากนี้ บ้านเราคือแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลก ต้องเชียร์ให้ผู้ว่าฯ รัฐมนตรี นายกฯ ใครก็ได้ ขอให้ผ่อนคลาย ข้อสำคัญคือต้องให้มีความปลอดภัย มีความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าเมือง ทั้งสนามบิน ทั้งวีซ่า ต้องพยายามให้รวดเร็วที่สุด ให้เขามีความประทับใจ

ผมอยากแนะอีกอย่างว่า เนื่องจากเรามีสถานทูตทั่วโลก ต้องให้สถานทูตไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ประสานระหว่างประเทศ แต่ให้ร่วมโปรโมตเรื่องท่องเที่ยวด้วย โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯส่งข้อมูลต่างๆ ไปให้ แล้วให้แต้มเลยว่า ถ้ามีนักท่องเที่ยวจากประเทศนั้นเข้ามาไทยเกินจำนวนเท่าไหร่ จะได้กี่คะแนน และได้รางวัลเท่าไหร่ ผมว่าเป็นผลพลอยได้ รัฐก็ได้ด้วย

การคมนาคมเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ต้องสนับสนุนเรื่องสายการบินต่างๆ นี่เป็นหัวใจ อาจต้องมีบินตรงเข้าประเทศไทย เมื่อเปิดเที่ยวบินแล้วก็มาดูสถิติว่าแต่ละประเทศมีคนมาเที่ยวไทยกี่คน

บ้านเราโชคดีมากๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับโลก ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต พัทยา และอีกมากมาย ถ้าพัฒนาให้ดี บริการอันดับ 1 แล้วก็อย่าไปหลอกเขา ค้าขายอะไรให้ตรงไปตรงมา ติดป้ายให้ชัดเจน
ไทยเราฟื้นแน่ เขามาดูแค่น้ำ แค่ทะเล บ้านเราก็มีเงินตามเข้ามาเยอะแยะแล้ว ไม่ต้องขาดดุลการค้า เล่นอย่างเดียวเลย คือท่องเที่ยว

-ฝากข้อคิดถึงชาวแต้จิ๋วรวมถึงชาวไทยเชื้อสายจีน

ในฐานะคนไทยเชื้อสายจีน อยากฝากถึงคนจีนทั่วโลกว่าทุกคนต้องสามัคคี ต้องช่วยเหลือกัน จีน ไต้หวัน ฮ่องกง เป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน ไม่ทะเลาะ หรือสู้รบกัน

ต้องมีสันติภาพ นำพาจีนขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image