‘แอตต้า’ ห่วงขึ้นค่าแรงกระทบศก.ลามท่องเที่ยว-การลงทุน

วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 - 13:31 น.

‘แอตต้า’ ห่วงขึ้นค่าแรงกระทบศก.ลามท่องเที่ยว-การลงทุน

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ย (แอตต้า) เปิดเผยว่า ในธุรกิจทัวร์นำเที่ยว ต้องยอมรับว่าต้นทุนหลักๆ เป็นเรื่องค่าจ้างแรงงาน ทำให้นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาทต่อวัน และทยอยปรับขึ้นทุกปี จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจแน่นอน เพราะหากมีการปรับขึ้นค่าแรงจริง จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ ลุกลามไปยังภาคการท่องเที่ยวแน่นอน เพราะหากมีการปรับค่าแรงขึ้น ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น ก็ต้องปรับราคาขึ้นให้สอดคล้องกับต้นทุน สินค้าอุปโภคบริโภคก็จะมีราคาแพง ภาคบริการก็จะถูกกระทบในแง่ของการบริโภค ส่งต่อยังราคาการบริการที่ต้องขึ้นให้สอดคล้องกันอีก

“หากค่าจ้างไม่ขึ้น แต่ราคาสินค้าและบริการอยู่ในระดับที่ต่ำกว่านี้ เพราะสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนให้ถูกลงตามกลไกของราคาวัตถุดิบหรือพลังงานที่ปรับลดลงได้ เชื่อว่าทุกคนอยู่ได้ แต่หากค่าจ้างปรับขึ้น เงินเดือนสูงขึ้น ผู้ประกอบการหรือพ่อค้าแม่ค้าก็ต้องปรับราคาขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกัน” นายศิษฎิวัชร กล่าว

นายศิษฎิวัชร กล่าวว่า ส่วนที่น่าเป็นกังวลอยู่ที่ภาคการลงทุน เพราะนักลงทุนต่างชาติมีความสามารถในการเลือกได้ เมื่อเห็นว่าราคาแรงงานของไทยแพงกว่าเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพใกล้เคียงกันหรือมากกว่าไทยด้วยซ้ำ อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องมาลงทุนในไทย ย้ายไปลงทุนในประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่าไทยแทนดีกว่า จึงเป็นห่วงภาคการลงทุนที่สุดในส่วนนี้

นายศิษฎิวัชร กล่าวว่า ความสามารถในการแข่งขันของภาคการท่องเที่ยวไทย เทียบกับประเทศท่องเที่ยวต่างๆ นั้น เนื่องจากไทยมีกระแสข่าวที่ไม่ค่อยดีออกมาอย่างต่อเนื่อง บวกกับต้นทุนในการทำธุรกิจที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อศักยภาพของภาคการท่องเที่ยวได้ เพราะความจริงไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอยู่แล้ว แต่เมื่อมีข่าวที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง ก็จะมีผลต่อความเชื่อมั่นในการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อดึงความเชื่อมั่นกลับคืนมาทั้งในด้านความปลอดภัย ความมั่นคง และการบริหารด้วย

นายศิษฎิวัชร กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา อยู่ที่ 10,448,481 คน ซึ่งสะสมถึง 10 ล้านคนแล้ว โดยการใช้เวลากว่า 5 เดือนจึงจะแตะระดับ 10 ล้านคนนั้น มองว่าเป็นอัตราที่ไม่ได้เร็วเหมือนที่คาดการณ์ไว้ ว่าภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้ดี โดยเฉพาะเมื่อจีนเปิดให้ทำทัวร์มาเที่ยวไทยได้ อย่างไรก็ตาม ยังคาดหวังว่าในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปี 2566 ตลาดต่างชาติจะฟื้นตัวเข้ามาเที่ยวไทยได้ในอัตราที่เร็วกว่าเดิม เพื่อให้ถึงเป้าหมายที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วางไว้ที่ 25 ล้านคน

อ่านข่าวน่าสนใจ