ประธานส.อ.ท. ห่วง!! 19 อุตฯ ออเดอร์ร่วง แต่ยังเดินเครื่องจักรเพื่อพยุงจ้างงาน

“เกรียงไกร” ประธานส.อ.ท.ห่วง 19 อุตฯผลิตแค่พยุงจ้างงานทั้งที่ออเดอร์หาย ห่วงตั้งรบ.วุ่นภาพหลอนม็อบลงถนน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ “มติชน” ถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้จนถึงปีหน้า ว่า ปีนี้เครื่องยนต์ส่งออกของไทยกำลังแผ่วลง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯลดความร้อนแรง จากมาตรการดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ทำให้คำสั่งซื้อสินค้าไทยลดตามไปด้วย เห็นสัญญาณตั้งแต่ตุลาคม 2565 ถึง เมษายน 2566 ที่ตัวเลขส่งออกลดลง โดย คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดการณ์ตัวเลขการส่งออกของไทยดีที่สุด คือ ลบ1% ถึง 0% ล่าสุดแนวโน้มยังรุนแรง ดังนั้นไตรมาสที่ 3(กรกฎาคม-กันยายน2566) กกร.จะประเมินใหม่อีกครั้ง

นายเกรียงไกร กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกดังกล่าว ล่าสุดดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมลดลง และพบว่าจากอุตสาหกรรมทั้งหมด 45 กลุ่มอุตสาหกรรม มีถึง 19 อุตสาหกรรม คำสั่งซื้อ 3 เดือนข้างหน้าลดลง แต่ยังมีการผลิตอยู่ อีกความหมายหนึ่งคือมีการผลิตแต่ไม่ได้ส่งออก เป็นการผลิตแล้วเก็บเป็นสต๊อกไว้เพื่อพยุงการจ้างงาน และหวังว่าเมื่อเศรษฐกิจคลี่คลายจะนำสินค้าที่ทำการสต็อกไว้มาส่งออกต่อไป ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะไม่อยากให้พนักงานขาดรายได้ ตอนนี้ภาคอุตสาหกรรมก็ต้องกัดฟันผลิตไปก่อน 19 อุตสาหกรรม

ประกอบด้วย 1.หนังและผลิตภัณฑ์หนัง 2.เหล็ก 3.แก้วและกระจก 4.โรงเลื่อนโรงอบไม้ 5.ไม้อัด ไม้บางและวัสดุแผ่น 6.เครื่องจักรกลและโลหะการ 7.เครื่องจักรกลการเกษตร 8.น้ำตาล 9.ยา 10.สมุนไพร 11.เยื่อและกระดาษ 12.การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ 13.หัตถกรรมสร้างสรรค์ 14.การจัดการสิ่งแวดล้อม 15.เทคโนโลยีชีวภาพ 16.เครื่องสำอาง 17.หล่อโหละ 18.เฟอร์นิเจอร์ และ19.แกรนิตและหินอ่อน

Advertisement

นายเกรียงไกร กล่าวว่า ด้านเครื่องยนต์ท่องเที่ยวปีนี้ไทยตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 ล้านคน คิดเป็น 75% จากเมื่อปี 2562 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 40 ล้านคน หวังว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายหรือตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2566 ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะมีมากขึ้นจนถึงเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม ระวังปัจจัยลบที่อาจแทรกเข้ามาด้วย โดยเฉพาะการเมือง ที่หากยืดเยื้อล่าช้าออกไป 1-2 เดือน หรือเลื่อนออกไปถึงช่วงปลายปี 2566 อาจส่งผลให้สิ่งที่หายไปจากสังคมไทยเป็นเวลานานกลับมาอีกครั้ง คือม็อบ เป็นภาพหลอนที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะจะกระทบกับเครื่องยนต์เศรษฐกิจ หรือภาคท่องเที่ยวโดยตรง จากเดิมที่คาดหวังว่านักท่องเที่ยวในปี 2566 จะถึง 30 ล้านคน อาจไปไม่ถึง

นอกจากนี้ยังอาจซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยซึ่งปัจจุบันกำลังซื้อภาพรวมยังไม่ค่อยฟื้น จากค่าครองชีพที่สูง โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ที่ทำให้ราคาสินค้าทุกประเภทปรับตัวเพิ่มขึ้น บวกกับปัจจุบันไทยมีหนี้ภาคครัวเรือนแตะ 90% ถือว่าตัวเลขสูงมาก มองว่าเรื่องนี้เป็นระเบิดเวลาทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะปะทุขึ้นมาเมื่อไหร่

Advertisement

“การเลือกตั้งในรอบนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เป็นการดิสรัปทางการเมืองไทยครั้งสำคัญ หวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะราบรื่น ไม่เกิดความวุ่นวาย จนกลายเป็นมีม็อบลงถนน เพราะภาพการเดินขบวนหากถูกเผยแพร่ออกไปจะมีผลต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวแน่นอน รวมถึงภาคการส่งออก และการลงทุนจะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้เช่นกัน ย้ำว่านักลงทุนไม่ชอบการเซอร์ไพร์ส ดังนั้น จึงอยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจไทยแย่ไปกว่านี้”นายเกรียงไกรกล่าว

 

 

อ่านข่าวน่าสนใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image