ตลาดคอนโด ถึง ‘จุดเปลี่ยน’ บิ๊กแบรนด์ปรับแผน ดึงนักลงทุนไทย ต่างชาติเหมาซื้อปล่อยเช่า

ตลาดคอนโดถึงจุดเปลี่ยน บิ๊กแบรนด์ปรับแผน ดึงนักลงทุนไทย ต่างชาติเหมาซื้อปล่อยเช่า

เมื่อวันที่ 2 กันยายน นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดคอนโดมิเนียมที่ซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่าขยายตัวมากขึ้น หลังโควิดคลี่คลาย นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา ซึ่งลูกค้าต่างชาติที่มาเที่ยว รวมถึงพนักงานบริษัทข้ามชาติหรือExpat ที่เข้ามาทำธุรกิจในไทยจะนิมเช่าระยะยาว

นายพีระพงศ์ กล่าวว่า ขณะที่ตลาดเช่าสำหรับคนไทยก็เติบโตมากขึ้นเช่นกัน เพราะในช่วง 3 ปีจากโควิด ในส่วนของกลุ่มเฟิร์สจ็อบเบอร์หรือกลุ่มเริ่มต้นทำงานจะซื้อคอนคอนโดมิเนียมน้อย เพราะรายได้ยังไม่ค่อยมั่นคงและเช่าอยู่กันมากกว่า ประกอบกับธุรกิจโรงแรมเป็นกึ่งเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ หลังโรงแรมกลับมาฟื้นตัว ไม่ทำตลาดเช่าระยะยาว คนจึงหันมาเช่าคอนโดมิเนียมและทำให้ปริมาณการเช่าเพิ่มขึ้น จึงทำให้กลุ่มนักลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนมากขึ้น

ปัจจุบันบริษัทมีโปรแกรมการลงทุนคอนโมมิเนียมรูปแบบใหม่ ในโครงการแฮมป์ตัน โดยบริษัทจัดหาผู้เช่าให้ และมีผลตอบแทนให้ 5-9% ต่อปี ยาวนานสูงสุด 20 ปีหรือ 10 ปี ต่อได้อีก 10 ปี โดยในกรุงเทพการันตีผลตอบแทนให้ 5% นาน 3 ปี ศรีราชาและระยองให้ 6% นาน 3 ปี เพราะราคาคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดจะถูกกว่ากรุงเทพ จึงได้ผลตอบแทนสูงและกลุ่มลูกค้าเป็นคนญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ค่าเช่า เช่น กลุ่มต่างชาติเป็น Expat ถ้าในกรุงเทพฯ ได้ค่าเช่า 500-1,000 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน เช่น ห้อง 50 ตารางเมตร จะได้ค่าเช่า 40,000 บาทต่อเดือน ส่วนใหญ่เช่าระยะยาวอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป

Advertisement

“บริษัทเริ่มทำตลาดนี้ตั้งแต่ก่อนโควิด ถึงปัจจุบันบริษัทมีทั้งหมด 15 โครงการ อยู่ทำเลกลางเมือง เช่น สุขุมวิท ทองหล่อ พร้อมพงษ์ พญาไท บางนา ยาวไปถึงศรีราชา ระยอง ซึ่งเป็นแหล่งงาน อุตสาหกรรม ธุรกิจต่างประเทศ เราตั้งเป้าจะทำเพิ่มอีกปีละ 5-6 โครงการ จากที่เรามีแผนเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ปีละ 20 โครงการ” นายพีระพงศ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด เครือบมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ภายในไตรมาส4 นี้ จะเปิดตัวโครงการออริจิ้น อพาร์ทเม้นท์ อินเวสเมนท์ เป็นคอนโดมิเนียมสำหรับการลงทุนโดยเฉพาะ เจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นนักลงทุนไทยและต่างชาติ ที่ต้องการซื้อแบบเหมายกฟลอร์ตั้งแต่ 15-20 ยูนิตหรือเหมาทั้งตึก เพื่อนำไปปล่อยเช่า โดยบริษัทจะดูแลและหาผู้เช่าให้ทั้งเป็นลูกค้าคนไทยและต่างชาติ โดยได้ผลตอบแทนจากอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 5-7%ต่อปี

Advertisement

“เราจะพัฒนาเป็นคอนโดฯสูงไม่เกิน 8 ชั้น ประมาณ 100-200 ห้องต่ออาคาร ระดับราคา 1-2 ล้านบาท เน้นทำเลมีการเช่าสูง เช่น แหล่งงาน ชุมชน ใกล้มหาวิทยาลัย นิคมอุตสาหกรรม มีแรงงานและวัยเริ่มทำงานอยู่อาศัยมาก ซึ่งเป็นการปรับตัวรับกับเทรนด์ผู้บริโภคและตลาดที่เปลี่ยนไปที่ต้องการเช่ามากกว่าซื้อ”นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่าเมื่อเร็วๆนี้บริษัทได้นำคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่ยังเหลืออยู่จำนวนมากในบางโครงการทำเลกลางเมือง เริ่มทดลงโครงการย่านพระราม9 นำมาปล่อยเช่าราคา 30,000-50,000 บาทต่อเดือน ก่อนขายให้กับนักลงทุนที่สนใจ พร้อมผู้เช่าโดยได้ผลตอบแทนอย่างน้อย 5-6% เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าและปรับแผนการขาย หลังลูกค้าเป็นคนรุ่นใหม่วัยเริ่มทำงานกู้ซื้อบ้านไม่ผ่านสูงและหันมาเช่าแทน

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริได้เพิ่มพอร์ตแคมปัสคอนโดมากขึ้น รับตลาดเช่าบูม ในปลายปีนี้จะเปิดขายดีคอนโดที่ธรรมศาสตร์รังสิต ขนาด 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 400- 500 ยูนิต ราคา 1-2 ล้านบาท มูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งรองรับทั้งกลุ่มซื้ออยู่เองและซื้อลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งได้ผลตอบแทน 5-6% โดยสามารถปล่อยเช่าได้ ราคา 8,000-10,000 บาทต่อเดือน

นอกจากนี้ยังเปิดโครงการใหม่ในเมืองท่องเที่ยวที่ต่างชาตินิยมอยู่อาศัย เช่น ปลายปีนี้จะเปิดเดอะเบส บูกิต สูง 8 ชั้น 2 อาคาร เริ่มต้น 1.89 ล้านบาท มูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งภูเก็ตตลาดเช่าได้ผลตอบแทนสูงถึง 6-7% โดยเฉพาะต่างชาติที่เช่าระยะยาว อัตราค่าเช่า 10,000 บาทต่อเดือน อีกทั้งยังเปิดขายคอนโดมิเนียมใกล้นิคมอุตสาหกรรม เช่น ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ หรือคอนโดมีใกล้นิคมอมตะนคร รองรับแรงงานที่ต้องการซื้ออยู่และลงทุนปล่อยเช่า

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าว่า ขณะนี้บริษัทได้เปิดโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนมากขึ้น ต่อยอดจากโครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต คลอง1 นำ 8 อาคาร 1,600 ยูนิตมาให้นักลงทุนสนใจซื้อปล่อยเช่าในภาวะตลาดคอนโดฯซบเซา ปัจจุบันมียอดขายกว่า 900 ยูนิตแล้ว ราคา 700,000 บาท ได้ผลตอบแทน 7% ต่อปี นาน 7 ปี

ล่าสุด เปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ “เอิร์น”สำหรับโครงการเพื่อการลงทุน เริ่มเปิดขายแล้วที่ จ.ชลบุรี ใกล้นิคมอมตะนคร พื้นที่กว่า 20 ไร่ เป็นอาคาร 8 ชั้น 6 อาคาร, สูง 6 ชั้น 1 อาคาร รวม 1,810 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 24 – 36 ตารางเมตร พื้นที่ร้านค้า 14 ยูนิต  มีที่จอดรถยนต์ 570 คันและรถจักรยานยนต์มากถึง 520 คัน ราคาเริ่มต้น 1.10 – 1.69 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,124 ล้านบาท

โดยได้อัตราผลตอบแทน 5-6% มีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 3,500-9,000 บาทต่อเดือน และปลายปีนี้จะเปิดเพิ่มอีกทำเลกรุงเทพแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว และในปี 2567 เปิดที่จ.อยุธยา เป็นปรับแผนหลังตลาดคอนโดมิเนียมไม่ค่อยดีและพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เน้นเช่ามากกว่าซื้อและยังมีแผนจะนำคอนโดพร้อมอยู่ในย่านแหล่งงานมาเข้าโปรแกรมปล่อยเช่าด้วย เช่น ย่านพระราม3

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image