นฤมล พบปะ ผู้บริหาร CNTY บริษัทใหญ่สุดในจีน ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม เล็งลงทุนไทย

‘นฤมล’ ผู้แทนการค้าไทย เผย บ. China Tianying Inc. (CNTY) บ.ในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม เล็งไทย ลงทุนขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มเติม

ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทยได้ หารือกับ นาย Quinn Ge ผู้จัดการภาคฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท China Tianying (CNTY) ณ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน

ผู้แทนการค้าเปิดเผยว่า บริษัท China Tianying Inc. (CNTY) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการขยะและของเสีย การแปรรูปขยะเป็นพลังงานไฟฟ้า และพลังงานใหม่ มีศูนย์วิจัย 5 แห่งที่เมืองหนานทง นครเซี่ยงไฮ้ กรุงออตตาวา กรุงบรัสเซลส์ และเมืองอัมสเตอร์ดัม โดยใช้งบประมาณร้อยละ 3 ของรายได้เพื่อการวิจัย และมีสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่ได้รับการจดสิทธิบัตร 574 รายการ ซึ่งนับว่าสูงที่สุดสำหรับบริษัทจีนในด้านนี้ ตลอดจนได้รับคัดเลือกให้อยู่ใน Fortune China 500 ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา

Advertisement

ผู้แทนการค้ากล่าวว่า บริษัทมีธุรกิจหลักอยู่ 2 ด้าน ได้แก่ 1.การผลิตไฟฟ้าจากขยะ มีประสบการณ์ในด้านนี้กว่า 25 ปี เป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจร มีการออกแบบโครงการที่หลากหลายเหมาะสมกับลูกค้า เป็นไปตามมาตรฐานสากล และใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่บริษัทพัฒนาขึ้นเองเป็นส่วนใหญ่ โดยได้ลงทุนในโรงไฟฟ้าจากขยะ 30 แห่งในจีน รวมถึงลงทุนใน 12 ประเทศ เช่น สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ โดยโรงไฟฟ้าจากขยะของบริษัทที่เมืองเซินเจิ้นและกรุงฮานอยมีขนาดใหญ่ที่สุดสองอันดับแรกในเอเชีย โดยสามารถแปรรูปขยะได้วันละ 5 และ 4 พันตัน/วัน ตามลาดับ นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการแบบ Engineering Procurement Construction (EPC) แก่มัลดีฟส์ อินเดีย ฝรั่งเศส และให้บริการด้านห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในเบลเยียม สเปน เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น และ 2.พลังงานใหม่ บริษัทมุ่งขยายธุรกิจในด้านนี้ รวมถึงพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ การผลิตไฮโดรเจนและแอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“บริษัทต้องการขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย โดยสนใจลงทุนในด้านการกาจัดของเสีย การผลิตไฟฟ้าจากขยะ และพลังงานใหม่ รวมถึงประสงค์จะขอรับข้อมูลและคำแนะนำจากภาครัฐ และพันธมิตรทางธุรกิจในไทย เพื่อร่วมพัฒนาโครงการในสาขาดังกล่าว ตลอดจนสนใจลงทุนกับภาครัฐในรูปแบบ PPP” ผู้แทนการค้ากล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image