เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (126) 成语故事 (一百二十六)

ที่มาภาพ https : //chrikarublog.wordpress.com

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 半途而废/半途而廢Bàn tú ér fèi (ป้าน ถู เอ๋อร์ เฟ่ย์) โดย คำว่า 半bàn ป้าน แปลว่า ครึ่งหนึ่ง 途 tú ถู แปลว่าทาง หนทาง 而ér เอ๋อร์ คำสันธานเชื่อมคำศัพท์ที่มีความหมายตรงกันข้าม แสดงว่ากลับตาลปัตร 废/廢fèi เฟ่ย์ แปลว่า ละทิ้ง ทำต่อไปไม่ได้ เลิก รวมแล้วแปลว่า ไปได้ครึ่งทางก็ยกเลิกเสีย ทำได้ครึ่งๆ กลางๆ ก็ยกเลิก หรือยกเลิกกลางคัน ซึ่งสุภาษิตคำนี้หมายถึง ทำการสิ่งใด หากไม่พยายามทำให้ถึงที่สุดแล้วกลับมายกเลิกเสียกลางคัน เช่นนี้แล้วย่อมจะหาผลลัพธ์ หรือหาผลสำเร็จไม่ได้นั่นเอง

ในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก หรือตงฮั่นของจีน 东汉/東漢 Dōnɡ Hàn ตงฮั่น มีบัณฑิตหนุ่มนามว่า 乐样子/樂樣子 Lè Yànɡ Zi เล่อ ย่าง จื่อ

เขามีชื่อเสียงโด่งดังมาก ทั้งนี้เพราะเขาเป็นคน

ที่มีการศึกษาและมีความรอบรู้ จึงมีเรื่องเล่า

Advertisement

เกี่ยวกับเขาว่า เขาเจริญก้าวหน้าเพราะมีศรี

ภรรยาคอยช่วยเหลือ ครั้งหนึ่งเล่อ ย่าง จื่อ เก็บ

ทองคำได้แท่งหนึ่ง เขาดีใจรีบนำทองคำแท่งกลับ

Advertisement

บ้านไปให้ภรรยา พลางคิดว่าภรรยาของเขาต้องดีใจแน่ๆ แต่ผิดคาด เพราะภรรยาของเขาได้ตำหนิเขาอย่างหนัก พร้อมบอกว่า คนดี คนมีศักดิ์ศรีไม่กินของฟรีใคร แม้หิวตายก็ไม่ยอมเป็นขอทาน แล้วท่านซึ่งกำลังจะเป็นบัณฑิต หวังจะมีอนาคตที่สดใส ไฉนเลยจึงไปเก็บเอาของที่ผู้อื่นทำตกมาเล่า เช่นนี้แล้ว ต่อไปภายภาคหน้า หากทำการใหญ่ ก็จะมีมลทินปนเปื้อนอยู่ แม้จะไม่มีใครรู้ แต่ใจเรานั้นรู้อยู่เสมอ เช่นนี้แล้วท่านจะมีความสุขได้เช่นไรกัน เล่อ ย่าง จื่อ ฟังแล้วก็รู้สึกอับอาย จึงนำทองคำแท่งนั้นไปทิ้ง ณ ที่ตนเองเก็บได้ ต่อมา เล่อ ย่าง จื่อ ได้เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนกับสำนักที่มีชื่อเสียงแห่งยุค หลังไปได้ปีกว่า เขาก็กลับมาเยี่ยมภรรยาของเขา เมื่อภรรยาเห็นเขากลับมา ก็ถามว่า ท่านกลับมาด้วยเหตุใดหรือ เล่อ ย่าง จื่อ
ก็ตอบไปว่า ข้าไปศึกษาเล่าเรียนตั้งปีกว่า คิดถึงเจ้าจึงกลับมาเยี่ยมนี่ไง ภรรยาได้ฟัง ก็ลุกเดินไปหยิบกรรไกรมา แล้วตัดผ้าไหมที่ยังทอไม่เสร็จขาดออกเป็นท่อนๆ เล่อ ย่าง จื่อ เห็นเช่นนั้นก็ตกใจ ถามว่าเจ้าทำเช่นนั้นทำไม ภรรยาตอบว่า ผ้าไหมผืนนี้ มาจากเส้นใยไหมที่สาวใยมาจากดักแด้หนอนไหม กว่าจะทอเป็นผืนได้ก็แสนจะยากเย็นท่านก็รู้ และบัดนี้ผ้าไหมผืนนี้ก็เสียหายใช้การไม่ได้แล้ว แสดงว่า ขบวนการตั้งแต่เลี้ยงไหม สาวไหม ปั่นไหม ย้อมไหม และทอไหมเหล่านี้ บัดนี้ทุกอย่างก็ล้มเหลวหมด เพราะมันถูกข้าตัดขาดเสียก่อนที่จะทอเป็นผืนได้สำเร็จ งานที่ข้าทำมาทั้งหมดก็จบลงกลางคันโดยหาประโยชน์อันใดไม่ได้จากที่ได้ทุ่มเทไป ก็เหมือนกับท่านที่อุตสาหะร่ำเรียนมาตั้งนาน หากอดทนอีกสักนิดความสำเร็จก็จะเห็นอยู่แค่เอื้อม แต่นี่เพียงเพื่อคิดถึงข้า แล้วกลับมาหาข้า เช่นนี้แล้ว ไม่เท่ากับเสียเวลาไปเปล่าๆ หรือ แล้วมันต่างอะไรกับเศษผ้าไหมผืนนี้เล่า ได้ฟังเช่นนี้แล้ว เล่อ ย่าง จื่อ น้ำยังไม่ทันได้ดื่ม ก็รีบเดินทางกลับไปศึกษาต่อ จนสำเร็จการศึกษาในอีก 7 ปีต่อมา โดยไม่มีการลากลับบ้านอีกเลย

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

成语比喻:事情没有做完就停止,不能坚持到底。

成語比喻:事情沒有做完就停止,不能堅持到底。

Chénɡyǔ bǐyù:Shìqínɡ méiyǒu zuò wán jiù tínɡzhǐ,bùnénɡ jiānchí dàodǐ.

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: ฉื้อฉิง เหมย์โหย่ว จั้ว หวาน จิ้ว ถิงจื่อ, ปู้เหนิง เจียนฉือ เต้าตี่

สุภาษิตเปรียบว่า ทำสิ่งใดก็ตามทั้งที่ยังทำไม่เสร็จก็หยุดเสีย ไม่สามารถที่จะยืนหยัดให้ถึงที่สุด

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

做任何事情都不能半途而废,不然就不能成功。

做任何事情都不能半途而廢,不然就不能成功。

Zuò rènhé shìqínɡ dōu bùnénɡ bàn tú’ér fèi, bùrán jiù bùnénɡ chénɡɡōnɡ.

จั้ว เริ่นเหอ ฉื้อฉิง โตว ปู้เหนิง ป้าน ถู เอ๋อร์ เฟ่ย์, ปู้หราน จิ้ว ปู้เหนิง เฉิงกง

ทำการสิ่งใดก็ตาม ไม่อาจที่จะทำแบบครึ่งๆ กลางๆ ได้ มิเช่นนั้นก็ประสบความสำเร็จไม่ได้

ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image