เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (133) 成语故事 (一百三十三)

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 负荆请罪/負荊請罪 Fù jīnɡ qǐnɡ zuì (ฟู่ จิง ฉิ่ง จุ้ย) โดย คำว่า 负/負 fù (ฟู่) แปลว่าแบกติดตัว พกติดตัว มัดติดตัว 荆/荊jīnɡ จิง แปลว่าไม้ที่มีหนาม请/請 qǐnɡ (ฉิ่ง) แปลว่า ขอให้ 罪 zuì (จุ้ย) แปลว่า โทษ ลงโทษ รับโทษ รวมความแปลว่า แบกไม้หนามไปขอให้ลงโทษ หรือพกไม้เรียวไปให้ลงโทษ ยอมรับผิดด้วยตนเอง หมายถึงคนที่ทำผิดแล้วเกิดความสำนึกได้ จึงไปขอสารภาพผิดเอง และขอให้ฝ่ายตรงข้ามลงโทษตนเอง

จีนในช่วงปลายยุครัฐศึก 战国/戰國 Zhàn Guó (จ้านกั๋ว) รัฐฉินกำลังเติบใหญ่และเข้มแข็งมาก ทำให้เหล่าผู้ครองรัฐอื่นๆ กังวลและหวาดกลัว จึงหันมาร่วมมือกันต่อต้านรัฐฉิน แต่สุดท้าย รัฐเหล่านั้นก็ยังตกเป็นเมืองของรัฐฉินจนหมด จนรัฐฉินสามารถตั้งราชวงศ์ฉินได้สำเร็จ มีเรื่องเล่าในช่วงก่อนตั้งราชวงศ์ฉินว่า ที่รัฐเล็กๆ ชื่อว่ารัฐจ้าว มีขุนนางผู้เก่งกล้าสองคน คนหนึ่งนามว่าลิ่นเซียงหรู 蔺相如/藺相如 Lìn Xiānɡrú เป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นตำแหน่งมหาเสนาบดีที่ให้คำแนะนำและช่วยบริหารงานแก่เจ้าผู้ครองรัฐ และมีอีกคนหนึ่งนามว่าเหลียนผั่ว

廉颇/廉頗 Lián Pǒ เป็นขุนนางฝ่ายบู๊ตำแหน่งแม่ทัพใหญ่แห่งรัฐจ้าว ทั้งสองเป็นคนสำคัญของรัฐเจ้า เพราะลิ่นเซียงหรูเป็นคนที่มีความรู้สูง เฉลียวฉลาด และมีวิสัยทัศน์ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ต่อเจ้าเมือง ส่วนเหลียน
ผั่วนั้น มีฝีมือในการนำทัพรบข้าศึก ทำให้เขามีชื่อเสียงมาก แต่ว่าตำแหน่งแม่ทัพก็ยังคงด้อยกว่าตำแหน่งมหาเสนาบดี สิ่งนี้เป็นความขมขื่นของแม่ทัพเหลียนผั่ว เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็มักระบายความไม่พอใจนี้ อาทิ เขาช่วยปกป้องรัฐจ้าวไว้อย่างไรบ้าง เขาทำคุณประโยชน์ให้กับรัฐจ้าวมากมายเพียงใดบ้าง ส่วนลิ่นเซียงหรูอาศัยเพียงแค่ลมปาก ก็ได้เป็นถึงมหาเสนาบดี เขาจึงประกาศว่า ถ้าเจอมหาเสนาบดีลิ่นเซียงหรูนอกวังเมื่อใด เขาจะหาเรื่องให้ได้ เมื่อมหาเสนาบดีรู้เข้า จึงเลี่ยงหลบหน้า ไม่ยอมปะทะด้วย แม้แต่ขบวนของเขาเมื่อเดินทางมาเจอกับขบวนของแม่ทัพเหลียนผั่ว เขาก็จะสั่งให้หลบข้างทาง รอให้ขบวนของแม่ทัพพ้นไปเสียก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้หลายครั้ง มีผู้คนสงสัยและถามว่า ท่านเป็นถึงมหาเสนาบดีของรัฐ ทำไมต้องหลบให้กับแม่ทัพทุกครั้ง หรือว่าท่านมหาเสนาบดีขี้ขลาด คำตอบที่เหล่าคนถามได้รับก็คือ เขาหลบทางให้นั้นมิใช่เพราะเกรงกลัวแม่ทัพ แต่เพราะรัฐจ้าวนั้นเล็ก พร้อมที่จะถูกรัฐฉินกลืนกินได้ทุกเมื่อ ดังนั้นแล้ว เราจะมาเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรี ทะเลาะเบาะแว้งกันเองได้อย่างไร และหากทะเลาะกันกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้แล้ว ประเทศชาติ
จะอยู่รอดปลอดภัยได้อย่างไร คำพูดเช่นนี้ของเขารู้ไปถึงหูของแม่ทัพเหลียนผั่ว เขารู้สึกอับอาย และละอายแก่ใจตัวเองยิ่งนัก จึงเอาไม้หนามมาผูกติดตัว แล้วไปขอโทษกับมหาเสนาบดี ขอให้มหาเสนาบดีลงโทษเข้าด้วยไม้หนามเหล่านี้

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

Advertisement

成语比喻:主动向人认错,给予自己严厉责罚。

成語比喻:主動向人認錯,給予自己嚴厲責罰。

Chénɡyǔ bǐyù:Zhǔdònɡ xiànɡ rén rèncuò, jǐyǔ zìjǐ yánlì zéfá.

Advertisement

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: จู่โต้ง เซี่ยง เหริน เริ่นชั่ว, จี๋หยวี่ จื้อจี่ เหยียนลี่ เจ๋อฝา

สุภาษิตเปรียบว่า ยินยอมสารภาพผิดด้วยตนเอง และขอให้มีการลงโทษสถานหนักแก่ตัวเอง

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

这次考试有人作弊了,最好是负荆请罪吧,我相信老师会原谅你的。

這次考試有人作弊了,最好是負荊請罪吧,我相信老師會原諒妳的。

Zhècì kǎoshì yǒu rén zuòbì le, zuì hǎo shì fù jīnɡ qǐnɡ zuì bɑ, wǒ xiānɡxìn lǎoshī huì yuánliànɡ nǐ de.

เจ้อชื่อ เข่าฉื้อ โหย่ว เหริน จั้วปี้ เลอะ, จุ้ย ห่าว ฉื้อ ฟู่ จิง ฉิ่ง จุ้ย ปะ,หวั่ว เซียงซิ่น เหล่าฌือ หุ้ย เยฺหวียนเลี่ยง หนี่ เตอะ

การทดสอบครั้งนี้ มีคนทุจริตสอบ ทางที่ดีขอให้ยอมรับผิดมาเสียดีๆ ฉันเชื่อว่าอาจารย์ให้อภัยคุณ

ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image