เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยกรณีมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ปฏิบัติหน้าที่เเทนนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอเพิ่มค่าปรับนักศึกษาแพทย์หนีทุนจาก 4 แสนบาท เป็น 2.5 ล้านบาท และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ขอให้ สธ.ส่งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาของ ครม.ตั้งเเต่วันที่ 25 ตุลาคม 2561 ซึ่งเวลาได้ล่วงเลยมานานเเล้ว แต่ สธ.ยังไม่ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติม จึงให้ส่งเรื่องนี้คืน สธ.เเละหาก สธ.ยังต้องการนำเรื่องนี้เสนอ ครม.พิจารณา ขอให้ สธ.ดำเนินการตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยการเสนอเรื่องเเละการประชุม ครม.พ.ศ.2548 เเละระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์เเละวิธีการเสนอเรื่องต่อ ครม.พ.ศ.2548 โดยขณะนี้ สลค.ได้ส่งเรื่องคืน สธ.เเล้ว ว่า ขณะนี้เรื่องต่างๆ อยู่ที่ สธ.ส่วนตัวก็รออยู่ เพราะ สลค.ทวงข้อมูลมายังตนเช่นกัน หากได้ข้อมูลครบ จะเสนอให้ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบ จากนั้น สธ.จะต้องไปออกระเบียบให้สอดคล้อง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะ สธ.ยังไม่ส่งข้อมูลให้ ดังนั้น ค่าปรับนักศึกษาแพทย์หนีทุนในปีการศึกษา 2562 ยังคงต้องใช้ระเบียบเดิม คือปรับ 4 แสนบาทไปก่อน เนื่องจากเริ่มรับนักศึกษาแพทย์เข้าเรียนแล้ว และต้องรอจนกว่า ครม.จะอนุมัติค่าปรับใหม่ เข้าใจว่าน่าจะเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2563
นพ.อุดมกล่าวต่อว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ว่า สธ.ไม่ทำอะไร แต่อยู่ในระหว่างดำเนินการ โดยวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการ สธ.นัดประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเรื่องดังกล่าวแล้ว ส่วนสาเหตุที่ สธ.ส่งข้อมูลช้า ส่วนตัวเข้าใจว่า สธ.ต้องหาความชัดเจนในหลายเรื่อง ทั้งการกำหนดตำแหน่งข้าราชการ ซึ่งยังตกลงกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไม่ได้ ขณะที่ ครม.สอบถามเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวค่อนข้างละเอียด ทั้งความต้องการแพทย์ จำนวนแพทย์หนีทุน หนีแล้วไปทำอาชีพอะไร และออกไปทำงานภาคเอกชนจำนวนเท่าใด โดยต้องประมาณการความต้องการแพทย์ที่ใกล้เคียงความจริงในอีก 10 ปีข้างหน้า เพราะเรื่องนี้ผูกโยงกับโครงการการผลิตแพทย์เพิ่ม ซึ่งใช้งบประมาณหลายพันล้านบาท ดังนั้น เมื่อยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โครงการดังกล่าวจึงถูกตีกลับ โดยเรื่องนี้ถือว่ามีผลกระทบเป็นทอดๆ
“ผมคิดว่าเรื่องนี้คงไม่แท้ง แต่อาจจะออกมาช้า ไม่ทันปีการศึกษานี้ แต่ถ้าออกไม่ได้ภายในรัฐบาลนี้จริงๆ ส่วนตัวก็ไม่ซีเรียส ก็ปรับ 4 แสนบาทเท่าเดิม ถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลย การที่เรามาคิดเรื่องนี้ เพราะต้องการให้แพทย์ทำงานใช้ทุนจนครบกำหนดเวลา แต่ที่ผ่านมามีแพทย์ลาออกปีละกว่าร้อยคน ทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศ จึงต้องมาดู และพบว่าค่าปรับ 4 แสนบาทต่ำเกินไป โดยตัวเลขค่าปรับแพทย์หนีทุนที่เคยคำนวณไว้ตามจริงอยู่ที่ 4.7 ล้านบาท แต่ผมเสนอเป็น 5 ล้านบาท ซึ่งมีคนท้วงว่ามากเกินไป ทาง สธ.จึงพิจารณาใหม่ และขอให้เพิ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจาก 2.5 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่ใช่ตัวเลขสุดท้าย เพราะ สธ.เองยังไม่ได้ดำเนินการเป็นทางการ ขณะที่ตัวเลขของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท) ที่เสนอมาอยู่ 2 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่ตรงกัน เรื่องเหล่านี้ สธ.ต้องไปพิจารณา เพราะผมไม่ได้มีส่วนในการตัดสิน เพียงแต่เป็นคนนำเรื่องเข้า ครม.ในฐานะเป็นผู้กำกับดูแลสถาบันฝ่ายผลิต” นพ.อุดม กล่าว
