‘บิ๊กจิน’ เร่งพัฒนา ‘มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยฯ’ สร้างความเท่าเทียมให้สถานศึกษา ชี้ทุกหน่วยงานต้องร่วมทำ 

‘บิ๊กจิน’ เร่งพัฒนา ‘มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยฯ’ สร้างความเท่าเทียมให้สถานศึกษา ชี้ทุกหน่วยงานต้องร่วมทำ

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมรอยัลซิตี้ กรุงเทพมหานคร สภาการศึกษา(สกศ.) จัด “ประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ” โดยมีครูและคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ (ก.พ.ป.) เข้าร่วมกว่า 250 คน โดยมีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุม นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการ สกศ. และนางวัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขา สกศ. เข้าร่วม

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ โดยให้ใช้เป็นมาตรฐานกลางของประเทศแทนมาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติ เดิมที่ ครม. มีมติให้ความเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 และให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องพิจารณานำมาตรฐานฉบับใหม่ไปใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริม สนับสนุนให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่อยู่ภายใต้การกำกับ ดูแลและรับผิดชอบ มีการบริหารจัดการ ประเมินผลการดำเนินงานเพื่อยกระดับการพัฒนาให้มีคุณภาพนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า การดูแลเด็กปฐมวัยรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน และการพัฒนาเด็กปฐมวัยเป็นการดำเนินงานที่มีความเชื่อมโยงกับหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย 4 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ศธ.และ กรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมาแต่ละสังกัดต่างมีมาตรฐานและเกณฑ์การประเมินแตกต่างกันไปตามภารกิจของหน่วยงาน อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ได้เน้นย้ำว่าต้องให้ความสำคัญกับเด็กปฐมวัย จึงจัดตั้ง ก.พ.ป. ขึ้นมา และให้ สกศ.ทำหน้าที่เป็นเลขานุการ มีหน้าที่ประสานงานและบูรณาการการพัฒนาเด็กปฐมวัยระหว่างหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และเอกชน ก.พ.ป.มีหน้าที่จัดทำมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ เพื่อเชื่อมต่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ยุทธศาสตร์ชาติ20 ปี นโยบายและแผนพัฒนาต่างๆ ในการพัฒนาเด็กปฐมวัยของประเทศ รวมถึงเป็นกรอบมาตรฐานคุณภาพปฐมวัยอาเซียน เพื่อเสนอเป็นแนวทางในการนำไปปฏิบัติใช้ ซึ่งขณะนี้มีประเทศสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สหพันธรัฐมาเลเซีย และประเทศไทย จะนำไปใช้ โดยประเทศที่เหลือจะขอนำเรื่องนี้ไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

พบ.อ.อ.ประจิน กล่าวต่อว่า มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ถือเป็นมาตรฐานขั้นต้นที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาเด็กของประเทศ และเป็นมาตรฐานเชิงคุณภาพ เป็นเครื่องมือในการประเมินคุณภาพ ของการดำเนินงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัด ที่ดูแลเด็กในเวลากลางวัน ช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปีบริบูรณ์ ให้มีมาตรฐานเดียวกัน ดูแลทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และอารมณ์ มาตรฐานนี้จะทำให้ทุกสถานศึกษามีความเสมอภาค เท่าเทียมกัน

“วันนี้จะเป็นการประชุมเพื่อเเลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับ มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยฯ ซึ่งอาจจะใช้วลา 1-2 ปี กว่ามาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยฯ จะแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามหากมาตราฐานเสร็จแล้ว แต่สถานศึกษาบางแห่งไม่ทำตามจะมีกลไกให้สถานศึกษาดำเนินการตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยฯ หรือมีบทลงโทษอย่างไรนั้น เราจะเน้นความร่วมมือมากกว่าจะไปลงโทษ ต้องไปดูกลไกว่ามาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยฯ จะมีกลไกอะไรบ้างที่ทำให้สถานศึกษาบรรลุสิ่งที่ต้องการ มีทรัพยากร มีแผนงานที่สอดคล้องกับแผนแม่บทต่างๆ หากสถานศึกษาบางแห่งมีความจำเป็นต้องปรับปรุง ก็จัดอันดับความเร่งด่วนเพื่อเสนอของบประมาณสนับสนุน และที่สำคัญทุกส่วนราชการต้องช่วยกันสนับสนุนด้วย” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image