เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเปิดเผยภาพจากกลุ่มกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ กรมศิลปากรซึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อมภายในกรุวัดราชบูรณะ ร่วมกับสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โดยมีการทดสอบทางวิทยาศาสตร์หลายกระบวนการเพื่อวิเคราะห์และประเมินผลกระทบที่ส่งผลกับภาพจิตรกรรมฝาผนังในกรุ เบื้องต้น ภายในกรุมีความชื้นสูง แต่สภาพจิตรกรรมส่วนใหญ่ยังคงสภาพค่อนข้างดี โดยจะยังคงมีการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องและงดให้ประชาชนเข้าชมภายในกรุต่อไป
ทั้งนี้ จิตรกรรมฝาผนังในกรุดังกล่าวเก่าแก่ถึงยุคต้นกรุงศรีอยุธยา ปรากฏภาพพุทธประวัติ ตอนพระนางสิริมหามายาบรรทมในพระมหาปราสาท ทรงพระสุบินว่า พญาช้างเผือกชูงวงอันจับบุณฑริกปทุมชาติสีขาวพึ่งบานใหม่ มีเสาวคนธ์หอมฟุ้งตลบแล้วกระทำประทักษิณพระองค์อันบรรทมครบถ้วน 3 รอบ แล้วเหมือนดุจเข้าไปในอุทรประเทศฝ่ายพระทักษิณปรัศว์แห่งพระราชเทวี
พระราชพงศาวดารฯ ฉบับหลวงประเสริฐฯ ระบุวัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1967 ในรัชกาลสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา ปรางค์ประธานของวัดมีกรุบรรจุสมบัติซึ่งเคยถูกโจรกรรมครั้งใหญ่ เป็นข่าวดังเมื่อ พ.ศ.2500 โดยส่งผลต่อจิตรกรรมบางส่วนเนื่องจากคนร้ายใช้เท้ายันประคองตัวลงกรุ ซึ่งมีผู้สันนิษฐานว่าร่องรอยครูดเสียหายเกิดขึ้นเพราะเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนนอกนั้นเสียหายจากความชื้น
ย้อนอดีตกรุ (ง) แตก : เปิดกรุวัดราชบูรณะ ตอนที่ 4 ‘เครื่องประดับเศียรทองคำ’ (ต่อ)