ความภูมิใจของ.. น.ศ.(กัมพูชา)ทุนพระราชทาน สู่..บัณฑิตลูกพ่อขุน

บัณฑิตชาวกัมพูชา ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานทุนการศึกษาในโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา จนสำเร็จการศึกษาเป็น “บัณฑิตรุ่นแรก” จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ม.ร.)

โดยบัณฑิตชาวกัมพูชาที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2561 มี 5 ราย ที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 45 จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมกับบัณฑิตของ ม.ร.เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

นายเอิวเลียง กึม บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย จบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง 1 ในผู้ได้รับทุนการศึกษาในโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ปัจจุบันเป็นพนักงาน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) ประเทศไทย เล่าว่า ตนมาจากกรุงพนมเปญ ตอนที่ได้รับคัดเลือกเป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งในผลลัพธ์ที่ได้รับจากความพยายาม ความอดทน และการสนับสนุนจากคนรอบตัว เลือกเรียนคณะมนุษยศาสตร์ สาขาเอกภาษาไทย เพราะผมรักในด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาไทย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับภาษาเขมรมาตั้งแต่โบราณ

“เมื่อเข้ามาเรียนที่ ม.ร.ทำให้ผมได้รับความรู้ และพัฒนาความสามารถ เป็นสิ่งมีค่าที่สุดที่ทำให้ผมประสบความสําเร็จ ทั้งการศึกษา และการใช้ชีวิต เพราะความสำเร็จครั้งนี้จะนำพาผมก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว และพร้อมที่ก้าวไปเรื่อยๆ ในอนาคต ซึ่งผมจะนำความรู้ที่มีไปเป็นครูสอนภาษาไทยให้กับคนกัมพูชา” เอิวเลียง กล่าว

Advertisement

บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย น.ส.เสรยเลียะ ตุ๊ซ ปัจจุบันทำงานอิสระรับจ้างแปลเอกสาร และเป็นล่ามกองถ่ายทำละคร และโฆษณาที่กัมพูชา บอกว่า เรียนสาขาวิชาภาษาไทย เพราะชอบภาษาไทย อยากรู้ อยากอ่านออก เขียนได้ และเข้าใจความหมายของภาษาไทย การได้รับทุนการศึกษาครั้งนี้ ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าที่พัก ค่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการศึกษา และยังช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวด้วย

“เมื่อเข้ามาเป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ ด้รับความรู้ด้านภาษา และวัฒนธรรมไทย ใช้ภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว ได้พัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่มีความกล้าขึ้น รู้จักเพื่อนใหม่ มีอาจารย์ผู้ดูแลที่เอาใจใส่อย่างดี รู้สึกดีใจ และอบอุ่นใจที่ได้มาเรียนที่ ม.ร.หลังจากที่เรียนจบแล้วจะนำภาษาไทยที่ได้เรียนมาไปใช้ในการทำงาน ซึ่งภาษาเป็นหัวใจหลักในการทำงานของดิฉัน ดิฉันจะนำความรู้เหล่านี้ไปสร้างประโยชน์ให้สมกับที่เป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ” น.ส.เสรยเลียะ เล่าด้วยความภูมิใจ

Advertisement

 

นายสุเขง วงศ์ บัณฑิตคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการท่องเที่ยว ปัจจุบันเป็นมัคคุเทศก์อิสระ และทำธุรกิจส่วนตัวที่ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ได้รับคัดเลือกให้รับทุนพระราชทานฯ ทำให้มีโอกาสได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ซึ่งเป็นความฝันตั้งแต่เด็ก และเลือกเรียนสาขาการท่องเที่ยว คณะบริหารธุรกิจ เพราะจะได้มีโอกาสพบเจอผู้คนที่มาจากหลายแห่ง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ วัฒนธรรม และมุมมองที่แตกต่างด้วย

“ทุนพระราชทานฯ ที่ได้รับครั้งนี้ ช่วยเหลือในเรื่องค่าเล่าเรียน หนังสือ และที่พักอาศัย และได้เรียนที่ ม.ร.ผมจึงได้เรียนรู้หลายๆ ด้าน ทั้งความรู้ที่อาจารย์สอน ทั้งประสบการณ์การใช้ชีวิตอยู่เมืองหลวง และวัฒนธรรมของคนไทยที่เพื่อนๆ คนไทยได้แลกเปลี่ยนให้กัน รวมถึง การใช้ชีวิตที่ห่างจากครอบครัว สอนผมให้โตขึ้น ไม่ทำให้พ่อแม่เป็นห่วง ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของคนไทยซึ่งคล้ายกับคนกัมพูชา ได้ความรู้จากอาจารย์ทุกท่านที่สอนมา และได้เห็นการพัฒนาประเทศไทยเพื่อกลับไปช่วยพัฒนาประเทศกัมพูชา หลังเรียนจบ ตั้งใจจะนำความรู้ไปประกอบอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ ดูแลเอาใจใส่คนไทยที่มาเที่ยวกัมพูชาอย่างเต็มที่ ให้มีความสุขตลอดเส้นทางจนกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ” สุเขง กล่าว

บัณฑิตคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการท่องเที่ยว นายสีหอ มอน ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) ประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกดีใจ และภูมิใจที่สุดที่ได้รับทุนพระราชทานฯ ด้านการศึกษา นับเป็นเกียรติแก่ตัวเอง และครอบครัว เมื่อได้รับโอกาสแล้วจึงตั้งใจเข้าเรียนทุกครั้ง หลังเรียนแล้วกลับมาอ่านหนังสือเพื่อทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งช่วยเหลือเพื่อนๆ ในกลุ่มเพื่อทบทวนอีกครั้ง

“รู้สึกดีใจ และภูมิใจในชีวิต หลังจากตั้งใจเรียน และอ่านหนังสือจนจบได้ภายใน 3 ปี และยังได้ประสบการณ์การใช้ชีวิตต่างประเทศ เรียนรู้การปรับตัวในวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำทุกอย่างให้เต็มที่ และดีที่สุด ยอมรับข้อเสียเพื่อการพัฒนาตนเอง นำความรู้ และประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนมาพัฒนาตัวเองในการทำงานร่วมกับบุคคลอื่น หากมีโอกาสก็จะนำความรู้ความสามารถตรงนี้ไปช่วยพัฒนาประเทศของตนเองต่อไป” สีหอ กล่าว

ปิดท้ายที่ นายสุเพียะ เอง บัณฑิตคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี ปัจจุบันทำงานอิสระที่ กู๊ดส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นล่ามภาษาไทย-เขมร และเป็น MC Presenter ในประเทศไทย เล่าว่า รู้สึกดีใจ และภาคภูมิใจ ที่ได้คัดเลือกเป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ และเลือกเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ม.ร.เพราะเมื่อปี 2558 มีการจัดสอบทุนพระราชทานฯ ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์ให้ทุนสาขาวิชาเคมี ตรงกับวิชาที่ชอบ และอยากศึกษาหาความรู้ ทุนที่ได้รับช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่อย่างมากในการใช้จ่ายประจำวัน ค่าเทอม ค่าวีซ่า และการใช้ชีวิตอยู่ในไทย นอกจากวิชาความรู้ทางวิชาเคมีแล้ว ยังได้รู้ภาษาไทย การใช้ความรู้คู่คุณธรรม การใช้ชีวิตในต่างประเทศ มีเพื่อนช่วยสอนภาษาไทย และได้เรียนรู้วัฒนธรรมการใช้ชีวิตอยู่ของคนไทย

“รู้สึกดีใจ และภาคภูมิใจที่สำเร็จการศึกษา แม้ ม.ร.ไม่บังคับให้นักศึกษาเข้าเรียน แต่ผมบอกกับตัวเองว่า ถ้าไม่ขยันเรียน ผมคงเรียนไม่จบ และต้องเรียนหลักสูตรภาษาไทย จากนั้นผมก็ตั้งใจว่าจะเรียนให้จบ ต้องพยายามอ่าน เขียน ฟัง และเข้าเรียนให้มากที่สุด หลังจากเลิกเรียนกลับมาดูวีดีโอคำบรรยายย้อนหลังอีกรอบ เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาที่ได้เรียนมากขึ้น”

พร้อมกับทิ้งท้ายว่า “ผมได้รับทุนพระราชทาน และต้องมาเรียนต่างประเทศ เป็นโอกาสที่หาได้ยาก ได้รับประสบการณ์การใช้ชีวิตใหม่ๆ ความรู้ด้านเคมี ความรู้ภาษาไทย การเรียนรู้วัฒนธรรม ความรู้คู่คุณธรรม และความรู้เศรษฐกิจพอเพียง และความรู้อีกจำนวนมากที่อาจารย์ทุกท่านได้สั่งสอนมา หลังเรียนจบแล้ว ผมตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้ศึกษามาไปประกอบอาชีพเป็นครูสอนหนังสือ สาขาเคมี ที่กัมพูชา เพื่อช่วยพัฒนาประเทศต่อไป”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image