ผู้ปกครอง ‘ค้าง-ขอลด’ ค่าเรียน ทำ ‘เอกชน’ แบกภาระ-ขาดสภาพคล่อง วอนรัฐช่วยด่วน
โรงเรียนเอกชน – นายศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงเรียนเอกชนประสบปัญหาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ทำให้ผู้ปกครองขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินจ่ายค่าธรรมเนียมการเรียนให้กับโรงเรียน ซึ่งเรื่องนี้สร้างความลำบากให้กับโรงเรียนเช่นกัน เนื่องจากโรงเรียนต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเท่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนครู และบุคลากรในโรงเรียน นอกจากนี้ ต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับป้องกันเชื้อโรค เช่น หน้ากากอนามัย เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ หรือการจัดทำอุปกรณ์เพื่อสร้างระยะห่างระหว่างนักเรียน เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ปกครองได้ขอให้โรงเรียนช่วยเหลือเช่นกัน อาทิ ขอจ่ายค่ามัดจำให้กับโรงเรียนไว้ก่อน แล้วจะหาเงินมาจ่ายค่าธรรมเนียมการเรียนทีหลัง เพื่อให้ลูกเข้าเรียนต่อไปได้ ซึ่งทางโรงเรียนพร้อมที่จะช่วยเหลือ แม้จะต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายมาก และทำให้ขาดสภาพคล่องก็ตาม
นายศุภเสฏฐ์กล่าวต่อว่า แม้ภาครัฐจะออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ดำเนินการแก้ไขประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกู้ยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในส่วนของการบริหารกิจการโรงเรียน พ.ศ. … และร่างประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่นไขการยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบสำหรับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม พ.ศ. … เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนในระบบ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้สามารถกู้ยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบได้ เพื่อรักษาสภาพคล่อง โดยให้กู้รายละไม่เกิน 1,000,000 บาท โดยกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระเป็น 2 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ และรอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงนามต่อไป ทั้งนี้ ตนมองว่าแม้จะเป็นการช่วยเหลือ แต่ช่วยไม่ได้มาก เพราะมีดอกเบี้ย
“นอกจากนี้ ยังพบปัญหาเพิ่มเติม คือเมื่อรัฐขอให้โรงเรียนทุกสังกัด ลดเก็บค่าธรรมเนียมการเรียน เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองว่าแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว หรือโรงเรียนเอกชนบางแห่ง ผู้ปกครองติดต่อขอลดค่าธรรมเนียมการเรียน โดยให้เหตุผลว่าลูกสลับมาเรียนแบบ เรียน 2 วัน หยุด 3 วันเท่านั้น เมื่อเวลาเรียนลด ทำไมโรงเรียนไม่ลดค่าธรรมเนียมการเรียน ซึ่งเรื่องนี้ผู้ปกครองไม่เข้าใจ ว่าการสลับวัน หรือเวลามาเรียน แม้นักเรียนจะไม่ได้เรียนในโรงเรียน แต่โรงเรียนจัดรูปแบบการเรีบนการสอนอื่นๆ ไว้รองรับ เล่น เรียนออนแอร์ และออนไลน์ เป็นต้น อีกทั้ง โรงเรียนยังต้องจ่ายเงินเดือนครู และพนักงานคนอื่นๆ เท่าเดิม หรือแม้กระทั่งแม่ค้าพ่อค้าที่ขายของในโรงเรียน ก็รายได้หายไป เนื่องจากนักเรียนมาเรียนเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น” นายศุภเสฏฐ์ กล่าว
นายศุภเสฏฐ์กล่าวอีกว่า โรงเรียนจะต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครองต่อไป เพราะหากโรงเรียนไม่ได้รับค่าธรรมเนียมการเรียนจากผู้ปกครองเป็นระยะเวลานาน จะทำให้โรงเรียนขาดสภาพคล่อง และอยู่ไม่ได้ อาจต้องหาทางออกโดยการกู้เงินมาหมุนเวียน หรือปิดกิจการไป เรื่องนี้ผมอยากให้รัฐเข้ามาช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนด้วย” นายศุภเสฏฐ์ กล่าว
