ข้อเท็จจริงกระบวนการสรรหา และการหยั่งเสียง อธิการบดี ม.เชียงใหม่

ข้อเท็จจริงกระบวนการสรรหา และการหยั่งเสียง อธิการบดี ม.เชียงใหม่

วาระการดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ซึ่ง ศ.คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต ดำรงตำแหน่งครบกำหนด 4 ปี 2 วาระ ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2565 และสภา มช.จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี เพื่อดำเนินการสรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี มช.และได้เปิดรับสมัครผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี วาระการดำรงตำแหน่ง พ.ศ.2565-2569 ระหว่างวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2565 โดยเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติงานใน มช.เสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี มช.ในวันที่ 6-7 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งข้อบังคับ มช.ว่าด้วยการสรรหาอธิการบดี กำหนดให้รายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้มาจาก 2 ทาง คือ 1) การสมัครของผู้ที่มีความสนใจ และ 2) การเสนอชื่อ ซึ่งมีผู้ได้รับการเสนอชื่อเพื่อเข้ารับการสรรหาอธิการบดี จำนวนมากกว่า 20 คน

การสรรหาอธิการบดีของ มช.มีกระบวนการอย่างไร? กระบวนการสรรหาอธิการบดีของ มช.เริ่มจากการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาโดยสภามหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยของไทยส่วนใหญ่ ซึ่งประกอบไปด้วยกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 2 คน ประธานสภาพนักงาน นายกสมาคมนักศึกษาเก่า มช. กรรมการสภามหาวิทยาลัยประเภทคณาจารย์ประจำ กรรมการสภามหาวิทยาลัยประเภทพนักงานมหาวิทยาลัยที่มิใช่คณาจารย์ประจำ และผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมหาวิทยาลัย รวมทั้งสิ้น 7 คน เรียกว่า “คณะกรรมการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่”

คณะกรรมการสรรหาชุดนี้ จะดำเนินการให้มีการเสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี และรับสมัครบุคคลที่ประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาเพื่อดำรงตำแหน่งอธิการบดี เมื่อได้รายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีจากการเสนอชื่อ และการรับสมัครแล้ว คณะกรรมการสรรหาจะตรวจสอบ และกลั่นกรองรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน มีประวัติ และผลงานดีไว้จำนวนไม่น้อยกว่า 3 ชื่อแล้ว ดำเนินการทาบทาบ ผู้ที่ตอบรับการทาบทาม และผู้สมัครจะต้องนำเสนอวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหา เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งอธิการบดีให้เหลือจำนวน 2 ชื่อ ก่อนจะนำเสนอรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกต่อสภามหาวิทยาลัย

ทั้งนี้ ในกรณีที่คณะกรรมการสรรหาเห็นว่าเมื่อได้มีการเสนอวิสัยทัศน์แล้ว บุคคลใดมีความโดดเด่นเหนือกว่าผู้อื่นอย่างชัดเจน คณะกรรมการสรรหาอาจเสนอชื่อต่อสภามหาวิทยาลัยเพียงชื่อเดียวก็ได้ จากนั้นสภามหาวิทยาลัยจะเชิญผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากคณะกรรมการสรรหามานำเสนอวิสัยทัศน์ต่อสภามหาวิทยาลัยอีกครั้ง เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีจำนวนหนึ่งชื่อ และนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป

Advertisement

เมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นอธิการบดีแล้ว สภามหาวิทยาลัยจะดำเนินการแต่งตั้ง “คณะกรรมการประเมินผลการบริหารงานของอธิการบดี” เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบการบริหารงาน และภาวะความเป็นผู้นำของอธิการบดีว่ามีการบริหารงานเป็นไปตามความคาดหวังหรือไม่ โดยมีการประเมินผลจำนวน 2 ครั้งในวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี คือ รอบ 1 ปี 6 เดือน และรอบ 3 ปี แล้วรายงานผลการประเมินต่อที่ประชุมสภาฯ พิจารณาทุกครั้ง ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารงานของอธิการบดีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นไปตามแผนพัฒนาการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่สภาฯ ได้กำหนดไว้ให้มากที่สุด

เพราะเหตุใดจึงไม่สามารถนำผลการหยั่งเสียงโดยประชาคม มช.มาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการสรรหาอธิการบดีของ มช.การหยั่งเสียง คือ รูปแบบการลงคะแนนเพื่อหาความนิยม ซึ่งมิได้เป็นเป้าประสงค์หลักของการสรรหาอธิการบดีที่มุ่งคัดหาผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในการดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของ มช.นอกจากนี้ ผลจากความแตกแยกภายในองค์กรหลังจากการโจมตีระหว่างกันในกระบวนการหาเสียงเพื่อเรียกความนิยมในอดีตนั้น ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสรรหาอธิการบดี โดยไม่นำการหยั่งเสียงมาเป็นเกณฑ์ประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2546 ได้ระบุถึงร่างพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัยว่าด้วยการได้มาซึ่งอธิการบดีว่า “ต้องเป็นกระบวนการที่โปร่งใส ไม่ใช้การเลือกตั้ง แต่ให้ใช้วิธีการสรรหาตามข้อบังคับของสภามหาวิทยาลัย”

ประกอบกับมติที่ประชุมสภา มช.ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ได้มีการปรึกษาหารือ และได้กำหนดว่า “การหยั่งเสียงสามารถทำได้โดยสภาพนักงาน มช.หรือองค์กรอื่นที่ได้รับมอบหมาย แต่ไม่ใช่การดำเนินการของคณะกรรมการสรรหา และผลการหยั่งเสียงที่ได้ดังกล่าว ไม่ให้นำมาเป็นเกณฑ์ชี้ขาดในการพิจารณา ทั้งในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหา และของสภามหาวิทยาลัย”

Advertisement

นักศึกษาจะสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการสรรหาครั้งนี้ได้อย่างไรบ้าง ในการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เปิดรับฟังเสียงของนักศึกษา อาจารย์ และบุคลากร ของมหาวิทยาลัยผ่านเวทีของสภาพนักงานมหาวิทยาลัย เพื่อนำประเด็นต่างๆ ไปพิจารณาต่อที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย

ข้อเท็จจริงการจัดการหยั่งเสียงเลือกอธิการบดี โดยสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผ่านระบบออนไลน์

จากการจัดการหยั่งเสียงเลือกอธิการบดี โดยสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านระบบออนไลน์ เมื่อวันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา มีผู้ลงคะแนนทั้งหมด 1,375 คน ได้แก่ กลุ่มบุคลากรสายวิชาการ 80 คน กลุ่มบุคลากรสายสนับสนุน 58 คน กลุ่มนักศึกษา 1,237 คน และผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 12 คน (0.87 % ของผู้มาหยั่งเสียง)

จะเห็นได้ว่าสัดส่วนผู้มาหยั่งเสียงมีจำนวนน้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนของนักศึกษา และบุคลากรของมหาวิทยาลัยทั้งหมด ดังนั้น ผลการหยั่งเสียงในวันดังกล่าวจึงไม่สามารถนำมาเป็นความคิดเห็นส่วนใหญ่ของมหาวิทยาลัยได้

อ่านข่าว เปิดผลหยั่งเสียง ‘อธิการบดี มช.คนใหม่’ จัดโดยสโมสร น.ศ.คะแนนเท ‘ทัศนัย-ปิ่นแก้ว-สมชาย’

อ่านข่าว เหตุเกิดที่ ม.เชียงใหม่ เมื่อกระแสประชาธิปไตยสู้กลับ คิกออฟ ศึกชิงเก้าอี้อธิการบดี

อ่านข่าว คณาจารย์ มช.ยื่น จม.เปิดผนึก ร้องแคนดิเดตชิงอธิการฯ มช.ต้องแสดงวิสัยทัศน์ต่อประชาคม มช.

อ่านข่าว ฮือฮา! สรรหาอธิการ มช.คนใหม่ ให้เสนอชื่อด้วยวิธีปรึกษาหารือ ห้ามใช้วิธีเลือกตั้ง-หยั่งเสียง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image