เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.เปิดเผยภายหลังเข้าหารือกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ., นายการรุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ.และผู้บริหารของ ศธ.ว่า วันนี้ยังไม่ใช่การมารับงานอย่างเป็นทางการ โดย นพ.ธีระเกียรติได้เชิญมาคุยเรื่องการแบ่งงาน ซึ่งหลักๆ ได้มอบหมายให้ตนดูแลในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นหลัก นพ.ธีระเกียรติ จะดูสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขณะที่ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.จะดูในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เป็นหลัก แต่ยังไม่มีการพูดคุยในรายละเอียด หลังจากนี้จะต้องมานั่งคุยในเรื่องเชิงนโยบาย ว่าจะทำอะไรต่างๆ ซึ่งมีแนวทางบ้างแล้ว นอกจากนี้ นพ.ธีระเกียรติยังพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน ศธ.คิดว่าปัญหาใหญ่ๆ ที่ต้องเร่งขับเคลื่อนคือ การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมถึง ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ศึกษาธิการภาค (ศธภ.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) โดยขณะนี้มีข้อตกลง และข้อสรุปเบื้องต้นที่จะดำเนินการ แต่ขอให้ นพ.ธีระเกียรติเป็นคนชี้แจงด้วยตนเอง
“หลังจากได้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส ฝากว่าคณะรัฐมนตรีเป็นคนที่รับผิดชอบดูแลบ้านเมือง ดังนั้น การทำงานตรงนี้ถือเป็นการสนองพระราโชบาย เราต้องเร่งทำเพราะเวลามีจำกัน โดยจะเห็นได้ว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับแนวทางเรื่องการศึกษาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.) ทรงมีพระราชกระแสแนะนำผ่านองคมนตรี ในการส่งเสริมพัฒนา มรภ.ให้เป็นไปตามปรัชญา มหาวิทยาลัยที่ช่วยพัฒนาท้องถิ่น ลดความเหลื่อล้ำเป็นเป้าหมายสำคัญ ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าที่ผ่าน มรภ.อาจได้รับการส่งเสริมไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น จากนี้จะพัฒนาส่งเสริมตรงนี้มากขึ้น โดย มรภ.ต้องปรับตัวเอง ยกระดับขึ้น แต่เน้นเป้าหมายพัฒนาท้องถิ่น ลดความเหลื่อล้ำ นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาอีกหลายเรื่อง ว่าต้องมีการวิเคราะห์ มีข้อมูล และรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง ตรงนี้เราเองไม่ค่อยได้ทำกัน รวมถึง พระองค์ยังทรงเน้นย้ำให้แก้ปัญหาด้วยปัญญา ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าพระองค์ทรงใส่พระทัยเรื่องนี้มาก เราเองจะสนองพระราโชบายทั้งการศึกษาขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษา” นพ.อุดม กล่าว
นพ.อุดมกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ตนจะเข้าทำงานใน ศธ.อย่างเป็นทางการวันที่ 5 ธันวาคม ถือฤกษ์ดีในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันพ่อแห่งชาติ ในฐานะที่ตนเป็นข้าพระบาทมานาน จึงถือว่าวันนี้เป็นวันดีในการเริ่มต้นที่จะเข้ามาทำประโยชน์เพื่อการศึกษา และประเทศชาติ
