‘สมชัย-วีระ’ ร้องกกต.ฟันรวมไทยสร้างชาติ รอบสอง ขนคนฟังปราศรัยเปิดตัว ‘บิ๊กตู่’

‘สมชัย-วีระ’ ร้อง กกต.ฟันรวมไทยสร้างชาติ รอบสอง ขนคนฟังปราศรัยเปิดตัว ‘บิ๊กตู่’ นั่งแคนดิเดตนายกฯ ย้ำหากถูกตีตก หลังเลือกตั้งเล็งเช็กบิล กกต.แทน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 เมษายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วย นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีร้องเรียนพรรครวมไทยสร้างชาติ ในวันเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นการร้องเรียนครั้งที่ 2 หลังจากการร้องเรียนครั้งแรกถูก กกต.ตีตก

นายสมชัยกล่าวว่า มาร้องเรียนเป็นครั้งที่ 2 ในเรื่องเดิม สืบเนื่องจากในวันเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีผิดกฎหมายการเลือกตั้ง มีการขนคนมาฟังการปราศรัย การมีมหรสพ การแจกเสื้อ แจกหมวก และกล่าวคำปราศรัยพาดพิงสถาบัน ซึ่งตนเคยยื่น กกต.แล้ว เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา แต่ถูกปัดตกคำร้อง เพราะ กกต. มองว่า 1. ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง 2.ยังไม่มีผู้สมัคร 3.ผู้ยื่นคำร้องไม่ใช่ผู้เสียหาย เพราะไม่ใช่ผู้รับสมัครเลือกตั้ง ไม่ใช่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตการเลือกตั้งที่มีปัญหา เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เมื่อวันนี้เงื่อนไขต่างๆ มีความครบถ้วนแล้ว เพราะมีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งแล้ว มีผู้สมัคร ส.ส. แล้ว ตนซึ่งเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ในฐานะที่ตนเป็นคนร้อง ก็เป็นผู้สมัครของพรรคเสรีรวมไทยลำดับที่ 6 ดังนั้นเพียงพอในการยื่นหลักฐานการกระทำความผิดถือว่าครบถ้วน ตนจึงนำเรื่องเดิมนี้มายื่นอีกครั้ง

นายสมชัยกล่าวว่า ยืนยันว่ากรณีเช่นนี้สามารถยื่นย้อนหลังได้ เพราะกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส.นั้นเขียนชัดเจนว่า หากก่อนหน้าการประกาศผล หาก กกต. พบว่ามีการกระทำผิดใดๆ ที่ไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม กกต. สามารถสั่งเพิกถอนสิทธิ์ 1 ปีได้ หรือแปลว่าได้ใบส้มนั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจึงมายื่นร้องเรียนเรื่องเดิม ช่วงก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง กกต.ก็ต้องพิจารณาว่า สิ่งที่เราร้องนั้นเป็นเหตุเป็นผลหรือไม่ ขณะเดียวกันหากคนทำผิดเป็นกรรมการบริหารพรรค ก็จะไปไกลถึงขั้นถอนสิทธิการเลือกตั้ง อาจจะตลอดชีวิต รวมถึงขั้นยุบพรรคการเมืองได้ หาก กกต.ปัดตก เท่ากับเป็นการปัดตก 2 ครั้ง ซึ่งครั้งที่ 1 เป็นการให้เหตุผลที่เราคิดว่าไม่สมควรอยู่แล้ว ส่วนถ้าครั้งที่ 2 เมื่อองค์ประกอบต่างๆ ครบถ้วนก็เป็นเรื่องที่ กกต. ต้องวินิจฉัย ถ้าปัดตกอีก เท่ากับว่า กกต.ได้ใช้วิสัยของ กกต.อย่างไม่เหมาะสม รอหลังเลือกตั้ง ทุกเรื่องที่ กกต.ดำเนินการแล้วเป็นปัญหา ส่อว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เราก็จะใช้สิทธิของเราในการดำเนินคดีกับ กกต. แต่ขอเป็นหลังการเลือกตั้ง ตอนนี้ขอให้ท่านปลอดโปร่ง เพราะเข้าใจว่ามีภารกิจที่ต้องดำเนินการ

Advertisement

นายวีระกล่าวว่า การยื่นย้ำวันนี้ กกต.ก็สามารถพิจารณา และมีความเห็นได้เลยว่า จะรับไว้ดำเนินการหรือไม่ หากไม่รับ จะอ้าง หรือจะแถอย่างไรก็ต้องติดตาม ทั้งนี้หากคนที่ยังทำความผิดซ้ำ เจตนาละเว้น เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อคนใดคนหนึ่ง ทำให้รัฐ และประชาชนเสียหาย ท่านซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายก็จะมีความผิดตามกฎหมาย มาตราอาญา 157 แล้วจะมาอ้าง เมื่อคดีเข้าสู่ศาล ว่าท่านไม่ได้เจตนาไม่ได้ เพราะเป็นการทำซ้ำ ยิ่งมัดตัวเองหนักไปอีก ดังนั้นอยากทำอะไรก็ทำ แต่อย่าลืมว่ากฎหมายไม่ได้ยกเว้นให้ กกต. ถ้า กกต.ยังดึงดันที่จะทำอะไรเพื่อช่วยเหลือ เพื่อเอื้อประโยชน์ หรือทำอะไรที่ไม่ชอบ ต้องรับผิดชอบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image