ทนายเจมส์ชี้กรณี ‘ให้รักพิพากษา’ เชื่อคนดูแยกแยะออก ยันละครก็คือละคร
จากกรณีที่กลุ่มอัยการไม่พอใจละครเรื่อง ให้รักพิพากษา เนื่องจากมองว่ามีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ล่าสุด ‘มติชนออนไลน์’ ได้สอบถามไปยัง ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ที่ได้มีโอกาสไปดูแลการถ่ายทำในบางฉากได้เล่าว่า
–ทนายนิด้าแจง หลังอัยการเดือด ‘ให้รักพิพากษา’ ชี้ละครไม่ใช่สารคดี
“ผมไปดูเขาถ่ายทำฉากที่ทนายทิชาว่าความกับทนายประมาณ ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง น้องเบลล่า (ราณี แคมเปน) เขาก็ท่องบทมา แล้วก็มาถามผมในเรื่องของคำพูด ในเรื่องของแอ๊กติ้งต่างๆ ว่าได้ไหม สำรวมไหม เพราะว่าในบทบาทของทนายความมันก็ต้องมีความสำรวมในตัวเอง จะไปดีใจจนออกนอกหน้านอกตาก็ไม่ได้ เพราะว่าตัวความก็คือตัวความ เราก็คือเรา เมื่อเราถอดชุดครุยแล้วเราก็คือคนคนหนึ่ง เอาตัวเองเข้าไปมีส่วนได้เสียในคดีหรือเอาอารมณ์ร่วมในคดีนั้นไม่ได้ ก็คือเล่าให้น้องเขาฟังประมาณนี้ เวลาเขาถ่ายทำผมก็นั่งอยู่ข้างนอก ถ้าเขาพูดผิดปุ๊บก็ต้องถ่ายใหม่ รู้สึกว่าผมจะสั่งคัตมีอยู่ตอนหนึ่ง ตอนที่คนที่เล่นเป็นผู้พิพากษาพูดผิด”
“แต่ฉากที่เขามีปัญหากันคือฉากที่อยู่ในศาลอาญา ซึ่งผมไม่ได้ไป และไม่ได้เห็นบทอันที่เขาพูด ไม่ได้ดูแลบทตรงนั้น”
อย่างไรก็ดี เรื่องที่ถูกติงว่ามีความผิดพลาด ทนายเจมส์ก็ว่า
“ผมมองว่ามันคือข้อผิดพลาดเล็กน้อย แล้วอย่าลืมว่าละครก็คือละคร บทบางทีจะไปอธิบายมากๆ ไม่ได้ อย่างเช่นคำพูด เขาชวนจริงหรือเขาชวนเล่น เจตนาในการพูดเนี่ยเขาชวนจริงๆ หรือเจตนากระแหนะกระแหน ดูให้ดี บทมันจะบอกของมันเองนะครับ”
“แต่ที่สำคัญคือผมว่าประชาชนเขาแยกแยะออก ว่าอันไหนคือละคร อันไหนคือเรื่องจริง”
“ท้ายที่สุดถ้าเขาจะด่าเขาก็ด่าตัวละครที่อยู่ในฉาก อัยการนราที่อยู่ในฉาก ไม่มีใครด่าลามไปถึงอัยการในชีวิตจริง ผมยังไม่เห็นนะ ไม่รู้มีหรือเปล่าที่ไปด่าอัยการในชีวิตจริง ส่วนท่านอัยการจะออกมาโพสต์ติติงอันนั้นก็สิทธิของเขาครับ ถ้าเขารู้สึกว่าเขาถูกพาดพิงหรือว่าไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้”
หากโดยส่วนตัวเขาคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง “ผมมองว่าไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง ผมว่าประชาชนแยกแยะออก อันไหนละคร อันไหนชีวิตจริง”
