เช้าวันนี้ (8 กันยายน) ได้มีพิธีบวงสรวงละครเรื่อง ‘ซุปตาร์ 2550’ ของผู้จัด หน่อย บุษกร วงศ์พัวพันธ์ ที่กำลังจะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 HD การนี้ เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง หนึ่งในนักแสดงละครเรื่องดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมาห่างหายจากการแสดงละครไปนาน แต่เมื่อได้รับการชักชวนและเห็นว่าเนื้อเรื่องสนุกดี มีความน่าสนใจจึงได้ตอบรับ
สำหรับลูกๆ หัทยาบอกว่าตอนนี้ หนุน ศุภรา ได้ก้าวเข้ามาสู่วงการแสดงโดยเพิ่งถ่ายละครเรื่องแรกของช่องเวิร์คพอยท์จบไป
“คนนี้ตามรอยพ่อ ทำตามที่พ่อบอก มีวินัย อยู่ในกองไม่เล่นมือถือเลย เขาอยากทำให้ดี คงคิดอยู่แล้วว่าเขาเป็นคนใหม่ เพิ่งจะมาเล่นเรื่องแรกก็ตั้งใจ แล้วบทไม่ได้ง่ายเลย”
ขณะที่ หนัง ศีตลา เปิ้ลก็ว่า “เหลืออีก 2 วิชาก็จบ ก็คงจะสอบที่เกาหลีให้จบ”
ส่วนแผนต่อไปของลูกสาวคนนี้ หัทยาบอกว่า “ก็คงจะดู น้องหนังอาจจะเป็นอีกแบบนึง เขาอาจจะบอบช้ำกับเรื่องตัวเองเจอ แล้วก็คิดว่าไม่อยากให้ตัวเองไปสร้างความหนักใจให้กับทีมงานหรือว่าเพื่อนร่วมทีม เขาก็เลยคิดว่าเอาตัวเขาเองออกมาก่อนดีกว่า แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน”
-อ่าน ดราม่าสนั่น ลูกหนัง ศีตลา ลูกสาวตั้ว ศรัณยู หลังค่ายเพลงเกาหลีเปิดตัวเตรียมเดบิวต์
-อ่าน สื่อเกาหลี ตีข่าว คนไทยเดือด ‘ลูกสาวตั้ว’ เตรียมเดบิวต์วงเคป๊อป หลังพ่อมีประวัติหนุนเผด็จการ
-อ่าน ลูกหนัง ศีตลา ถอนตัวจากวง H1-KEY ระบุเหตุผลส่วนตัว
เล่าด้วยว่าตอนตัดสินใจออกจากวงที่เกาหลี ลูกก็ใช้เวลาอยู่นานในการตัดสินใจ
“เป็นสิ่งที่หนักสำหรับเด็กคนนึงเลยแหละ แต่ก็เคารพการตัดสินใจของเขา เขาบอกอยากหยุด อยากอยู่นิ่งๆก่อน เพื่อให้คนอื่นเขาได้ไปต่อ ถ้าเกิดตัวเขาเองทำให้คนอื่นหนักใจ แต่จริงๆแล้วก็เคารพการตัดสินใจของเขานะ”
เมื่อถามว่าเธอกลัวไหมว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นปม ทำให้หนังไม่กล้ารับงานในวงการบันเทิง หัทยายอมรับว่า ก็มีบ้าง อย่างไรก็ตามได้บอกลูกไปแล้วว่าต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ก็บอกว่าต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด”
ส่วนเรื่องที่ว่าเหตุการณ์ต่างๆจะมีผลต่ออนาคตไหม?
หัทยาบอก ตอนนี้เขาเหลือเรียนอีก 2 วิชา เอาให้จบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ เพราะที่ผ่านมาหนังก็ได้มีการเขียนเพลงให้กับวงดังกล่าว
“เขามีทำโน่น ทำนี่ของเขา”
“เขาอยากอยู่ในเกาหลีนะ เขาคุ้นชินกับเพื่อนๆ ชีวิตที่โน่นแล้ว”
เล่าด้วยว่าที่ผ่านมาก็ได้ให้กำลังใจลูก
“เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ต้องนั่งคุยกันนาน ต้องอธิบายกันยาวนาน แล้วก็ต้องฟังเขาด้วย เพราะเขาก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดอีกแบบหนึ่งก็ต้องฟังเขา”
ครั้นถามว่าตอนเจอดราม่าลูกได้โทรมาระบาย มาร้องไห้บ้างไหม หัทยาบอกทันที “โห เยอะๆ เขาเครียด เขาเครียด”
“จริงๆแล้ว เขาเจอเรื่องหนักตั้งแต่ตอนซ้อม แต่มาหนักสุดก็ตอนที่เจอเรื่องนี้”
สำหรับความรู้สึกของหนัง ณ ปัจจุบัน หัทยาบอก “ลึกๆไม่แน่ใจนะ แต่คิดว่าน่าจะยัง ไม่น่า 100 %”
“ดีขึ้นไหมเหรอ คิดว่าเขาก็คงมองแนวทางว่าเขาจะยังไงต่อกับชีวิตเขา แล้วก็มีหลายๆคนให้แง่คิด ให้มุมมองในการใช้ชีวิต”
เรื่องกลับทำงานที่ไทย หัทยาบอกว่ายังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้
“คือน้องหนังเขามีมุมมองของเขาเอง มีเพื่อนอยู่ที่โน่นเยอะ อาจจะอยู่ที่โน่นเป็นหลัก”
