ณเดชน์ ย้อนโมเมนต์ขอแต่งงาน ที่ไม่เหมือนในละคร และบทสนทนากับ ‘พ่อตา’
“โล่งเลย” ณเดชน์ คูกิมิยะ บอกอย่างนั้นระหว่างไปร่วมงาน ‘อินเดียน่า โจนส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตา’ แล้วก็ยิ้มกว้าง เมื่อถูกถามถึงการขอ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ แต่งงาน ในช่วงที่ผ่านมา
จากนั้นเล่าว่า เตรียมการมานานพอสมควร แล้วทุกอย่างก็ออกมาด้วยความสุขราบรื่น
“ดีใจมาก” เขาบอก
ส่วนที่ญาญ่าบอกว่าจับโป๊ะจาก ‘อาการล่กๆ’ ของเขาได้ ณเดชน์ก็ว่าเป็นเพราะเก็บความลับได้ไม่เก่ง
“จะมีอาการที่ล้นๆ เกินๆ ในวันนั้น เขาก็คงไม่ได้คิดว่ามีอะไร แต่ว่าผมก็จะมีอาการนิดนึง”
ที่เลือกในทริปการเดินทางนี้ เขาก็ว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม
“เรามีเวลาได้พักผ่อน ได้เที่ยวค่อนข้างเยอะ แล้วอีกอย่างอิตาลีเป็นสถานที่หนึ่งที่รู้สึกว่ามันโรแมนติก และก็เหมาะที่เราจะมอบโอกาสนี้ให้เขา เขาเหมาะสมกับสถานที่แบบนั้น เราก็อยากให้เขาอยู่ตรงนั้น อยากจะให้โมเมนต์บรรยากาศแบบนั้นมันอยู่ตรงนั้น”
สถานที่ที่ขอ ก็มีความหมายในใจ
“Bagni Regina Giovanna เป็นสถานที่เดิมในประวัติศาสตร์ เป็นอ่างอาบน้ำของราชินี การได้ไปขอเขาตรงนั้นเหมือนเราจะเป็นอ่างน้ำที่โอบอุ้มเขา นี่คือความหมายของสถานที่ในความคิดของเรา แต่ว่าจริงๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม จะอยู่ไทยหรือในร้านอาหารก็ตาม ถ้าคนรักกันจริงๆ รู้สึกว่าใช่คนนี้ ผมว่าก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะขอ เรียกว่ามอบหัวใจที่บริสุทธิ์ให้แก่กัน”
ส่วนในตอนขอ บอกญาญ่าว่าอะไรบ้าง ณเดชน์ยิ้มแล้วสารภาพว่า
“ผมพูดอะไร ผมไม่รู้เรื่องเลย”
“ผมเตรียมทุกอย่างไปหมดเลย เตรียมว่าจะพูดแบบนี้ เรามีโอกาสได้ไปสถานที่ต่างๆ ที่เที่ยวในอิตาลี แล้วมันมีความหมายดีๆ เกิดขึ้น ก็แพลนในหัวแล้วว่าจะพูดหนึ่ง สอง สาม สี่ แล้วก็จะคุกเข่า หยิบแหวนออกมา
แต่พอถึงเวลาจริงๆ พูดอะไรก็ไม่รู้ เลยบอกว่า เนี่ย คุยกับที่บ้านแล้วนะ อะไรที่เป็นคำพรรณนาที่สวยงามหายหมด แต่ผมก็รู้สึกดีใจที่เราก็พูดอะไรบางอย่างที่มันไม่ใช่ละคร มันคือชีวิตจริงๆ ความรู้สึกแบบนี้มันไม่เหมือนในละครที่เราพูดว่า ฉันรักเธอ ขอแต่งงานแล้วคุกเข่า ไม่มีอะไรเหมือนเลย มันเป็นความตื่นเต้น ประหม่า ดีใจ อะไรก็ไม่รู้ เข้าใจพี่หมากด้วยเหมือนกันว่าทำไมตอนที่เขาขอกับคิม แล้วเขาถึงสวมผิดมือ”
ส่วนอารมณ์ความรู้สึกตอนนั้น เขาบอกว่า “ไม่ร้องไห้ กรี๊ดกร๊าดกันอย่างเดียว โดยเฉพาะว่าที่คู่หมั้นของผม เขากรี๊ดกร๊าดมีความสุข ผมก็มีความสุขมากๆ มันตื้นตัน มันดีใจ”
สำหรับถ้อยคำที่เตรียมไว้ตอนแรก ณดชน์บอกว่า หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้บอกให้ญาญ่าฟัง
“ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี หัวใจไม่ได้เต้นแรง ก็ได้พูดแล้วครับ”
ที่ญาญ่าบอกว่ามีคำว่าแทรกซึม ณเดชน์ก็ว่า เป็นส่วนหนึ่งในหลายๆอย่างที่เขาบอกเธอ โดยได้บอกไปว่า
“ผมอยากจะแทรกซ้อนเขาไปอยู่ในชีวิตคุณ ความหมายของผมก็คือ เราควรจะประสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน”
ด้านคำตอบของญาญ่าที่เจ้าตัวบอกว่าจำได้ว่าพูดไปว่าอะไร ณเดชน์ก็เฉลย “น้องบอกว่า yes of course”
เรื่องแหวน ณเดชน์บอกว่าตัวเพชรซื้อไว้นานแล้วจากร้านที่ฮ่องกง
“ตอนนั้นผมพยายามหาเพชรชนิดนี้ มันเป็นเพชรชนิดพิเศษ ก็คงไม่ได้พิเศษไปกว่าเพชรคนอื่นๆ แต่ว่าเราแค่อยากหาอะไรที่มันพิเศษกับคนพิเศษของเราเท่านั้นเอง”
แต่พิเศษแบบไหน ณเดชน์บอกหัวเราะๆว่า “ก็ไม่เป็นเพชรธรรมดาแล้วกันครับ เดี๋ยวแฟนผมไปเดินที่ไหนแล้วโดนขโมย โดนกระชาก แต่ไม่ใช่ 12 กะรัตนะครับ ไม่ไหวๆ”
เรื่องงานแต่ง พระเอกหนุ่มบอกว่ายังไม่ได้กำหนด แต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้ ไม่ใช่ในปีนี้ เพราะต่างฝ่ายต่างติดงาน
เขายังบอกอีกว่า หลังการขอแต่งงานดังกล่าว เขารู้สึกว่าความรู้สึกที่มีระหว่างกันเปลี่ยนไป
“ผมรู้สึกว่าเราผูกมัดกันมากขึ้น เราคิดถึงเขามากขึ้น แล้วก็รู้สึกว่าไม่อยากห่างกัน ยิ่งตอนกลับมาแรกๆ โอ๊ย… แบบว่า ต่างคนต้องกลับมาทำงาน ก็เข้าใจความรู้สึกของคนที่หมั้นกัน แต่งงานกัน”
“รู้สึกว่าเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น แล้วต่อไปเราต้องจับมือเดินไปพร้อมๆกัน เวลาจะตัดสินอะไร เวลาจะคิดอะไร คงต้องคุย ต้องแชร์กันมากขึ้น เพราะว่าแต่ก่อนเป็นเหมือนกับคนละคน แต่พอเราต้องมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เดินไปด้วยกัน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เรารู้สึกว่า เราพร้อมที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน”
ครั้นถามว่าอะไรที่บ่งบอกว่าคู่ชีวิต ต้องเป็นคนนี้ ณเดชน์ก็บอก
“ผมว่าเรามีความคล้ายกันเยอะ แล้วเรามีช่วงเวลาที่เราให้ตัวเอง แล้วก็มีช่วงเวลาที่เราโหยหากัน ถ้าพูดภาษาสวยงามก็เหมือนกับว่าเราถูกสร้างมาให้อยู่ด้วยกัน คู่กันอะไรแบบนี้”
ณเดชน์ยังเล่าถึงทริปที่เขาไปนอร์เวย์คนเดียว เพื่อใช้เวลาร่วมกับพ่อของญาญ่าว่า ถือเป็นโอกาสที่ดี
“ปกติเวลาไปนอร์เวย์ เวลาเจอคุณพ่อก็จะอยู่กันแบบครอบครัว อยู่กับคุณแม่อะไรไป แต่พอเราได้ไปอยู่กันสองคน กินข้าวเช้าด้วยกัน ออกไปไหนมาไหนด้วยกัน เวลาที่ได้คุย คนหนึ่งเป็นพ่อ คนหนึ่งเป็นคนที่กำลังจะเข้ามาอยู่ในครอบครัวของเขา ผมว่ามันเป็นโอกาสที่ดี ที่มีอะไรจะได้คุย เปิดใจกัน แม้กระทั่งการที่เขาได้สอนเราในหลายๆ อย่างทั้งใช้ชีวิตคู่ อะไรแบบนี้ มันก็เป็นโมเมนต์ที่ดีมากๆ ผมรู้สึกว่าผมมีความสุขมากที่ได้มีโอกาสออกทริปกับเขา”
“จริงๆก็ได้คุยกันเปิดอกเลยครับ” ณเดชน์เล่าพลางหัวเราะ
บอกด้วยว่าตอนที่คุยไม่ได้มีฝากฝังหรือมอบหมายว่าต้องทำอะไร
“เราเหมือนคุยกันสัพเพเหระ แต่มองตากันเราก็รู้สึกแล้วว่าความหมายของเขา เขาต้องการอะไร อะไรแบบนี้”
ที่หลายคนแซวเรื่องเขาเรียก ‘พ่อตา’ แบบเต็มปากเต็มคำ ณเดชน์ก็ตอบรับแบบยิ้มๆว่า เป็นการเรียกแบบที่เขามีความสุข
อ่านข่าว : ‘ณเดชน์ ขอ ญาญ่า’ แต่งงานแล้ว แฟนคลับ-เพื่อนนักแสดง แห่ยินดีไอจีแทบแตก
