ฟลุค เกริกพล ยังไม่อยากเชื่อสูญเสีย เบียร์ น้องชาย เผยเหตุไม่ได้มาร่วมงานศพ

ฟลุค เกริกพล ยังไม่อยากเชื่อสูญเสีย เบียร์ น้องชาย เผยเหตุไม่ได้มาร่วมงานศพ

จากการสูญเสียน้องชายสุดที่รัก เบียร์ สรณัฐ มัสยวาณิช ด้วยอาการหัวใจวาย แต่ ฟลุค เกริกพล ก็ไม่ได้มีโอกาสมาร่วมส่งเป็นครั้งสุดท้าย โดยล่าสุดเจอหน้าในงานโปรโมตละคร “รอยรักรอยบาป” ค่าย ดาราวิดีโอ ที่อาคาร 7 ช่อง 7HD ก็ได้เปิดใจถึงการสูญเสียครั้งนี้ว่า

พูดถึงเรื่องน้องเบียร์ตอนนั้นหน่อย?
“ตอนนี้ก็เดี๋ยวใกล้แล้วครับ เรากำลังจะไปลอยอังคารน้อง ให้ที่บ้านรอ พึ่งจะจัดการเสร็จว่าเราจะไปยังไง ก็คือเดี๋ยวจะไป ไม่เกิน เดี๋ยวนะ ไม่กี่วัน น่าจะอาทิตย์กว่า”

ในตอนนั้นเป็นยังไง?
“ก็งงครับ เอาจริงๆ มันเป็นอะไรที่เราคาดไม่ถึงอยู่แล้ว แล้วก็ พูดตรงๆ ตอนนี้ยังไม่รู้สึกว่าจริงอ่ะ วันนี้ผมยังไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องจริง เราก็เจอกัน สมมุติทุกวันเกิดของใครสักคนในบ้าน ก็มีนัดกินข้าวกันบ้างอยู่เรื่อยๆ สมมุติสัก 2 เดือน ก็ต้องมีสัก 2 ครั้ง หรือ 3 เดือน 2 ครั้ง อย่างน้อย อันนี้ก็ไม่ได้เจอกันประมาณ ประมาณนั้นพอดี ก็อาจจะรู้สึกว่ามันยังไม่จริงก็ได้ ตอนนี้ก็ยังเชื่อว่าไม่จริงอยู่เลย คือยังไม่กล้าไปหาน้องที่บ้าน ไม่อยากไปรับความรู้สึกนั้น แต่มันก็ใกล้ละ เพราะผมว่าจะไปเยี่ยมน้องที่บ้านก่อน ก่อนที่จะไปลอยอังคาร”

Advertisement

ก่อนหน้านี้รู้ไหมว่าเขามีปัญหาสุขภาพ?
“จริงๆ เขาก็เป็นคนมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มันไม่ได้เยอะอ่ะครับ เช่น สมมุติต่อมน้ำเหลืองไม่ดีต้องใช้สเตียรอยด์ในการทา มันเป็นเรื่องปกติที่เรารับรู้ตั้งแต่เขาเป็นเด็กๆ เราก็รู้สึกว่าอันนี้เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเราจะต้องเป็นคนที่ ผมนึกว่าเขาต้องเป็นคนมาจัดงานศพให้ผมอ่ะ ผมเป็นพี่เขาเยอะพอสมควร หลายปีไม่ถึง 10 แต่ก็เยอะ”

เป็นจังหวะที่ไปต่างประเทศไม่ได้มาร่วมงานน้อง?
“ก็พึ่งไปพอดี แล้วก็ จริงๆ แล้วมันเป็นจังหวะที่ผมกำลังจะย้ายเมือง คือที่ไปอเมริกาเนี่ยเราจะไปทำร้านอาหาร แล้วมันต้องไปทั้งแอลเอแล้วก็เวกัส มันเป็นวันที่ผมจะย้ายไปเวกัสพอดี เราใช้วิธีขับรถไป เพราะว่าของมันก็ไม่สามารถบินไปได้ ถ้าผมไปน้องลีกับนาชาตาก็จะไม่ที่อยู่ แล้วงานที่จะไปเทรนก็เทรนไม่ทัน แล้วบินกลับ มันก็เหลือ 3 เขาลดเวลาเพราะมันติดสงกรานต์ เหลือ 3 วัน มันก็บินกลับมายังไม่ถึงเลย ก็จะจบแล้ว ก็เลยคุยกับที่บ้านว่ายังไงดี ก็เลยคุยกันว่างั้นก็ช่วยเก็บไว้ก่อน แล้วเดี๋ยวไปขอจัดการเรื่องลอยอังคารได้ไหม ประมาณนี้”

Advertisement

แต่ตอนอยู่ที่นู่นใจเราก็ไม่ดี?
“คือวันแรกมันก็ ก็งง แล้วพออีกสัก 3-4 วัน เราก็ไปทำบุญ เราไปวัดไทยที่นู่น ก็ทำบุญให้น้อง ก็เป็นครั้งแรกที่เวลาเราทำบุญแล้วเราจะอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร นู่นนี่นั่น ให้คุณทวดที่ล่วงลับไปแล้ว หรือคุณตาคุณยายฝั่งคุณแม่ อันนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้นึกถึงใครเลย นึกถึงเบียร์คนเดียว นึกถึงน้องไปเลย ก็พูดถึงให้น้อง แล้วก็ระหว่างที่เราทำบุญ คือผมเป็นคนไม่ค่อยอินกับศาสนาเท่าไหร่ แต่วันนั้นก็ขนลุก รู้สึกเหมือนน้องมา (รู้สึกยังไงถึงสัมผัสได้ว่าน้องมา?) ก็คงเหมือนกับว่า เราคงทำบุญแล้วนึกถึงเขาคนเดียว เราก็รู้สึกว่าเขามารับ เนี่ยพูดก็ขนลุกอีกละ”

มีลางอะไรไหม?
“ไม่มีๆ เพราะว่าก่อนหน้านั้นเป็นวันเกิดน้องอชิ ก่อนจะไปแค่ไม่กี่วัน แล้วเราก็จัด เบียร์ก็ยังมา เป็นคนถ่ายวิดีโอให้ สไตล์เบียร์ แล้วก็แบบเหมือนเดิม คือเขาเป็นคนน่ารัก เขาเป็นคนที่รักพี่รักน้องมาก แล้วก็จะเป็นคนเดียวในพี่น้องที่จะมีของขวัญให้นาตาชาตลอด คือทุกครั้งที่มาจะต้องซื้อของมาให้หลาน ซึ่งแบบของขวัญก็น่ารัก เป็นแบบเป้ ทุกวันนี้เราก็จะบอกนาตาชาอันนี้อาเบียร์ให้หนู”

มีอะไรที่ติดค้างที่ยังไม่ได้บอกน้องชายไหม?
“ไม่มี เพราะว่าผมก็คุยกับเขาเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่า ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตามเนี่ย ถ้าปัญหาที่เขาคิดว่ามันหนักอ่ะ คิดว่าปรึกษาผมได้ เขาก็จะโทรมา เขาจะเป็นคนที่คุยกับผมเป็นชั่วโมง ในหลายครั้งที่มีปัญหาชีวิต (หลานๆ ดูผูกพันกับอาเบียร์มาก?) ก็เขาเป็นคนที่เล่นกับหลาน แล้วก็เอาจริงๆ ที่บ้านไม่ได้มีหลานคนอื่น ที่บ้านเบียร์ก็มีแค่อชิ แล้วก็นาตาชาเลย ก็เลยทำให้สนิทกัน บ้านผมไม่ได้บ้านใหญ่”

หลานๆ ถามถึงไหม?
“อชิเลยวัยที่คุยกัน 21 ละ นาตาชายังไม่รู้จักอาเบียร์ดีเท่าไหร่ เจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง แต่เขาก็จำได้ เราก็จะเปิดวิดีโอให้ดูเรื่อยๆ เอาของเล่นให้ดูว่าอาเบียร์ซื้อมาให้นะ”

ฝันถึงบ้างไหม?
“ไม่ได้ฝันถึง (ไม่มาเลยเหรอ?) ไม่มา (เขาเรียกว่าไหลใช่ไหม?) น่าจะเป็นอย่างงั้น”

คุณหมอได้บอกไหมว่าสาเหตุมาจากอะไร?
“ผมได้รับคำบอกกล่าวจากคุณพ่อ จากน้อง ผมไม่รู้เรื่องเลย อยู่ดีๆ พ่อก็พิมพ์มาในกรุ๊ปว่า น้องไปแล้วนะ ผมก็งงว่า คืออะไรอ่ะ หรือพูดเล่นป่ะวะ ผมก็จะเป็นแบบ พ่อพูดเล่นเหรอ คือเป็นเรื่องพูดเล่นเหรอ ไม่ได้พูดเล่น อะไรอย่างงี้ ก็ตกใจครับ ตกใจ (เกี่ยวกับการใช้ชีวิตนอนดึกไหม?) เราไม่รู้จริงๆ แต่ว่าก็แค่เสียดาย เสียดายว่ามันเร็วอ่ะ คือถ้าสมมุติว่าไปสัก คือผมไม่รู้นะว่าเมื่อไหร่มันคือเวลาที่ใช่อ่ะ แต่ว่าถ้ามันเกินสักเลขห้าเลขหก ต่อให้ใช้ชีวิตแย่แค่ไหนก็ยังโอเคเนาะ แต่นี้มันเร็วมาก”

สภาพจิตใจคนในครอบครัวเป็นยังไงบ้าง?
“ตอบแทนคนอื่นไม่ได้ เพราะยังไม่ได้คุยกันเลย เพราะว่ามันเหมือนกับว่าเราพยายามคุยไม่อยากพูดถีงอ่ะ ไม่มีใครอยากพูดถึง พอพูดถึงแล้วมันก็จะรู้สึก ทุกวันนี้ผมเองก็พยายามที่จะไม่แตะส่วนนี้ในหัวว่าน้องไม่อยู่ เพราะก็เชื่อว่ายังอยู่”

ตอนนี้ทำใจได้หรือยัง?
“ผมไม่อยากทำใจ รู้สึกว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะต้องทำใจ ผมว่าวันลอยอังคารอาจจะเป็นอีกฟิลลิ่งหนึ่ง แต่วันนี้ก็ยังรู้สึกว่ายัง”

แพลนลอยอังคารที่ไหน?
“ก็คิดว่าไป ผมคิดว่า คิดแทน (หัวเราะ) ผมไม่อยากไปอยู่แบบไกลๆ ที่มันแบบน่ากลัวๆ บางคนเขาก็จะแบบออกทะเลใช่ไหมครับ ให้ไปไกลๆ ผมก็คิดกับที่บ้านว่า ทุกคนชอบแบบความสุข แฮปปี้ ชอบดนตรี ก็เลยจะลอยแบบออกไปเจ้าพระยาเนี่ยแหละ ออกไปข้างนอกหน่อย แต่ให้มันมีความรู้สึกว่าอยู่ในเมือง คือแบบไปเยี่ยมได้ ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่อยากไปอยู่ไกลๆ นะ ขออยู่สวยๆ ถ้าเกิดที่บ้านไม่ว่ากัน โรยที่สระก็ได้ ถ้าเป็นผม ผมอยากอยู่ใกล้ๆ ผมไม่อยากไปไกลนะ ให้ไปไหนอ่ะ ไม่เอานะ แบบเอาใกล้ๆ ได้ป่ะ กลัวเหมือนกัน ก็เลยคิดแทนๆ ก็หวังว่าเขาจะชอบ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image