เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 ความว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ร.ป.ฉบับนี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 27 มาตรา 33 มาตรา 34 และมาตรา 37 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 กันยายน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มีทั้งสิ้น 178 มาตรา โดยมีสาระสำคัญ อาทิ มาตรา 10 ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. รักษาการตาม พ.ร.ป.นี้ มาตรา 11 เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ให้ กกต.ดำเนินการ (1) จัดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต จำนวน 350 คน (2)ดำเนินการให้ได้มาซึ่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง รวมจำนวน 150 คน พร้อมทั้งรายละเอียดอื่นๆ แต่ทั้งนี้ในมาตรา 2 พ.ร.ป.ฉบับเดียวกัน ได้ระบุให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เท่ากับว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้ได้จริงๆ ประมาณเดือนธันวาคมนี้ โดยล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562
อย่างไรก็ตาม เมื่อ พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับประกาศใช้ ทำให้ทุกอย่างครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ต่อไปประเทศไทยจะเคลื่อนเข้าสู่การเลือกตั้งจริงๆ ทุกอย่างจะต้องขับเคลื่อนไปตามที่กฎหมายมีบทบัญญัติเอาไว้ คาดว่าอีกไม่นาน คสช.จะเริ่ม “คลายล็อก” หรืออาจจะ “ปลดล็อก” ทางการเมืองตามความต้องการของพรรค เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความพร้อม รวมทั้งประชาชนจะได้รับสิทธิเสรีภาพกลับคืน หลังจากที่ไทยตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ “ยึดอำนาจ” มา 4 ปี หวังว่าบทเรียนการสูญเสียเสรีภาพคงจะทำให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาสิทธิเสรีภาพ ไม่สร้างเงื่อนไขที่ทำให้ไทยต้องกลับไปเผชิญหน้ากับความรุนแรง และสุญญากาศที่ถ่วงรั้งการพัฒนาของประเทศเหมือนกับที่เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นาน
