บทนำ : ต้นตอเกิดน้อย

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาเด็กไทยเกิดน้อย ว่า ได้เตรียมพูดคุยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อชี้แจงต่อประชาชนในเวลาที่เหมาะสม นโยบายที่จะออกมาต้องอาศัยเสียงของประชาชนดูผลกระทบและผลตอบรับ ส่วน การจะกำหนดนโยบายพรรค ต้องผ่านการหารือร่วมกันก่อน แต่ก็เป็นหนึ่งในนโยบายที่คิดไว้ จะนำเสนอเข้าไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่าจะช่วยเหลือปัญหาเด็กเกิดน้อย ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง เพื่อสร้างคุณภาพชีวิต

เมื่อถามถึงการสนับสนุนค่าใช้จ่าย ลดภาระของผู้ที่จะมีลูก นายสาธิตกล่าวว่า การลดค่าใช้จ่าย เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ที่เด็กเกิดใหม่ได้รับเงินอุดหนุนถึงแสนบาท ก็พบว่าการอุดหนุนเรื่องเงินไม่ใช่ทั้งหมดของการปรับค่านิยม ประเทศไทยต้องค่อยๆ ให้สวัสดิการและเรียนรู้ระยะยาว ตั้งแต่เกิดจนจบปริญญาตรี เพื่อให้สามารถมีลูกอย่างมีคุณภาพ ทุกข้อเสนอน่าสนใจหมด เราต้องชงเรื่องงบประมาณ ต้องผลักดัน ด้วยเรามีความหลากหลายในทุกระดับ เด็กเกิดใหม่ที่มีคุณภาพ ต้องมีการเตรียมความพร้อม ฉะนั้น เราต้องตั้งระบบ ช่วยค่าใช้จ่าย และการวางแผนในการมีลูก

นายสาธิตกล่าวว่า ได้หารือกับนายกรัฐมนตรี จะพยายามผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ ทั้งนี้ คณะกรรมการอนามัยเจริญพันธุ์ ที่ สธ.เป็นประธานหลักในการดูแล แก้ไขปัญหาเด็กเกิดน้อยจะเดินหน้าอย่างเป็นระบบ วันนี้ทำไปแล้วระดับหนึ่ง แต่หากจะปรับเปลี่ยนค่านิยม ต้องทำให้ “ว้าว” ได้มอบให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เชิญอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความสุขในการเลี้ยงลูก สนุกในการเลี้ยงลูก มาเป็นตัวอย่างการวางแผนครอบครัว ซึ่งจะมีต้นแบบในแต่ละพื้นฐานรายได้ครอบครัว หากช่วยกันทั้งหมดทุกกระทรวง จะค่อยๆ ทำให้ฐานความคิดคนเปลี่ยน อาจจะอย่างน้อย 5 ปี

ปัญหาเด็กเกิดน้อยจะมีปัญหาต่อโครงสร้างประชากรในสังคม เป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องวางแผนระยะยาว และควรวิเคราะห์วิจัยไปถึงต้นตอของปัญหาในมิติต่างๆ อย่างครบถ้วน รวมถึงด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมของประเทศ ซึ่งซับซ้อน ละเอียดอ่อน จากการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ อาจเป็นเหตุทำให้พ่อแม่ไม่มั่นใจว่าจะมีศักยภาพในการเลี้ยงดู ลูกหรือไม่ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาอย่างถูกจุดต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image