สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทั้ง 2 ฝั่งในการรณรงค์สนับสนุนการลงประชามติว่าด้วยสมาชิกภาพของอังกฤษในสหภาพยุโรป (อียู) ต่างพยายามจนถึงวันสุดท้ายของการหาเสียงในวันที่ 22 มิถุนายน 1 วันก่อนหน้าการชี้ชะตาว่าอังกฤษจะยังอยู่หรือออกจากอียูซึ่งเหมือนเป็นการตัดสินอนาคตของยุโรปด้วย
นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ เดินสายให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายสำนัก เป็นความพยายามเฮือกสุดท้ายที่จะส่งสารสนับสนุนให้อังกฤษอยู่ในอียูต่อ ไปยังผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ก่อนหน้าการเปิดลงคะแนนอย่างเป็นทางการในเวลา 07.00 น. ของวันที่ 23 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 13.00 น. วันเดียวกันในไทย)
“ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” คาเมรอนกล่าวกับไฟแนนเชียลไทม์ส “ผมเชื่อว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาด ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อังกฤษไม่ต้องการเผชิญเรื่องแบบนี้อีกครั้ง”
ฝั่ง “อยู่ต่อ” มีคะแนนนำฝั่งสนับสนุนให้ออก หรือ “เบร็กซิท” เพียงเล็กน้อยที่ 51 ต่อ 49 เปอร์เซ็นต์ จากการรวบรวมคะแนนเฉลี่ยจากผลสำรวจหลายชิ้น จัดทำโดยสำนักวิจัยออนไลน์ “วอท ยูเค ธิงก์ส” และในช่วงโค้งสุดท้าย ทีมหาเสียงของทั้ง 2 ฝ่ายพยายามที่จะเอาชนะใจผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ตัดสินใจด้วยการจัดปราศรัยในสถานที่ใกล้เคียงกันในกรุงลอนดอนในช่วงเวลาห่างกันไม่นานนัก
หลังจากนั้น ผู้แทนของทั้ง 2 ฝ่ายจะเผชิญหน้ากันในการดีเบตที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ช่อง 4 ของอังกฤษ โดยนายไนเจล ฟาราจ หัวหน้าพรรคอิสรภาพสหราชอาณาจักร (ยูคิป) ที่มีแนวคิดต่อต้านอียู เป็นตัวแทนของฝั่ง “เบร็กซิท” ขณะที่นายอเล็กซ์ แซลมอนด์ รัฐมนตรีคนที่ 1 ของสกอตแลนด์ เป็นตัวแทนของฝั่งอยู่ต่อ
ความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะกลายเป็นชาติแรกในประวัติศาสตร์ 60 ปีของอียูที่ถอนตัวออกไป สร้างความหวั่นกลัวว่าจะเกิดผลกระทบแบบโดมิโนหรือ “โดมิโนเอฟเฟ็กต์” ที่อาจนำไปสู่การล่มสลายของอียูได้ โดยนายฌอง โคล้ด ยุงเคอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เตือนว่าการที่อังกฤษออกจากยุโรปเป็นพฤติกรรมที่เหมือนการทำร้ายตัวเอง และเป็นอันตรายต่อทุกสิ่งอย่างที่ยุโรปประสบความสำเร็จมาได้จากการทำงานร่วมกัน
มีหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับของอังกฤษที่ใช้หน้า 1 ของฉบับวันดังกล่าวนี้สนับสนุนแนวคิดของตนในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนหน้าการลงประชามติ โดยพาดหัวข่าวหน้า 1 ของเดลีเมล์มีข้อความว่า “คำโกหกของพวกอำมาตย์ละโมบ หรืออนาคตที่ยิ่งใหญ่นอกยุโรปที่กำลังแตกแยกและล่มสลาย” พร้อมตบท้ายว่า “หากคุณเชื่อในอังกฤษ เลือกออก”
ด้าน เดลีมิเรอร์ เรียกร้องให้ผู้อ่าน สนับสนุนการอยู่ต่อกับอียู “เพื่องานของคุณ เพื่อลูกหลานของคุณ เพื่ออนาคตของอังกฤษ”
