เผยผลสอบโจ๊กเกอร์มือมีดญี่ปุ่น ปริปากอยากฆ่าคนเยอะๆ
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ตำรวจและสื่อญี่ปุ่นรายงานการสอบปากคำนายเคียวตะ ฮัตโตริ หนุ่มคลั่งวัย 24 ปี ที่แต่งตัวเป็นโจ๊กเกอร์ วายร้ายจากเรื่อง แบทแมน ก่อเหตุเขย่าขวัญใช้มีดไล่แทงคนไม่เลือกบนรถไฟใต้ดินก่อนจุดไฟเผา ในกรุงโตเกียว เมื่อคืนวันฮัลโลวีนที่ผ่านมา เป็นผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 รายว่า ผู้ต้องหาให้การกับตำรวจว่าเขาต้องการฆ่าคนให้ได้จำนวนมาก และมีการวางแผนมาเป็นเวลาหลายเดือน โดยซื้อมีดที่ใช้ในการก่อเหตุจากทางอินเตอร์เน็ต
โฆษกตำรวจญี่ปุ่นแถลงว่า นายฮัตโตริถูกจับกุมในที่เกิดเหตุ ได้ให้การกับชุดสอบสวนในภายหลังว่า เขาต้องการฆ่าคนให้ได้จำนวนมากและอยากให้ตนเองได้รับโทษประหารชีวิต สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจมตีครั้งนี้ มีชายวัย 70 ปีหนึ่งราย ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจากการถูกแทงเข้าที่ลำตัว และอีก 16 รายที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนใหญ่มาจากการสูดควันเข้าไป
ด้านสื่อญี่ปุ่นรายงานว่า นายฮัตโตริที่ให้การกับเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนว่ามีปัญหาเรื่องงานและเรื่องเพื่อนที่ไม่ได้เป็นไปด้วยดี อาจจะเริ่มวางแผนก่อเหตุโจมตีมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อเขาลาออกจากงานที่เมืองฟูกุโอกะ ก่อนจะย้ายมาอยู่ในภาคตะวันออก แล้วเร่ร่อนไปตามเมืองต่างๆ ช่วงเวลาหนึ่ง กระทั่งย้ายมาโตเกียวเมื่อเดือนก่อน
ดูเหมือนว่าเหตุที่มือมีดรายนี้เลือกลงมือก่อเหตุในวันฮัลโลวีนเพราะรู้ดีว่าในโตเกียวจะเต็มไปด้วยผู้คน โดยนายฮัตโตริได้ออกมาจากโรงแรมที่พักในช่วงบ่ายและขึ้นรถไฟไปแถวย่านชิบูยา ซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวของคนหนุ่มสาว ที่ผู้คนจะแต่งตัวออกมาเที่ยวเดินเล่นสังสรรค์กันในวันฮัลโลวีน แต่หลังจากนายฮัตโตริขึ้นรถไฟจากในเมืองและมาเปลี่ยนขบวน ก็ได้ก่อเหตุขึ้น
คลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเผยให้เห็นนายฮัตโตริในชุดโจ๊กเกอร์ นั่งสูบบุหรี่ด้วยท่าทีสงบนิ่ง รอให้ตำรวจมาจับกุมอยู่บนขบวนรถไฟ โดยสื่อรายงานว่านายฮัตโตริได้ซื้อมีดที่ใช้ในการก่อเหตุมาจากทางอินเตอร์เน็ต และถือขวดพลาสติกบรรจุน้ำมันขนาด 4 ลิตรเข้ามาในโตเกียว
ด้านนายเท็ตสึโอะ ไซโตะ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมญี่ปุ่น แถลงข่าวในวันเดียวกันว่า รัฐบาลได้แจ้งให้บริษัทผู้ให้บริการรถไฟเพิ่มการระแวดระวังภัยให้มากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุโจมตีเช่นนี้ขึ้นอีก โดยชี้ว่ารถไฟเป็นสิ่งจำเป็นของการใช้ชีวิตในสังคม จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะสามารถรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยขณะเดินทาง
อ่านต่อ