สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ความหวาดกลัวเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่กำลังดุเดือดในขณะนี้ ส่งผลให้หุ้นในเอเชียร่วงลงเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา โดยตลาดซื้อขายหลักทรัพย์หลายแห่งในภูมิภาคเอเชียปิดตลาดกระดานแดงกันทั่วหน้า สวนทางกับการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐที่ยังคงปิดเพิ่มสูงขึ้น
ข่าวระบุว่า ตลาดหุ้นในญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ยังคงปิดเพิ่มขึ้น โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดการซื้อขายขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง ก่อนที่จะปรับลดลงมาในช่วงการซื้อขายระหว่างวัน และปิดท้ายการซื้อขายของวันด้วยการเพิ่มขึ้นเพียง 0.13 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นในจีน ฮ่องกง และเกาหลีใต้ ปิดตลาดแบบกระดานแดงทั่วหน้า โดยตลาดหุ้นซ่างไห่ คอมโพสิต อินเด็กซ์ ซึ่งเป็นตลาดหุ้นหลักของจีน ปิดตลาดลดลง 0.15 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 3,131.84 จุด ส่วนตลาดหุ้นที่ปิดลดลงมากที่สุดเอเชียคือตลาดหั่งเส็งของฮ่องกง ที่ปิดตลาดลดลง 2.2 เปอร์เซ็นต์
ด้านรอยเตอร์รายงานว่า ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปิดลดลงเกือบทั้งหมด โดยตลาดหุ้นของไทยปิดลดลงไปถึง 2.3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นการปิดตลาดที่ต่ำที่สุดในรอบกว่า 3 เดือน ขณะที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเอเชีย ปิดตลาดลดลง 2.1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนมาเลเซีย ปิดลดลง 1.9 เปอร์เซ็นต์ อินโดนีเซีย ลดลง 1.2 เปอร์เซ็นต์ แต่เวียดนามเป็นประเทศเดียวที่ปิดตลาดด้วยตัวเลขที่เพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์
ข่าวระบุว่า ตลาดหุ้นที่ปั่นป่วนในช่วงนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 ของโลกตามลำดับ หลังจากสหรัฐประกาศเพิ่มรายชื่อสินค้านำเข้าจากจีนในบัญชีกำแพงภาษีของสหรัฐ และรัฐบาลจีนประกาศจะตอบโต้มาตรการดังกล่าว
อ่าน เล่นไม่เลิก! มะกันเตรียมขึ้นภาษี1,300สินค้านำเข้าจีน25%
