อาหารเช้าภูเก็ต 2 สไตล์อร่อยแตกต่าง โรตีแถวน้ำ และข้าวต้มถนนดีบุก โดย ปิ่นโตเถาเล็ก

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 - 16:03 น.

ที่มา	คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม
ผู้เขียน	โดย ปิ่นโตเถาเล็ก

อาทิตย์นี้ปิ่นโตเถาเล็กขอพาแฟนๆ มาที่ไข่มุกอันดามัน จังหวัดภูเก็ต เสน่ห์ของเมืองนี้อยู่ที่ว่าถึงแม้จะเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีของกินท้องถิ่นให้เลือกชิมหลากหลายไม่ซ้ำใคร

อย่างมื้อเช้านั้นเป็นที่รู้กันดีว่ามาภูเก็ตต้องกินขนมจีนและติ่มซำหลากหลาย แต่คราวนี้ผมมีร้านอาหารเช้าที่รับรองว่าจะอร่อยแปลกแตกต่าง น่าค้นหา น่าลิ้มลอง

เริ่มกันด้วยร้านซึ่งมีคาแร็กเตอร์พิเศษ เพียงย่างเท้าก้าวเข้าร้าน แฟนๆ ก็จะได้ยินเสียงตะโกน 2-1 กับ 2-2 ดังฟังชัด ไม่ใช่ผลแข่งฟุตบอลอะไรหรอกนะจ๊ะ แต่นี่คือรหัสสั่งโรตี อันเป็นเอกลักษณ์ของร้าน โรตีแถวน้ำ ร้านดังในตัวเมืองภูเก็ต แหล่งชุมนุมสภากาแฟยอดนิยมยามเช้าของชาวเมือง

โรตีแถวน้ำคือร้านเก่าแก่เปิดมานานกว่า 70 ปีแล้ว อยู่ในห้องแถวคูหาเดียวใจกลางเมือง ริม ถนนเทพกระษัตรี ใกล้กับสี่แยกซึ่งตัดกับถนนถลาง มีป้ายชื่อร้านติดอยู่ที่ข้างเสาตรงช่องทางเดินด้านหน้าร้านว่า โรตีน้ำแกงแถวน้ำ

ซึ่งคนท้องถิ่นจะรู้จักกันดีในชื่อโรตีแถวน้ำ บางคนก็เรียกว่าร้าน ภูเก็ตมุสลิม ข้างหลังร้านจะเป็นคลองเล็กๆ ซึ่งในสมัยโบราณจะมีเรือสำเภาแล่นเข้ามาได้ ตอนนี้ บังดล หรือบังสุทัศน์ ลูกชายบังหมีด เป็นทายาทผู้สืบทอด ทำร้านมานานกว่า 30 ปี

มาร้านโรตีแถวน้ำก็ต้องสั่ง โรตีจิ้มน้ำแกง อาหารเช้าอีกอย่างของคนภูเก็ต นอกเหนือจากขนมจีน ติ่มซำ สูตรในการสั่งของที่นี่คือให้สั่งว่าจะเอาโรตีกี่แผ่น และโปะด้วยไข่ดาวกี่ฟอง ถ้าสั่งโรตี 1 แผ่น ไข่ดาว 1 ฟอง ก็จะเรียกว่า 1-1 ซึ่งผมสั่ง 2-2 ก็คือ โรตี 2 แผ่น ไข่ดาว 2 ฟอง บังดลจะทอดโรตีแสนอร่อยอยู่ที่ข้างหน้าร้าน บนเตาถ่านแบบดั้งเดิม จึงเหนียวนุ่มหอมอร่อยยิ่งนัก

สั่งโรตีแล้วก็ต้องสั่ง น้ำแกง สำหรับจิ้มกับโรตี เสิร์ฟมาในจานก้นลึก (40 บาท ยกเว้นแกงปลา 50 บาท) บังดลซื้อเครื่องแกงซาหรือซาละหมั่นมาจากตลาด แล้วปรุงเพิ่มใส่ลูกผักชีเข้าไป

แกงมีให้เลือกทั้ง แกงเนื้อ ซึ่งผมชอบแกงชนิดนี้มากที่สุด น้ำจะไม่ได้ข้นคลั่กต่างจากแกงภาคกลาง

ใครไม่กินเนื้อก็ให้สั่ง แกงไก่ นอกจากนี้ ก็มี แกงปลา ใส่ปลากล้วย น้ำแกงรสเปรี้ยวด้วยส้มแขกกับมะขามเปียก

และ แกงมัสมั่นไก่ ใส่น่องไก่กับ แกงมัสมั่นเนื้อ ซึ่งน้ำแกงก็ไม่ได้ข้นมากเช่นกัน อีกทั้งมีแกงถั่วแถมให้ฟรี อยากลองชิมก็บอกเขาได้ ถ้าอยากกิน โรตีจิ้มนมข้นกับน้ำตาล ก็มีด้วย กินคู่กับชาและกาแฟร้อนๆ เข้ากันดี

บังดลบอกว่าแกงที่ขายดีที่สุดคือแกงเนื้อกับมัสมั่นไก่ เวลาสั่งควรสั่งให้ครบคนทุกสิ่งอย่างภายในครั้งเดียว มิฉะนั้นถ้าสั่งเพิ่มจะต้องไปต่อคิวใหม่รอนาน เพราะคนแน่นขนัดตลอดเวลาจริงๆ

ร้านโรตีแถวน้ำเปิดบริการช่วงเช้าตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปจนถึงตอนเที่ยง มาแล้วจะได้สัมผัสบรรยากาศสภากาแฟของคนเมืองที่มาพบปะสนทนาพูดคุยกัน

ต่อกันด้วยร้านอาหารเช้าไม่เหมือนใครในตัวเมืองภูเก็ต ชื่อว่า ข้าวต้มถนนดีบุก แต่ความจริงอยู่ที่ ถนนพังงา ในตึกแถวใกล้กับ สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดภูเก็ต ซอยคณิต หงส์หยก

ที่ตั้งชื่อร้านว่าข้าวต้มถนนดีบุก ก็เพราะเดิมเมื่อกว่า 30 ปีก่อน เปิดร้านอยู่ที่ถนนดีบุก แถววัดกลางหรือวัดมงคลนิมิตร แต่ย้ายมาที่ ถนนพังงา ตั้งแต่ปี 2542 และเพิ่งขยายเป็น 2 คูหาเมื่อปลายปี (2560) ที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ นี่คือร้านชื่อดังยามเช้า เวลามากินอาจจะต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีรอคิวหน่อย

เมนูข้าวต้มและเส้นสารพัดอย่างนี้เป็นมื้อเช้าสไตล์จีน ฮกเกี้ยน เขาขยันตื่นตั้งแต่ตี 3 ครึ่ง มาเตรียมเครื่องใน บดหมู ต้มพะโล้ ซึ่งจะมีตัวเลือกหลากหลายในเมนู เหมือนกับทำข้อสอบย่อยๆ ตอนสั่งเลยทีเดียว

เริ่มจากขั้นแรก ให้เลือกว่าจะสั่ง เส้น อะไร มีทั้ง ข้าวต้ม โจ๊ก หมี่สั่วหรือหมี่ซั่ว เส้นเล็กๆ เต้าเฉี้ยม เส้นแบนๆ คล้ายเส้นใหญ่ (ทำจากแป้งชนิดเดียวกับหมี่สั่ว) อย่าลืมลองทั้ง 2 เส้น นอกจากนี้ ยังมี วุ้นเส้น เส้น มาม่า หรือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งเลือกได้ว่าจะเอารสหมูสับและรสต้มยำ หรือจะสั่งเป็น เกาเหลา ก็ได้

จากนั้นให้เลือกใส่ เครื่อง เริ่มจากเบสิกคือ หมูสับ ตับ และ ไส้อ่อน ที่นุ่มอร่อย และก็มี กระดูกอ่อน ซึ่งเป็นกระดูกใบพายติดขาหน้า กับซี่โครงหมู และทีเด็ดคือ หางหมูตุ๋น อีกทั้ง สาหร่าย และชีส ซึ่งใส่กับเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทำอย่างแห้งเข้ากันดี

นอกจากนี้ ยังมี เนื้อปลา และ หัวปลา อีกด้วย ซึ่งจะมีน้ำจิ้มใส่เต้าเจี้ยวสำหรับเมนูปลาต่างหาก จะสั่งให้ตอก ไข่ไก่สด ด้วยก็ได้ และมีทีเด็ดสุดสุดห้ามพลาดเลยคือ ไข่ลวก อร่อยเหมือนกินไข่ออนเซ็น เพราะเขาใช้ไข่ไก่สดส่งจากฟาร์มมาโดยตรง

ขั้นตอนที่ 3 คือให้สั่งว่าจะกิน อย่างแห้ง หรือ อย่างน้ำ ซึ่งอย่างแห้งจะใส่ได้แค่ 4 ชนิดคือหมี่สั่ว วุ้นเส้น มาม่า และข้าวต้มแห้ง ส่วนอย่างน้ำสั่งได้ทุกเส้นทุกชนิด

ยังไม่หมดนะจ๊ะ เราต้องเลือก น้ำซุป เป็นขั้นตอนสุดท้ายด้วย

มีให้เลือกทั้ง น้ำซุปใส ทำจากกระดูกขาหรือคาตั๊ง และมี น้ำดำ คือน้ำซุปสีเข้มใส่เครื่องพะโล้ที่ผมชื่นชอบ

ซึ่งน้ำซุปทั้ง 2 ชนิดจะทำรสเบาๆ อ่อนๆ หน่อยให้มีกลิ่นหอมเท่านั้น ต้องปรุงเพิ่มเอง ใส่พริกป่น น้ำตาล น้ำส้ม และซีอิ๊ว ซึ่งมี 2 ชนิด หนึ่งในนั้นคือซีอิ๊วท้องถิ่นตรานางฟ้ารสเค็มๆ หอมๆ ถูกใจ นอกจากนี้ ยังมีขิงซอย ผักชี กับปาท่องโก๋ตัวเล็กๆ วางไว้ให้ตามโต๊ะด้วย

เมนูของที่นี่ขายดีทุกอย่าง ซึ่งโจ๊กจะหมดเร็วก่อนใครเพื่อนตั้งแต่ก่อน 9 โมงเช้า สนนราคาขึ้นอยู่กับว่าใส่เครื่องอะไร เริ่มต้นที่ชามละ 45 บาท (ใส่หมู ตับ ไส้อ่อน) ทุกอย่าง 95 บาท ทุกอย่างใส่เนื้อปลาด้วย 180 บาท ถ้าเพิ่มหัวปลาเข้าไปอีกคิด 200 บาท (ไข่ 10 บาท สาหร่าย 10 บาท และข้าวต้มปลา 70 บาท) ที่ข้างหน้าร้านมีของกินเล่นเช่นจุ่ยก๊วยและขนมอื่นๆ ขายอีกด้วย

นี่คืออีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับร้านอาหารเช้าที่ไม่เหมือนใครในภูเก็ต ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เช้ามืดตอนตี 5 ครึ่ง ไปจนถึงตอนเที่ยงก็หมดแล้ว โทร 0-7621-5731 นะจ๊ะ