พฤติกรรมของคนวัยทำงานซึ่งส่วนใหญ่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องทั้งวัน ประกอบกับการอยู่ในท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสม ซึ่งล้วนทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บของระบบกระดูกกล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า ไหล่ พบว่าคนที่รักษาอาการปวดของร่างกาย ส่วนใหญ่เกือบ 80% มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ บางคนลามไปปวดที่ศีรษะและกระบอกตา ยิ่งปล่อยเรื้อรังจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา
เพ็ญพิชชากร แสนคำ ผู้จัดการคลินิกกายภาพบำบัดอริยะ ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ มีท่าบริหารพื้นฐานของคนที่มี “อาการปวดคอ” มาแนะนำ
ท่าที่ 1 ประสานมือด้านหน้า หายใจเข้า กระดกข้อมือ เหยียดแขนไปด้านหลังให้สุด แขม่วท้องเล็กน้อย หายใจออก ค่อยๆ วาดแขนไปด้านหลัง ทำซ้ำ วนมาด้านหน้า ท่านี้จะเป็นท่าที่ยืดกล้ามเนื้อด้านหน้าอก หน้าหัวไหล่ เนื่องจากการนั่งก้มคอและหลังงุ้ม กล้ามเนื้อส่วนนี้จะตึงรั้ง และกระตุ้นอาการปวดคอ และอาจเป็นสาเหตุให้มือชา เพราะเป็นกล้ามเนื้อที่เป็นทางผ่านของเส้นประสาทที่เลี้ยงแขนและมือ
ท่าที่ 2 หงายมือ เหยียดแขนไปด้านหลัง พร้อมลู่ไหล่ลง ค่อยๆ เอียงคอไปด้านซ้าย เอียงคอไปทางขวา ทำสลับข้างไปมา ท่านี้เป็นท่ายืดกล้ามเนื้อด้านข้างของคอและตลอดแนวแขนกระตุ้นให้ระบบการไหลเวียนของเลือดที่ผ่านช่วงคอไปศีรษะไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและลดอาการปวดคอ ปวดศีรษะได้ดี
ท่าที่ 3 ใช้มือขวาจับขอบเก้าอี้ แขนซ้ายชูขึ้นด้านบนเหยียดตรง ค่อยๆ เอนตัวไปทางขวา แล้วเอนตัวกลับมาท่าเริ่มต้น ให้ทำสลับกันทั้ง 2 ข้าง
เวลานั่งทำงานนาน ตัวจะห่อลงเรื่อย ๆ ทำให้กล้ามเนื้อลำตัวหดเกร็ง นอกจากจะทำให้ความตึงรั้งทำให้ปวดคอแล้ว กล้ามเนื้อเหล่านี้ยังส่งผลให้ประสิทธิภาพการหายใจลดลงด้วย เวลายืดกล้ามเนื้อมัดลึกส่วนนี้นอกจากจะทำให้บรรเทาอาการปวดคอแล้ว ยังทำให้หายใจโล่งขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ขณะทำแต่ละท่าควรแขม่วท้องเล็กน้อย หายใจเข้าทางจมูก เป่าลมออกทางปากเบาๆ ยาวๆ ตลอดการทำ ทำซ้ำท่าละ 3-5 ครั้ง ประมาณ 3 รอบ/วัน เหมาะกับคนที่มีอาการปวดคอ หรือรู้สึกเมื่อย หรือทำเพื่อป้องกันอาการปวดคอ
หากทำเป็นประจำจะลดอาการปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ ได้