ออน ชิชญาสุ์ ผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เปิดปากครั้งแรก ถึงกรณีลิขสิทธิ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ว่าจะได้จัดต่อหรือไม่ พร้อม เคลียร์ปมดราม่าชุดราตรี นิ้ง – โศภิดา
ออน ชิชญาสุ์ – ภายหลังจากที่มีกระแสในโลกออนไลน์ ว่าจะมีการเปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 จากเดิม คือบริษัท จันทร์ 25 จำกัด โดย คุณแดง – สุรางค์ เปรมปรีดิ์ และ ออน – ชิชญาสุ์ กรรณสูต มาเป็นบริษัท ทีพีเอ็น 2018 จำกัด ที่เพิ่งจะสร้างความสำเร็จจากการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
ด้านบริษัท ทีพีเอ็น 2018 ก็เพิ่งให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว แบ่งรับแบ่งสู้กับประเด็นดังกล่าว และขอเวลาอีก 2 สัปดาห์จะมีการแถลงข่าว
ประเด็นนี้ ออน – ชิชญาสุ์ กรรณสูต ผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ได้ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธกระแสข่าวเตรียมขายลิขสิทธิ์การประกวดให้กับ ปุ้ย – ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัททีพีเอ็น 2018 ที่ได้ลิขสิทธิ์จัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส Miss Universe 2018 ตั้งราคาสูงถึงหลักร้อยล้านบาท ว่า ลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เป็นสิทธิ์ที่ทางบริษัทต้นสังกัดพิจารณาให้กับบุคคลแบบปีต่อปี ซึ่งปกติจะแจ้งมาช่วงต้นปี ไม่สามารถซื้อขายได้ อีกทั้งตนเองกับ คุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ก็ไม่เคยเจอหรือพูดคุยกับผู้ก่อตั้งบริษัททีพีเอ็น ตั้งแต่แถลงข่าวจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ประเทศไทย
ชิชญาสุ์ กล่าวอีกว่า ไม่ได้ไปพูดคุยกับ พอลล่า ชูการ์ต ประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์ส หรือยุ่งเรื่องลิขสิทธิ์การประกวดในปีหน้าเช่นกัน เพียงแต่ทำหน้าที่ของตัวเองในปีนี้ให้ดีที่สุด
ติดตามข่าวบันเทิงไลฟ์สไตล์ กับ Line@มติชนนิวเจน
ส่วนกระแสดราม่าการประกวดปีที่ผ่านมานั้น ชิชญาสุ์ เผยว่า ทราบว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อคนดูมีความคาดหวัง แล้วไม่ได้อย่างที่หวัง แต่ในความเป็นจริงโลกของคนดู กำลังใจ คนเชียร์ รวมถึงตัวนางงามก็ไม่ได้สวยหรูอย่างที่ทุกคนคิด หรือพฤติกรรมคนไทยส่วนใหญ่ก็มักจะติก่อนชมเป็นเรื่องปกติ แต่เราไม่สามารถควบคุมให้ทุกคนพอใจได้ 100% กระแสดราม่ามีมานานแล้ว แต่ยุคนี้มีโซเชียลมีเดีย จึงเข้าถึงตัวเราได้มากขึ้น ดังนั้นเธอจึงเตือนตัวเองเสมอว่าต้องไม่เสียจุดยืน และต้องทำให้ดีที่สุด ซึ่งคุณแดงพูดเสมอว่าคนเราถ้าจะประสบความสำเร็จต้องผ่านจุดที่โดนว่าโดนติมาก่อน
ย้ำว่า แม้คนที่ได้มาจะไม่ถูกใจคนทุกคน แต่เราก็ไปหาจุดดีของเขาแล้วดึงมันออกมาดีกว่า แทนที่จะไปฟังดราม่าแล้วก็หมดกำลังใจที่จะทำ
ส่วนกรณี หมู – พลพัฒน์ อัศวะประภา เจ้าของแบรนด์ ASAVA ประกาศจะยุติการทำชุดให้มิสยูนิเวิร์สนั้น ผู้จัดการกองประกวด ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เพราะความจริงพลพัฒน์จะเลิกทำตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่คุณแดงขอให้มาช่วยปีนี้ เพราะประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประกวด
ซึ่งส่วนตัวคิดว่า แม้คนอาจไม่ชอบชุด แต่อยากให้เคารพการทำงานในบทบาทของแต่ละคน ผลงานที่ผ่านมาก็เป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติ ต่างรสนิยม ต่างความคิด มันไม่มีถูกหรือผิด แค่ชอบหรือไม่ชอบ แสดงความคิดเห็นกันได้ แต่อยากให้เคารพในหน้าที่ของทุกคน
ก่อนจะทิ้งท้ายว่า
“หากมองเป็นธุรกิจมันก็คือธุรกิจ แต่การทำนางงามก็ต้องใช้ใจทำด้วยประมาณหนึ่ง ที่ต้องมองทั้งศิลปะ ความเป็นผู้หญิง และคุณค่าในตัวผู้หญิง ซึ่งเป็นนโยบายที่คุณแดงผลักดันมาตลอด ความจริงแล้วเธอทำงานตรงนี้ กองประกวดก็พยายามทำความเข้าใจกับธรรมชาติของแฟนคลับ อยากรู้สิ่งที่เขาต้องการ และพยายามตอบสนองเท่าที่ทำได้ บางครั้งแฟนนางงามอาจจะไม่เข้าใจ หรือ เห็นในการทำงานของกองประกวด คำพูด อารมณ์ หรือความคิดเห็นต่างๆ บางครั้งมีประโยชน์ หรือไม่ บางครั้งก็สร้างความเสียหาย และบั่นทอนความรู้สึกกันทุกๆ ฝ่าย
ในขณะที่ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน ว่าอยากเป็นผู้ชนะ แต่หากคนในประเทศเดียวกัน มาตำหนิกันเอง มันก็จะเป็นไปได้ลำบาก ถ้ามันสามารถพัฒนาควบคู่กันได้ วงการนางงามน่าจะพัฒนาไปได้มากกว่านี้ 4 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทีมไทยแลนด์ก็รักษาระดับตัวท็อป โดยมี มารีญา พูลเลิศลาภ ทำดีที่สุดด้วยการเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย แต่ก็สร้างความปลาบปลื้มใจให้แก่ชาวไทยและแฟนคลับทั่วโลก เป็นสถิติที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ”
ขอบคุณภาพจาก missuniversethailand และ on.chichaya
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“หมู อาซาว่า” ลั่น ปีหน้าเลิกทำชุดประกวดแล้ว
ผู้จัดมิสยูนิเวิร์สฯ เผย ทุ่มงบ 500 กว่าล้านจัดประกวด ปัดตอบเข้าถือลิขสิทธิ์เวทีไทย
