อลังการดอกไม้เมืองหนาว ‘เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์’ งานดอกไม้ใหญ่-เก่าแก่ที่สุดในโลก

เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์

อลังการดอกไม้เมืองหนาว ‘เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์’ งานดอกไม้ใหญ่-เก่าแก่ที่สุดในโลก

เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ – ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2456 งานแสดงดอกไม้ อาร์เอชเอส เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ ได้เผยโฉมความงดงามของดอกไม้นานาพันธุ์ ให้ได้ชมครั้งแรก ณ สนาม รอยัล ฮอสพิทัล เชลซี ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ Royal Horticultural Society หรือ สมาคมพฤกษชาติของอังกฤษ รังสรรค์ขึ้นสู่สายตาชาวโลก เพื่อจุดประกายความคิดของนักจัดสวนทั่วโลก ให้สร้างสรรค์ผลงานใหม่และส่งเสริมพันธุ์ไม้ท้องถิ่น ไปจนถึงพันธุ์ไม้ทั่วโลก

จวบจนปัจจุบัน งานแสดงดอกไม้ “อาร์เอชเอส เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์” ยังคงความคลาสสิก และเรียกได้ว่าเป็นงานดอกไม้ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาร่วมสัมผัสความอลังการของธรรมชาติด้วยสายตาตัวเอง

และเมื่อ 30 ปีที่แล้ว งานดอกไม้ อาร์เอชเอส เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ ก็ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ นำมาสร้างสรรค์งานดอกไม้ประจำปี ปาร์คนายเลิศขึ้น ถ่ายทอดสู่หลานสาว “เล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร” ที่สานต่ออาณาจักรปาร์คนายเลิศ จัดงานดอกไม้ เผยแพร่ความสามารถของคนไทย โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ประสบความสำเร็จกับการเปิดเวทีให้เหล่าดีไซเนอร์ได้ประชันฝีมือคับคั่ง จึงเป็นโอกาสอันดี ที่ณพาภรณ์ได้นำผู้ชนะเลิศการแข่งขันการจัดดอกไม้ทั้ง 4 คน ลัดฟ้าไปสร้างแรงบันดาลใจ และพัฒนาฝีมือ จากงานดอกไม้เชลซีฟลาวเวอร์โชว์ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเรามีโอกาสได้ติดตามผู้ชนะทั้ง 4 ไปร่วมงานแสดงดอกไม้ครั้งนี้ด้วย

ภาพจาก The Royal Family
ภาพจาก The Royal Family
ภาพจาก The Royal Family

ในบรรยากาศเย็นสบาย ช่วงฤดูใบไม้ผลิของกรุงลอนดอน ตลอดเส้นทางมุ่งสู่โรงพยาบาล รอยัล ฮอสพิทัล เต็มไปด้วยร้านค้าที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สีสันสดใส ปลายทางของผู้คนที่เดินขวักไขว่คือ ประตูของสนามโรงพยาบาล รอยัล ฮอสพิทัล เชลซี ที่เปิดให้คนรักธรรมชาติ คลาคล่ำจนแน่นขนัดทางเข้า

Advertisement

งานแสดงดอกไม้ อาร์เอชเอส เชลซี ฟลาวเวอร์ เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ.2405 ในชื่อ เดอะ เกรท สปริง โชว์ จัดแสดงในเต็นท์ ณ เคนซิงตัน ก่อนที่ 4 ปีต่อมา จะพัฒนาขึ้นเป็นงานแสดงพืชพันธุ์นานาชาติ ก่อนจะย้ายมาปักหลักที่โรงพยาบาล รอยัล ฮอสพิทัล เชลซี ในปี พ.ศ.2456 และหยุดจัดแสดงถึง 4 ปี ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

ปัจจุบันนี้จัดแสดงในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคมของทุกปี โดยมีผู้ชมจากทั่วโลกมาร่วมงานถึงปีละ 165,000 คน ในเวลาเพียงไม่กี่วันที่จัดแสดง โดยมีราคาเข้าชม 1,400-4,000 บาท และบางปียังได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการดอกไม้ เช่นในปี พ.ศ.2555 ได้มีการจัดแสดง เวสต์แลนด์ เมจิคัล การ์เด้นท์ สวนพีระมิดที่มีความสูงถึง 24 เมตร

Advertisement

เป็นประจำทุกๆ ปี ที่สมาชิกราชวงศ์อังกฤษจะเสด็จมาร่วมออกแบบสวน ไปจนถึงประติมากรรมดอกไม้ อาทิ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ที่มาร่วมออกแบบสวนในปี 2544 รวมไปถึง เจ้าชายแฮร์รี่ ที่ร่วมออกแบบสวน “เดอะ ฟอร์เก็ต มี นอต การ์เด้นท์ ฟอร์ เซ็นเทเบิล” เช่นเดียวกับปีนี้ ที่ ดัชเชส ออฟ เคมบริดจ์ ได้ทรงร่วมออกแบบสวนจัดแสดงในงาน ทั้งนี้ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้เสด็จฯมาทอดพระเนตรอีกด้วย

ในปีนี้ มีหน่วยงานต่างๆ มาร่วมแสดงผลงานถึง 228 สวน แบ่งออกเป็นพื้นที่ เดอะ เกรต พาวิลเลียน จัดแสดงสวนในเรือนกระจก ผลงานการประกวดมงกุฎดอกไม้ จากฝีมือของคนทั่วโลก ถัดออกไปด้านนอก เราได้เห็นผลงานของนักออกแบบชื่อดังทั่วโลก ที่มาจัดแสดงผลงานของพวกเขาให้ได้ชม ไปจนถึงร้านค้าที่แม้จะออกร้านเพื่อขายสินค้าแต่ก็ยังตกแต่งอย่างงดงาม มีรางวัลจากผู้จัดการันตีเช่นกัน พื้นที่ทั้งหมด เต็มไปด้วยสวนที่เราอยากจะมี และสวนที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ทุกสวนแน่นขนัดไปด้วยผู้คน รวมไปถึงงานดนตรีในสวน ที่คนต่างปูผ้านั่งชิลล์ฟังเพลง

และนี่คือความน่าสนใจที่เรารวบรวมมาให้ชม

 

สัมผัสธรรมชาติ ณ สวน เคท มิดเดิลตัน

ภาพของ ดัชเชส ออฟ เคมบริดจ์ และเจ้าชายวิลเลียม ที่ทรงนำพระราชโอรส และพระราชธิดา “เจ้าชายจอร์จ-เจ้าหญิงชาร์ลอต-เจ้าชายหลุยส์” ทอดพระเนตรสวน โดยทรงพระเกษมสำราญกับชิงช้า ลำธาร และบ้านต้นไม้ นับเป็นภาพอันอบอุ่น ที่สื่อให้เห็นถึงคอนเซ็ปต์ของการจัดสวนครั้งนี้ได้ดีที่สุด

ภาพจาก The Royal Family
ภาพจาก The Royal Family

“The RHS Back to Nature Garden” เป็นการออกแบบร่วมกันของ ดัชเชส ออฟ เคมบริดจ์ กับ แอนดรี เดวีส์ และ อดัมส์ ไวท์ 2 สถาปนิกดัง จากแรงบันดาลใจของความทรงจำวัยเด็ก สร้างสรรค์ให้เหล่าเด็กๆ สนุกสนาน ด้วยวัสดุธรรมชาติที่ไปกระตุ้นพัฒนาการด้านร่างกายให้กับเด็กๆ ทั้งโพรงไม้ให้เด็กๆ ได้คลานผ่าน ที่ซ่อนสำหรับเด็ก น้ำตก และบ้านต้นไม้ จูงใจให้คนได้ใช้เวลานอกบ้านด้วยกัน กระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว

บนพื้นที่ที่อาจไม่กว้างนัก เคท มิดเดิลตัน ออกแบบตกแต่งสวนให้เขียวขจีไปด้วยแมกไม้ ทั้งเฟิร์นหลากชนิด กุหลาบ ถึงสตรอเบอรี่ป่า ซึ่งแน่นอนว่าสวนนี้เป็นที่นิยมของผู้ร่วมงานจำนวนมาก แม้ว่าจะต้องเข้าคิวนานมากกว่าครึ่งชั่วโมง เพราะต่างอยากเข้าไปถ่ายภาพประทับใจกับสวนของราชวงศ์

 

สวนสองชั้น จาก Ikea

สวนสวยๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นสวนในที่ราบ แต่ ทอม ดิกซัน และ อิเกีย ยังออกแบบสวนให้ดูสมัยใหม่ และทำให้เห็นว่าไม่ว่าจะมีพื้นที่เท่าใดก็สามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ สวนของอิเกีย เป็นอีก 1 สวนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นักออกแบบ อยากให้สวนแห่งนี้ส่งเสริมด้านสุขภาพ ความยั่งยืน ที่จับต้องได้ในไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน ด้านบน เป็นสวนนานาพันธุ์ ที่ให้คนก๊อบปี้ไปใช้ได้ ผสมผสานตั้งแต่ดอกไม้ ผัก ถั่ว สะระแหน่ บลูเบอรี่ บาร์เล่ย์ รวมแล้วกว่า 2,750 ชนิด และยังมีโต๊ะ เก้าอี้ ที่รีไซเคิลมา

ด้านล่างของสวน แปลกตาผู้เข้าชมด้วยแสงสีชมพูดึงดูดผู้ชม ชั้นนี้ นักออกแบบได้นำเอา ผัก ผลไม้ และสมุนไพร มาปลูกด้วยด้วยเทคโนโลยีใหม่ ตั้งแต่เรื่องไฟ ที่สามารถปรับเปลี่ยนแถบสี ให้สัมพันธ์กับระยะเวลาการเก็บเกี่ยว, การปลูกผักแบบไฮโดรโพนิกส์ ที่ใช้น้ำน้อยกว่าแบบปลูกลงดินมาก, การปลูกแบบแอโรโพนิกส์ เป็นการปลูกผัก ใบสลัด และสมุนไพร ด้วยเทคโนโลยีใหม่ พ่นสเปรย์ด้วยน้ำที่มีแร่ธาตุต่างๆ สู่ราก เหมาะสำหรับการปลูกในสังคมเมือง ใช้พื้นที่น้อยกว่าปกติ 90% และใช้น้ำน้อยกว่า 90% จากวิธีปกติเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีหุ่นยนต์ช่วยในการปลูกต้นไม้อีกด้วย

สวนของอิเกีย จึงเป็นต้นแบบสวนของอนาคตที่ใกล้ตัว ทั้งยังแสดงให้เห็นได้ชัดถึงความมั่นคงทางอาหาร และความยั่งยืนได้อย่างดี

สวนเพื่อความยั่งยืนของอนาคต

แม้ว่าหลายพื้นที่จะออกแบบสวน เน้นย้ำเรื่องความยั่งยืนของมนุษย์และธรรมชาติ แต่สวน โฟลเอลลาส์ ฟิวเจอร์ โดดเด่นในเรื่องนี้กว่าใคร

จากประสบการณ์การทำงานเรื่องสิ่งแวดล้อมมาตลอดชีวิตของ บารอนเนส โฟลเอลลาร์ เบนจามิน ถ่ายทอดเรื่องสวนผ่าน 5 ธีมหลัก คือ ความยั่งยืนสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์น้ำ อากาศบริสุทธิ์ ลดของเสีย และความร่วมมือของชุมชน

ใจกลางของสวน มีประติมากรรมรูปศีรษะดูดน้ำ ขนาด 3 เมตร นำหลอดที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งมาเรียงๆ กันเป็นท่อ 3,000 ชิ้น สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่พลาสติกจะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ด้านหลังมีประติมากรรมเต่า ที่แม้กระดองจะเป็นหญ้าแต่ตัวกลับเป็นพลาสติก จากขยะในท้องทะเล นอกจากนี้ยังมีเท้ายักษ์ ที่กำลังก้มเหยียบลงในสนามฟุตบอล เปรียบได้กับคาร์บอน ฟุตปรินท์ ที่เราทิ้งให้กับโลกนี้

ไม่เพียงแต่กิมมิกที่สอดแทรกอยู่ในผลงานการออกแบบครั้งนี้ แต่นักออกแบบยังได้ใช้สี และพืชพันธุ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

แมกไม้ ในสวนที่คุณคุ้นเคย

ในแต่ละปี จะมีเหล่านักออกแบบ เจ้าของสวน จากทั่วโลกมาร่วมจัดแสดงในงานดอกไม้เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ รวมไปถึง สวนนงนุช ที่ครั้งหนึ่งเคยไปสร้างชื่อให้ทั่วโลกประจักษ์ ปีนี้ ก็มีสวนดอกไม้จากการออกแบบของดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น สวนแบบฟินแลนด์ สวนแบบดูไบ และสวนของสถาบันความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติของแอฟริกาใต้ ที่ออกแบบสวนสะท้อนให้เห็นถึงภูมิประเทศของแอฟริกาใต้ ด้วยพืชพันธุ์พื้นเมือง รวมไปถึงสวนที่จัดแสดงด้วยกล้วยไม้จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

และหนึ่งสวน ที่หากนักท่องเที่ยวชาวไทยได้เดินผ่าน ย่อมรู้สึกคุ้นตา กับต้นกล้วย ฟักทอง ผักสวนครัว ในสวนของ The Campaign for Female Education (Camfed) จากแอฟริกา ที่เปิดพื้นที่ให้เด็กสาวได้เติบโต สวนหลังนี้ ออกแบบสไตล์ ซิมบับเวียน ด้วยดินแดง และหินขนาดใหญ่ ด้านหลังเป็นห้องเรียน ที่มีคีย์เวิร์ดในกระดานดำอย่าง “การศึกษาเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง”

สอดแทรกแนวคิดเรื่องการศึกษา ที่เปิดให้กับการเกษตรกรรมที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับเด็กๆ สร้างชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเด็กหญิง เพราะทุกวันนี้ กว่าครึ่งของเด็กในแอฟริกาไม่ได้เข้าสู่ระบบการศึกษา และยังมีความไม่เท่าเทียมระหว่างชาวนาชายและหญิง

The Campaign for Female Education (Camfed)

 

โลกของกุหลาบหลาก (พัน) ชนิด

แม้ว่าสวนอังกฤษ ในภาพความคิดของใครหลายคน จะเป็นสวนที่เขียวขจี ดูธรรมชาติ แต่ในงานเชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ เราก็ได้เห็นดอกไม้เมืองหนาวหลายพันชนิด ที่คนจากโซนร้อนเช่นเรา มีโอกาสน้อยนักที่จะได้เห็น นำมาตกแต่งสร้างความสดชื่นหลายต่อหลายบูธ

โดยเฉพาะกับดอกกุหลาบ ที่ เดวิด ออสติน นำมาจัดแสดงสวน เต็มไปด้วยกุหลาบพันธุ์ใหม่และเก่า รวมกันนับพันชนิด แตกต่างทั้งลักษณะการบาน สี กลิ่น ลักษณะการเติบโต และขนาด อาทิ อิงลิช เชิร์บ โรส ที่เริ่มเพาะพันธุ์ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 มีความสูง 1-1.8 เมตร และเดอะ เมย์ฟลาวเวอร์ กุหลาบสีชมพูขนาดกลาง ที่ดีต่อสุขภาพ

ประติมากรรมดอกไม้

นอกจากสวนขนาดใหญ่ ที่นำมาจัดแสดงให้ชมแล้ว งานดอกไม้ อาร์เอชเอส เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ ยังจัดแข่งขันประติมากรรมดอกไม้ ซึ่งปีนี้ได้จัดในธีม มงกุฎดอกไม้ เพื่อเป็นการระลึกถึงวันพระราชสมภพของควีน วิคตอเรีย ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2362 ที่มีผู้ร่วมส่งผลงานจากทั่วประเทศเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสนี้

มงกุฎจึงต่างแต่งแต้มออกมาด้วยไอเดียอันหลากหลาย ทั้งดอกไม้ หญ้า กิ่งไม้ และโลหะ ที่บางชิ้นทำให้เราแปลกตาไม่น้อย

รวมไปถึงประติมากรรมและการจัดดอกไม้แบบแขวน ที่เห็นแล้วชวนว้าว ได้ไม่ยาก

ความอลังการของงานดอกไม้ อาร์เอชเอส เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ ไม่อาจเก็บได้หมดในเพียงวันเดียว และตอบได้ดีว่า เหตุใดผู้คนทั่วโลกถึงหลั่งไหลไปร่วมชมดอกไม้ครั้งนี้ด้วยกัน

ความประทับใจ ผู้ชนะ

ณพาภรณ์ และ ผู้ชนะ

หลังจากบินลัดฟ้า ไปชมความงดงามของพันธุ์ไม้ ในงานอาร์เอชเอส เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ ปิยวัฒน์ มีไพฑูรย์ และ ธภัทร จิรายุวัฒน์ จากทีม โฟลว์ ดีไซน์ รางวัลชนะเลิศการประกวดโคมระย้าดอกไม้ ต่างรู้สึกประทับใจ และเตรียมนำไปเป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์ผลงานได้อีกไม่น้อย โดยนายปิยวัฒน์เผยว่า งานดอกไม้ครั้งนี้ถือเป็นงานยิ่งใหญ่ระดับโลก มีทั้งงานการจัดสวน และประติมากรรมต่างๆ ที่เห็นได้ชัดคือ งานโครงสร้างชิ้นใหญ่ๆ ที่คนไทยไม่ค่อยชำนาญเรื่องนี้ แต่เราจะเก่งงานด้านดีเทลต่างๆ มากกว่า เช่น พวกเย็บปักถักร้อย งานนี้จึงเป็นตัวอย่างให้เห็นชัดเจน เกี่ยวกับการจัดดอกไม้บนพื้นที่ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไม้ต่างๆ โดยเฉพาะกุหลาบที่มีเรื่องเล่ายาวนานแต่ละชนิด มีนักคิดที่เป็นผู้คิดสายพันธุ์กุหลาบใหม่ๆ ด้วย

น.ส.ณัฏฐาทิพย์ เจริญศิริพรกุล และ น.ส.อมรรัตน์ ไชยพิเดช จากทีม สิริมงคล รางวัลชนะเลิศการประกวดจัดสวน แฮปปี้ การ์เด้น 2 นิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ เผยร่วมกันว่า หลังจากเดินชมงานก็ประทับใจหลายส่วน แต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน อย่างในพาวิลเลียน เป็นการจัดไม้ดอก ขณะที่ข้างนอกเป็นการจัดดอกไม้เพื่อการใช้งานจริง หลายอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะสวนแต่ละที่แตกต่างกันแต่ละประเทศ ที่อังกฤษจะมีรูปปั้น และกลาสเฮาส์เป็นจุดเด่น เนื่องด้วยเป็นเมืองหนาว การปลูกพันธุ์ไม้ต่างๆ จึงเป็นเทคนิคให้ไปปรับใช้ได้

“จากที่เรียนมา เป็นสเกลค่อนข้างใหญ่ ได้มาเห็นองค์ประกอบการจัดวางสิ่งของ แต่ละสวนมีการจัดแสดงตามวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ซึ่งในประเทศไทยและทั่วโลกตอนนี้ มีการออกแบบให้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาก อย่างที่นี่มีการนำขี้เลื่อย เศษไม้มาทำโต๊ะ เก้าอี้ ก็เป็นไอเดียให้กับเรา เพราะการเรียนเรื่องการออกแบบก็ต้องดูงานของคนอื่น เพื่อไปต่อยอดไอเดียในอนาคต” ณัฏฐาทิพย์เผย

ไอเดียต่อยอด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ละลานตา! ‘นายเลิศ ฟลาวเวอร์’ คารนิวัลดอกไม้ ใจกลางเมืองหลวง

ชมเทศกาลดอกไม้สุดยิ่งใหญ่-ภายในงาน ‘ดอกไม้ปาร์คนายเลิศ’ (คลิป)

‘เล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร’ จากสาวสังคมสุดซ่าส์ สู่ผู้สร้างตำนานบทใหม่ ‘ปาร์คนายเลิศ’

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image